ศาลปกครองกลางยกคำขอ"คมนาคม"ไม่รื้อคดีค่าโง่โฮปเวลล์

23 ส.ค. 2562 | 09:18 น.
 
ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอของก.คมนาคม-รฟท. ที่ขอให้พิจารณาคดีค่าโง่โฮปเวลล์1.2หมื่นล้านใหม่ ชี้พยานหลักฐานที่เสนอไม่ใหม่ ซ้ำเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการพิพากษาคดี ผลของคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์รับพิจารณา
ศาลปกครองกลางยกคำขอ"คมนาคม"ไม่รื้อคดีค่าโง่โฮปเวลล์
 
        วันนี้(23ส.ค.2562) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ ในคดีหมายเลขแดงที่ 336-368/2557 ที่กระทรวงคมนาคม  การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ผู้ร้อง  บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คัดค้าน ซึ่งคดีดังกล่าวศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2562 ให้ กระทรวงคมนาคมและรฟท. ปฏิบัติตาม ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 119/2557 หมายเลขแดงที่ 64/2551 ลงวันที่ 30ก.ย. 51 คืนเงินค่าตอบแทนที่ บริษัทโฮปเวลล์จำกัด(ประเทศไทย) ชำระและใช้เงินในการก่อสร้างโครงการ พร้อมดอกเบี้ย ให้แก่ บริษัทโฮปเวลล์ จำกัด ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท
 
        ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมและรฟท ได้มีคำร้องยื่นต่อศาลปกครองกลางขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่า ศาลปกครองสูงสุดรับฟังข้อเท็จจริงผิดพลาด และมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานกรณีโฮปเวลล์” ซึ่งหากได้พยานหลักฐานใหม่จะนำเสนอศาลปกครองสูงสุดต่อไป ทั้งโต้แย้งเรื่องความสามารถในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในประเทศของบริษัท โฮปเวลล์ จำกัด ในขณะเข้าทำสัญญาพิพาท และอ้างว่า การที่ศาลปกครองสูงสุดมิได้ย้อนสำนวนให้ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยในประเด็นเนื้อหาแห่งคดี ถือว่า เป็นข้อบกพร่องในกระบวนการยุติธรรม
 
        ศาลปกครองกลางพิจารณาคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่กระทรวงคมนาคมและรฟท .โต้แย้งประเด็นที่ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยเรื่องระยะเวลาการใช้สิทธิเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ การเลิกกันของสัญญาพิพาท และการกลับคืนสู่ฐานะเดิมของกระทรวงคมนาคมและรฟท.ผู้ร้อง และ บริษัท โฮปเวลล์ จำกัด(ประเทศไทย)  มีลักษณะเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการพิพากษาคดี และผลของคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด
 
        
        กระทรวงคมนาคมและรฟท.ผู้ร้อง ไม่มีพยานหลักฐานที่จะนำเสนอต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเป็นพยานหลักฐานใหม่อันมีผลทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังยุติแล้วเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ คำขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 75วรรคหนึ่ง (1) และ (3) ประกอบวรรคสอง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา
        สำหรับกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมิได้ย้อนสำนวนให้ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยนั้น เป็นดุลพินิจของศาลปกครองสูงสุดที่จะวินิจฉัยข้อพิพาทตามคำอุทธรณ์ได้เอง ไม่มีบทกฎหมายที่บังคับให้ศาลปกครองสูงสุดต้องส่งคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นที่ยังมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย หรือระเบียบวิธีพิจารณาคดีปกครอง กลับไปให้พิจารณาพิพากษาใหม่ทุกกรณี อีกทั้งคดีนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยแล้วว่า คดีมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่ศาลปกครองสูงสุดจะพิจารณาพิพากษาชี้ขาดคดีต่อไปได้ เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาพิพากษาคดี จึงไม่ถือว่ามีข้อบกพร่องสำคัญในกระบวนพิจารณาพิพากษาที่ทำให้ผลของคดีไม่มีความยุติธรรม
 
        ส่วนข้อโต้แย้งเรื่องความสามารถของ บริษัทโฮปเวลล์จำกัด(ประเทศไทย) ในขณะเข้าทำสัญญาว่าเป็นการดำเนินการของคนต่างด้าวนั้น เอกสารหลักฐานดังกล่าวมิได้เป็นพยานหลักฐานที่ปรากฏขึ้นใหม่ อันมีผลทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังยุติแล้วเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ ทั้งในขณะที่ยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่นี้ 
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง