ธุรกิจมือถืออิ่มตัว "เทมาเส็ก" เทหุ้น "อินทัช" โกย 2.95พันล.
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2562 หุ้นในกลุ่มอินทัช ไล่เลียงตั้งแต่ อินทัชโฮลดิงส์ และ เอไอเอส หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) สะเทือนอย่างหนักเมื่อ เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ขายหุ้นบิ๊กลอตทั้งบนกระดานปกติ และ บนกระดานต่างประเทศ จำนวน 257.09 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 60.75 บาท รวมมูลค่า 1.56 หมื่นล้านบาท กำไรจากการขายชยในรอบนี้รวม 2.95 พันล้านบาท
แม้จะเป็นราคาต่ำกว่าตลาด หรือ คิดเป็นส่วนลดประมาณ 5.81% จากราคาปิดก่อนหน้าอยู่ที่ 64.50 บาท กดดันราคาปิดตลาดก่อนหน้าลงมาที่ 61.25 บาท ติดลบอยู่ที่ 5.04%
ถ้าย้อนกลับไป ในวันที่ 23 มกราคม 2549 เทมาเสกโฮลดิ้งส์ เข้ามาซื้อหุ้นในบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ชื่อเดิม) ผ่านครอบครัวชินวัตร จำนวน 1,478 ล้านหุ้นคิดเป็นสัดส่วน 49.595% ที่ราคาหุ้นละ 49.25 บาท รวมเป็นมูลค่า 7.32 หมื่นล้านบาท
ผลของการขายหุ้นของครอบครัวชินวัตร ส่งผลต่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องลี้ภัยทางการเมือง มีการกล่าวหาว่าการซื้อขายหุ้นครั้งนั้นหลีกเหลี่ยงหนีภาษี
หากแต่การขายหุ้นของ เทมาเสก โฮลดิ้งส์ น่าจะมาจากตลาดมือถือเริ่มอิ่มตัว เมื่อพลิกดูรายงานข้อมูลการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมไตรมาส 1/2562 ของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ปรากฏว่า มีผู้ลงทะเบียนใช้บริการเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่ประมาณ 128.21 ล้านเลขหมาย
หรือว่าธุรกิจมือถือเริ่มอิ่มตัวแล้ว! ทำให้ เทมาเสกโฮลดิ้งส์ ยอมขายหุ้นในครั้งนี้ออกไป สอดคล้องกับคำวิเคราะห์ของ นางสาวณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า บิ๊กล็อตของ INTUCH 257.09 ล้านหุ้น คิดเป็น 8 % ของจำนวนหุ้นเรียกชำระแล้ว ซึ่ง เป็นการขายของกองทุน เทมาเส็ก ซึ่งเป็นการปรับพอร์ตการลงทุน เพื่อนำเงินที่ได้ไปลงทุนหุ้นอื่น หรือในประเทศอื่นที่ให้ผลอตอบแทนที่สูง เพราะ ธุรกิจสื่อสารในประเทศไทย นั้น อยู่ในช่วงการลงทุนเฟสใหม่ เป็น 5G ทำให้การเติบโตจะไม่มาก
หลังจากนี้ต้องจับตาดูว่า เทมาเสก โฮลดิ้งส์! จะยอมขายหุ้นในอินทัช ออกไปหรือไม่!
