'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

15 ส.ค. 2562 | 03:35 น.

“ปราโมทย์” แม่ทัพชาวนาชี้แจง อนุฯ ข้าว กมธ.เกษตรฯ พร้อมยื่น 7 ข้อเรียกร้องมติที่ประชุมาสมาคม เผยต้นทุนสูง ขณะที่เผชิญภัยแล้งคุกคาม อ้อน ธ.ก.ส.พักชำระหนี้ทั้งต้นและดอก พ่วงนโยบายประกันราคาข้าวทุกชนิดต้องชัดเจนตามที่รัฐบาลได้หาเสียงไว้

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทางสมาคมและอุปนายก ได้ไปชี้แจงกับนาย อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม  ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหาเรื่องข้าว เรื่อง ข้อเสนอและแนวทางการแก้ปัญหาในเรื่องข้าวและชาวนา  เนื่องด้วยทางสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยได้รับทราบปัญหาจากหลายภาคส่วน เกี่ยวกับเรื่องราคาผลผลิตข้าวเปลือกที่ตกต่ำในข้าวเปลือกบางชนิด (โดยเฉพาะข้าวเปลือกเจ้าที่เป็นข้าวพื้นแข็งที่อยู่ในกลุ่มข้าว 5% เช่น พันธุ์ กข47,49,57,61และ41)ซึ่งเป็นกลุ่มข้าวพื้นแข็ง (ที่เป็นข้าวเกี่ยวสด) ราคาขายอยู่ที่เพียงประมาณ 6,500-6,800 บาท/ตัน  

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

อีกทั้งยังมีการรับทราบปัญหาจากสมาชิกเรื่องปัญหาภัยแล้งอย่างหนักในช่วงฤดูกาลผลิตนี้ ที่ ณ ปัจจุบัน ยังคงไม่ได้รับการดูแลอย่างเพียงพอในเรื่องของการจัดการน้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน และที่อยู่ปลายคลองชลประทานซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายที่รุนแรงและอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นไปอีกในวงกว้างได้

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ขอยืนยันว่าเกษตรกรทุกรายนั้น มีการปรับเปลี่ยน และพัฒนาตัวเองมาโดยตลอด และพยายามสร้างความเข้มแข็งด้วยตัวเองเพื่อไม่อยากให้เป็นภาระของรัฐบาล แต่ด้วยเหตุดังกล่าว   ถือเป็นเหตุสุดวิสัยในเรื่องภัยธรรมชาติ และภัยทางเศรษฐกิจ ซึ่งเกษตรกรเองก็อยู่ในสภาวะที่พยายามเอาตัวรอดมาโดยตลอด และปัญหาเหล่านี้ ถือว่าเป็นภาระอันหนักหน่วงและจำเป็นอย่างยิ่งที่ทางภาครัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือ  จึงดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมาและมีมติสมาคมฯ ให้ทางคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหาเรื่องข้าว เร่งหาทางดำเนินการเข้าไปช่วยเหลือ เกษตรกรชาวนาในเบื้องต้นตามที่สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยได้เสนอมาโดยเร่งด่วน

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

ทั้งนี้เรื่องที่สำคัญในอันดับต้นที่ควรรีบเร่งให้ความช่วยเหลือนั้นประกอบไปด้วย 1.เรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ได้แก่ การดำเนินการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติเพื่อเร่งเยียวยาในเบื้องต้น และจ่ายค่าสินไหม ที่เกษตรกรได้ทำประกันภัยพืชผลไว้ โดยพิจารณาเป็นรายๆตามข้อเท็จจริงตามที่ได้รับความเสียหาย  ทั้งนี้รวมถึงเกษตรกรบางส่วนที่มีพื้นที่เพาะปลูกอยู่นอกเขตภัยพิบัติแต่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติดังกล่าว ซึ่งก็ควรที่จะได้รับค่าชดเชยเยียวยานี้เช่นกัน  เนื่องจากเพื่อให้เกษตรกรบางส่วนที่ได้รับความเสียหายเหมือนกัน สามารถมีโอกาสเข้าถึงการรับสิทธิ์จ่ายเบี้ยประกันที่ได้จ่ายไปแล้วอย่างทั่วถึง

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

“เสนอประกาศเรื่องภัยแล้งเป็นเรื่องเร่งด่วนและผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ ให้ตัดคำว่าเสียหายโดยสิ้นเชิงออก และให้ประกาศภัยพิบัติตามความเป็นจริง มิใช่ต้องเสียหายร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วจึงช่วยเหลือ โดยแยกเป็นระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด และให้ปฏิบัติเหมือนกันทั้งประเทศ เพิ่มวงเงินช่วยเหลือภัยแล้ง ในวงเงิน 2000-2500 บาท/ไร่ ตามความเป็นจริงที่เกษตรกรแจ้งหามาตรการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในช่วงภัยแล้งโดยใช้โครงการต่างๆที่รัฐสนับสนุนปลูกพืชใช้น้ำน้อย และร่วมผลักดันการปลูกกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ โดยเกษตรกรมีส่วนร่วม

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

นอกจากนี้เสนอมาตรการช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์ให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบภัยแล้งโดยเร่งด่วน และหาวิธีการนำน้ำใต้ดินมาใช้ประโยชน์ ในโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน แบบลงทุนให้ฟรี และกระจายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ประสบภัย รวมถึงเร่งผลักดันโครงการต่างๆ ทั้งขุด เจาะ ลอกขยาย เพื่อสร้างแหล่งน้ำ และสร้างการเตรียมพร้อมในอนาคต เช่น อำเภอหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ที่ขอขุดลอกบึงสาธารณะสวนหลวง ร.9 พื้นที่ชุ่มน้ำทุ่งกระเต็น และรัฐควรขุดลอก ลำรางสาธารณะทั่วประเทศทั้งหมด ตามที่พื้นที่ได้ร้องขอ เร่งเยียวยาผู้เข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนแปลงเกษตรอินทรีย์ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้ และเสนอให้กระทรวงพาณิชย์เปิดโครงการธงฟ้าราคาประหยัดเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้ง

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

2. เรื่องการประกันรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวนา ตามที่ได้ประกาศเป็นนโยบายไปแล้ว  รัฐจะปฏิบัติตามนโยบายที่หาเสียงไว้เมื่อไร เกษตรกรยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนถึงการช่วยเหลือในแต่ละชนิดของข้าว  รวมถึงวิธีการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรในเรื่องของค่าใช้จ่ายเรื่องต้นทุนการผลผลิต และเก็บเกี่ยว  ที่สำคัญโดยเฉพาะเกษตรกรที่ได้ลงทุนไปแล้ว แต่ยังไม่มีผลผลิต หรือได้ผลผลิตเพียงบางส่วนเนื่องจากได้รับผลกระทบด้านภัยแล้ง ทางสมาคมฯ จึงขอเสนอแนวทางเลือกใน สองมาตรการเพื่อให้หน่วยงานรัฐเร่งดำเนินการดังนี้

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

“ มาตรการโครงการประกันรายได้ ต้องประกันราคารับซื้อข้าวเปลือก ชนิดข้าวขาว ตันละ 10,000 ข้าวหอมปทุม ตันละ 12,000 ข้าวหอมมะลิ ตันละ 15,000 โดยประกันราคาทุกเมล็ด มาตรการชะลอการขายหรือชดเชย จำนำยุ้งฉาง ชดเชยค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ 2,000 จำนวน 20 ไร่     ค่าปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ ค่าเตรียมดิน ไร่ละ 1,500 จำนวน 20 ไร่ / ค่าฝากเก็บยุ้งฉาง ตันละ 1,500 บาท  ไม่จำกัดจำนวนตัน  โดยให้รัฐรีบดำเนินการโดยทันที่

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

3. เรื่องการอนุมัติการพักชำระหนี้เกษตรกรทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย ในระยะ 5 ปี ร่วมถึงอนุมติวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยถูกพิเศษ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวนา ในการสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ เพื่อเลี้ยงครอบครัว และชำระหนี้  รวมถึงพิจารณาผลตอบแทนสำหรับลูกหนี้ที่เป็นลูกค้าชั้นดี  เพื่อกระตุ้น ส่งเสริมให้เป็นแบบอย่าง การช่วยเหลือเพื่อลดต้นทุน และเพื่อให้มีรายได้มากขึ้น มิฉะนั้นชาวนาจะมีแต่หนี้สินพอกพูนและ และเป็นภาระต่อภาครัฐไปตลอด

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

4.เรื่องการพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีผลผลิตต่อไร่ที่สูงขึ้น เพื่อตอบโจทย์ชาวนา และตอบโจทย์ด้านการตลาดและควรให้มีการคัดสายพันธุ์ ข้าวหอมพวงให้ได้พันธุ์แท้ บริสุทธิ์และรับรองพันธุ์ จำหน่ายพันธุ์ได้อย่างถูกต้อง เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกร ซึ่งทุกวันนี้เกษตรกรใช้วิธีต่อพันธุ์กันเอง ตั้งชื่อกันไปต่างๆนาๆ เพราะกลัวการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ และเสี่ยงต่อปัญหาเรื่องของพันธุ์ปน คุณภาพข้าวลดลงในอนาคต

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

5. เรื่องปัญหาค่าเช่าพื้นที่ทำนา เป็นจำนวนเงินที่สูง ซึ่งถือเป็นต้นทุนสำหรับเกษตรกรที่ทำนาเช่า อีกทั้งยังมีการสวมสิทธิ์ โดยเจ้าของนาเป็นผู้แจ้งขึ้นทะเบียนเอง เพื่อรอรับเงินเยียวยาจากนโยบายภาครัฐ  ซึ่งเป็นการรั่วไหลของงบประมาณรัฐที่มีจำนวนจำกัด และเกษตรกรไม่ได้รับสิทธิ์การช่วยเหลืออย่างแท้จริง     ในการประชุมกรรมการสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย จึงมีมติดังนี้

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

“ขอให้รัฐบาลบังคับใช้พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อย่างมีประสิทธิภาพ และให้นำมาตรา 5 มาบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ โดยการออกกฎกระทรวงคุ้มครองพืชชนิดอื่นๆด้วย เพื่อชาวนาจะได้ทำไร่ ทำนา ทำสวนผสมได้ เมื่อล้มแล้วจะได้มีที่พึ่งพิงหน่วยงานรัฐโดยกรมส่งเสริมเกษตรกร ต้องเข้มงวดเรื่องการแจ้งขึ้นทะเบียนรายใหม่ที่เป็นผู้ให้เช่านา ว่ามีการได้ทำจริงหรือไม่ มีการสวมสิทธิ์หรือไม่ โดยใช้มาตรการข้อกฎหมาย อย่างเคร่งครัด ให้เกษตรกรที่ปลูกพืชในพื้นที่ ภบท.5 หรือพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ทำการเพาะปลูกจริง สามารถเข้าร่วมโครงการของรัฐได้

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

6. เรื่องแก้ปัญหาปัจจัยการผลิตพื้นฐานที่เป็นต้นทุนที่สูงของเกษตรกรชาวนา ภาครัฐโดยกระทรวงพาณิชย์ควรกำกับดูแล ในเรื่องปัจจัยการผลิต ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยา และสารนำเข้า ให้มีราคาที่เหมาะสมกับราคาผลผลิต

'รัฐบาล'ต้องอ่าน!! ตีแผ่  7 ข้อสมาคมชาวนาฯ

7.ให้รัฐผลักดันเรื่องสวัสดิการชาวนา การคุ้มครองและการช่วยเหลือชาวนาผู้สูงอายุ การคุ้มครองแรงงานภาคการเกษตร รวมถึงการมีสวัสดิการการเบิกจ่ายสิทธิ์การรักษา เบิกจ่ายค่าเล่าเรียนบุตรหลาน การมีบำเน็จบำนาญโดยการออม โดยฝากเก็บคนละครึ่งกับรัฐ และการขึ้นทะเบียนแรงงานภาคการเกษตร เพื่อได้รับสิทธิ์ค่ารักษา การตรวจสุขภาพประจำปี รวมถึงการฝึกอบรม การตระหนักรู้ในเรื่องต่างๆ ทั้งข้อมูลการใช้สารเคมี และความประมาทในการใช้เครื่องมือทางการเกษตร