“บิ๊กป้อม”คุม“พปชร.” จากหลังฉาก สู่หน้าฉากการเมือง

14 ส.ค. 2562 | 07:30 น.

  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ          

“อยากให้ ส.ส.มีความรักความสามัคคีกัน ทำงานร่วมกัน มีความคิดอันเดียวกัน”

 

เป็นวลีเด็ดจากปาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี  ที่วันนี้ก้าวออกมาอยู่หน้าฉากการเมืองอย่างเต็มตัว ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตามมติคณะกรรมการบริหารพรรค  และนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ได้ลงนามแต่งตั้งเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา  โดย“บิ๊กป้อม”มีกำหนดการที่มาเปิดตัวในการประชุมส.ส.ที่พรรคพปชร.ในวันที่ 20 ส.ค.นี้ เวลา 15.00 น.    


    
ขั้นตอนหลังจากนี้พล.อ.ประวิตร จะพิจารณาเลือกคณะกรรมการด้วยตัวเอง เบื้องต้นจะมีโครงสร้างบุคลากรประมาณ 15 คน ประกอบด้วย รองประธานยุทธศาสตร์ เลขานุการ รวมถึงคณะทำงานแต่ละฝ่าย  มีรายงานว่าคณะกรรมการบริหารพรรคได้วางโครงสร้างกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไว้ให้ พล.อ.ประวิตร พิจารณาบุคคลที่จะมาอยู่ในตำแหน่งต่างๆ อาทิ

 

ตำแหน่งเลขาธิการ  มีชื่อนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึง นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและประธานวิปรัฐบาล , นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรีและประธาน ส.ส. รวมถึง นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี รับผิดชอบด้านการชี้แจงตอบโต้ประเด็นที่พรรคถูกโจมตี , “มาดามเดียร์”นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ รับผิดชอบด้านประชาสัมพันธ์

 

นอกจากนั้นประธานยุทธศาสตร์พรรค ยังสามารถแต่งตั้งอนุกรรมการรับผิดชอบงานในด้านต่างๆได้อีกด้วย   ซึ่งบทบาทของคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค จะทำหน้าที่รับฟังและแก้ปัญหาให้กับ ส.ส.และประชาชนในพื้นที่   

 

 “บิ๊กป้อม”คุม“พปชร.” จากหลังฉาก สู่หน้าฉากการเมือง
หากย้อนดูบทบาทของ “บิ๊กป้อม” ในอดีต เขาไม่ใช่บิ๊กทหารมือละอ่อนทางการเมือง เพราะในห้วง 10 ปี ที่ผ่านมา นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มากว่า 7 ปี เริ่มตั้งแต่รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่ง 2 ปีครึ่ง และเป็นรองนายกรัฐมนตรีควบเจ้ากระทรวงกลาโหม อีก 5 ปี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
    
เป็นที่รู้ดีว่า คอนเน็กชันในทางการเมือง “บิ๊กป้อม” ไม่ธรรมดา เริ่มตั้งแต่ได้ทำงานใกล้ชิดกับ สุเทพ เทือกสุบรรณ ขณะเป็นรองนายกรัฐมนตรี ยังสั่งสมมาอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงยุคปัจจุบันที่มี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค และ เฉลิมชัย ศรีอ่อน แม่บ้านพรรคคนล่าสุด

 

 

ถึงขั้นว่ากันว่า คนที่อยู่เบื้องหลังกาวใจตัวจริงให้ประชาธิปัตย์ ร่วมหอกับรัฐบาลที่มีพลังประชารัฐเป็นแกนนำ เป็นการต่อสายระหว่าง “บิ๊กป้อม” กับ “เฉลิมชัย” โดยมีเป้าหมายที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล “ประยุทธ์ 2/1” พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ อ้างเรื่องสุขภาพ เพื่อเปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอีกตำแหน่ง แต่เป็นที่รู้ดีในแวดวงการเมือง-การทหาร ว่า “พี่ใหญ่” ไม่เคยทิ้งน้องให้โดดเดี่ยวในสนามการเมืองหลังเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 และได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาตามเส้นทางประชาธิปไตยแล้วก็ตาม


        

 ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ลดบทบาทของฝ่ายบริหารลง ด้วยการนั่งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี แม้ไม่ได้ดูแลงานด้านความมั่นคงโดยตรง แต่ได้รับมอบหมายภารกิจจากนายกรัฐมนตรี ให้กำกับดูแลงานที่เชื่อมโยงกับด้านความมั่นคง อาทิ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สภา ความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทั้งยังกำกับดูแล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน และสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)

 “บิ๊กป้อม”คุม“พปชร.” จากหลังฉาก สู่หน้าฉากการเมือง


  ที่เรียกเสียงฮือฮาในการเข้ามาสัมผัสงานการเมืองอย่างเต็มตัวของ “บิ๊กป้อม” หลังมีกระแสข่าวอย่างต่อเนื่อง ก็คือเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา “บิ๊กป้อม” โผล่ไปร่วมเปิดงานสัมมนาพรรคพลังประชารัฐ ที่รีสอร์ต 88 การ์มองเต้ อ.วังนํ้าเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อม ส.ส.ก่อนที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 25-26 กรกฎาคมที่ผ่านมา

 

 “บิ๊กป้อม”คุม“พปชร.” จากหลังฉาก สู่หน้าฉากการเมือง

 การปรากฏตัวของพล.อ. ประวิตร และภาพที่นั่งหัวโต๊ะร่วมรับประทานอาหารเช้ากับ ส.ส. และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง และเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หลายฝ่ายมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ และส่งสัญญาณการเปิดตัวมาคุมพรรคพลังประชารัฐ อย่างเต็มตัวของ “บิ๊กป้อม”
     

วันนี้บทบาท"ประธานยุทธศาสตร์พรรค" น่าจะการันตีบารมี “บิ๊กป้อม” ในพรรคพลังประชารัฐได้เป็นอย่างดี

 “บิ๊กป้อม”คุม“พปชร.” จากหลังฉาก สู่หน้าฉากการเมือง