‘สิงห์’ทุ่มพันล้านอัดสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง

“สิงห์” ลุยแหลกทุ่มกว่า 1,000 ล้านบาทดัน “สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง” กว่า 1,000 อีเวนต์ จัดหนักทั้ง ฟุตบอล MOTO GP กอล์ฟ ทั่วโลก ซินเนอร์ยีพอร์ตสินค้าในเครือปูพรมกิจกรรมการตลาดครบวงจร เจาะทุกกลุ่มลูกค้าเสริมแกร่งแบรนด์ลอยัลตี

นายจาตุรนต์ หิมะทองคำ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ “สิงห์” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สิงห์จะใช้กลยุทธ์ “สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง” เป็นยุทธศาสตร์หลักในการเดินหน้าแบรนด์ให้แข็งแกร่งในตลาดโลก ผ่านการทำกิจกรรมด้านกีฬาอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้งในแต่ละประเทศจะแตกต่างกันออกไป เพื่อให้ตอบสนองความต้องการและความนิยมในด้านกีฬาที่ต่างกันของคนในพื้นที่

“สินค้าของสิงห์ไม่ใช่รถยนต์ ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ เป็นคอนซูเมอร์โปรดักต์และไม่ใช่บริษัทขายเบียร์เพียงอย่างเดียว ที่จะเน้นตอบโจทย์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้งเฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่ แต่สินค้ามีหลากหลายตั้งแต่นํ้าแร่ โซดา ฯลฯ นั่นคือข้อดีของการตอบโจทย์ความหลากหลายในการทำสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง อีกทั้งปัจจุบันสปอร์ต มาร์เก็ตติ้งถือเป็นศาสตร์ที่กว้างมากจำเป็นต้องมีการเจาะลึกตั้งแต่ประเภทของกีฬา ความนิยมในแต่ละประเภท ซึ่งไม่สามารถเหมารวมได้ ทำให้กลยุทธ์ในแต่ละประเทศจำเป็นต้องมีความหลากหลาย”

สำหรับแนวทางการทำสปอร์ต มาร์เก็ตติ้งในระดับโลกนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมทางการตลาดกว่า 1,000 รายการ ภายใต้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งที่บริษัทให้ความสำคัญในแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะการเป็นพาร์ตเนอร์กับ MOTO GP การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก,สโมสรฟุตบอลเชลซี, ทีมแข่งรถอัลฟา โรมิโอ เรซซิ่ง (สิงห์สนับสนุน คิมี่ ไรโคเน่น) เป็นต้น โดยเฉพาะในส่วนของฟุตบอล EPL (English Premier League ) ที่บริษัทครํ่าหวอดมาร่วม 20 ปี จนสามารถสร้างแบรนด์สิงห์ในประเทศอังกฤษและมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งมีแบรนดิ้งที่แข็งแกร่งมากขึ้น

“ช่วงแรกของการเข้าทำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งของพรีเมียร์ลีกในอังกฤษเป็นการทดลองเป็นสปอนเซอร์ป้ายที่สนามราว 7-8 สนาม หลังจากนั้นไปเป็น Official Partner ให้กับหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีก ทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนฯยูฯ, เลสเตอร์ ซิตี้ จนปัจจุบันมาเป็น Official Partner ให้กับสโมสรฟุตบอลเชลซี สู่ปีที่ 10 (ปัจจุบันต่อสัญญาเพิ่ม 3 ปี) ซึ่งสิ่งที่เห็นชัดเจนตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมาที่เข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์ใน EPL คือเรื่องของยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น แบรนดิ้งที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และพรีเมียร์ลีกคือหนึ่งในกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ในอังกฤษและฐานผู้ชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกทั่วโลกให้รู้จักแบรนด์ หลังจากที่ช่วงแรกที่เราเข้าไปทำตลาดขึ้นป้ายโลโกสิงห์ บางคนไม่รู้จักว่าสิงห์คืออะไร บางคนรู้จักแค่ว่าสิงห์คือเบียร์ แต่ที่มาที่ไปรสชาติหรืออื่นๆไม่มีใครรู้เลย แต่ตลอดช่วงที่ผ่านมาที่เราเข้าไปทำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งแบรนดิ้งของสิงห์แข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมากในอังกฤษคนรู้จักเรามากขึ้น ชื่นชอบเรามากขึ้น และที่สำคัญยอดขายมากขึ้นตามไปด้วย”

ขณะที่สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งภายในประเทศก็จะยังคงเดินหน้าสนับสนุนรายการสำคัญๆอย่างต่อเนื่อง ผ่านกีฬาฟุตบอล ทั้งการเข้าไปให้การสนับสนุนทีมในไทยลีกและลีกภูมิภาคและมีส่วนร่วมกว่า 30 ทีม พร้อมกันนี้ยังสนับสนุนโปร “อาร์ม-กิรเดช” ซึ่งโปรอาร์มเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับทัวร์การ์ด เพื่อไปแข่งพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2019 ล่าสุดได้เข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์กับทรู วิชั่นส์ ในการถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในประเทศไทย พร้อมทั้งมีแผนการจัดกิจกรรมออนกราวด์ภายในประเทศ ทั้งการชมฟุตบอล การร่วมกิจกรรมมากมาย เพื่อสร้างเอ็นเกจเมนต์ไปยังผู้บริโภคที่หลากหลาย ควบคู่กับการผสานดิจิทัลแพลตฟรอมร่วมกับทางทรูวิชั่นส์ในการสื่อสารไปยังผู้ชมมากขึ้น 

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,496 วันที่ 15 - 17 สิงหาคม พ.ศ. 2562