เด้งรับสื่อออนไลน์โต รีไพร์สเร่งต่อยอดข้อมูล

16 ส.ค. 2562 | 05:53 น.

“รีไพร์ส” เด้งรับกลุ่มธุรกิจรุกคืบออนไลน์ มุ่งบริหารจัดการ Big Data ตอบโจทย์ลูกค้า ด้านบริษัทแม่ บิ๊กเนมทั้ง Facebook, Google หวังเชื่อมข้อมูลสู่การวางแผน Cross Platform

นายศุภฤกษ์ ตั้งเจริญศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีไพร์ส ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันการนำ Big Data มาใช้ต่อยอดวางแผนธุรกิจนับว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวสามารถเจาะลึกถึงข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้สมาร์ทโฟนแต่ละวันได้ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ดังนั้นแบรนด์สินค้าเกือบทุกแบรนด์จึงให้ความสำคัญกับการทำการตลาดดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะใน 4 กลุ่มธุรกิจหลักที่มีการใช้จ่ายสื่อโฆษณาผ่านออนไลน์มากกว่า 50% ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว 2. ธุรกิจความสวยความงาม 3.Consumer Electronics และกลุ่มธุรกิจสุดท้ายที่มีแนวโน้มการใช้เงินโฆษณาออนไลน์เพิ่มขึ้น คือ 4.กลุ่มผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน

“การใช้จ่ายเงินสื่อโฆษณาปัจจุบันขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ หากเป็นกลุ่มสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค หรือ FMCG จะใช้เงินโฆษณาผ่านสื่อออฟไลน์ 70% และออนไลน์ 30% แต่จะมีสินค้าบางประเภทเช่น สินค้ากลุ่มแม่และเด็ก ที่เริ่มหันมาใช้เงินสื่อโฆษณาบนออนไลน์มากขึ้นเกินกว่า 50% เนื่องจากพบว่ากลุ่มลูกค้าผลิตภัณฑ์แม่และเด็กจะเข้าถึงโฆษณาและรับรู้ข้อมูลส่วนใหญ่ผ่านโลกออนไลน์”

เด้งรับสื่อออนไลน์โต รีไพร์สเร่งต่อยอดข้อมูล

             ศุภฤกษ์ ตั้งเจริญศิริ

ในแง่การทำงานของเอเยนซีปัจจุบัน ค่าบริการของเอเยนซีขึ้นอยู่กับตามการลงทุนของแบรนด์ในการลงทุนใช้จ่ายสื่อ ซึ่งแบรนด์ส่วนใหญ่ตอนนี้มองหาความคุ้มค่าทั้งในแง่ของการเข้าถึงผู้บริโภคและการซื้อขาย ซึ่งบริษัทต้องเร่งหามุมการตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้สูงสุด โดยเฉพาะการให้บริการดิจิทัลรูปแบบ Full Service และการให้บริการรูปแบบดังกล่าวได้จำเป็นต้องนำ Data มาใช้และบริหารจัดการให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดแก่ลูกค้า

เด้งรับสื่อออนไลน์โต รีไพร์สเร่งต่อยอดข้อมูล

“ในช่วงที่ผ่านมาแบรนด์ต่างๆ หันมาให้ความสนใจการทำตลาดออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้เอเยนซีต้องปรับรูปแบบการทำงานใหม่ โดยเฉพาะเรื่องของวางแผนการใช้สื่อ เพราะในอดีตการวางแผนดังกล่าวจะวัดค่าแยกกันระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์ แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยี หรือเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามาทำให้การวัดค่าดังกล่าวไม่สามารถวัดแยกกันได้อีกต่อไป ดังนั้นการวัดค่าปัจจุบันจึงเป็นการวัดค่าแบบภาพรวม ส่งผลให้เอเยนซีต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อที่จะค้นหาว่าแพลตฟอร์มประเภทไหนจะตอบโจทย์ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้น”

ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมาบริษัท ไอพีจีฯ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในต่างประเทศได้จับมือเป็นพาร์ตเนอร์กับ Google และ Facebook เพื่อนำข้อมูลและเครื่องมือต่างๆมาต่อยอดธุรกิจการซื้อสื่อง่ายขึ้น โดยเฉพาะการซื้อสื่อรูปแบบ Cross Platform เช่น การนำข้อมูลการเสิร์ชมาใช้เพื่อรับรู้การเดินทางของผู้บริโภคในออนไลน์ว่าผู้บริโภคแต่ละกลุ่มอยู่ที่ใดบ้าง และแต่ละแพลตฟอร์มมีคนเข้าใช้มากน้อยแค่ไหน และการประมวลข้อมูลรวมถึงการวิเคราะห์วางแผนปัจจุบันจำเป็นต้องใช้คน บริษัทจึงได้เพิ่มบุคลากรในสายงานวิเคราะห์ วางแผน รวมถึงครีเอทีฟเข้ามาเพิ่มเป็น 30 คน จากในปีก่อนมีบุคลากรทำงานแค่ 15 คน

เด้งรับสื่อออนไลน์โต รีไพร์สเร่งต่อยอดข้อมูล

นอกจากนี้บริษัทยังคงตอกยํ้าการสร้างการรับรู้สู่ลูกค้าจากเดิมที่เคยเป็นมีเดีย เอเยนซีสู่การเป็นเอ็กซ์พีเรียน เอเยนซี พร้อมกับแผนก Data และ Analytics (การวิเคราะห์ข้อมูล) ซึ่งจะทำให้รีไพร์สกลายเป็นเอเยนซีที่ให้บริการลูกค้าแบรนด์ต่างๆ ได้ครบวงจรมากขึ้น ซึ่งการทำงานของบริษัทมีจุดเด่น 2 ด้าน คือ 1.เครื่องมือและการเก็บข้อมูลต่างๆ 2.รูปแบบ การทำงาน ในด้านของเครื่องมือและการเก็บข้อมูล 

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3496 ระหว่างวันที่ 15 - 17 สิงหาคม 2562