ฮอนด้าหัวใจ1.5 เทอร์โบสู้ไฮบริดโตโยต้า-ทีเด็ดอีโคคาร์ใหม่"ซิตี้ วางเครื่องเล็ก"

15 ส.ค. 2562 | 04:50 น.

 

ฮอนด้ามั่นใจ “ซีวิค” ยังแรงแม้โตโยต้าเตรียมปิดตัว “โคโรลล่า อัลติส โฉมใหม่” เชื่อขุมพลัง 1.5 ลิตร เทอร์โบ สู้ ไฮบริดได้ ส่วนปลายปีมีทีเด็ด “ซิตี้ อีโคคาร์” 1.0 ลิตร เทอร์โบ

ตลาดรถยนต์นั่งผ่านครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.62)ทำยอดขายไป 206,540 คัน โต 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดย “โตโยต้า” กวาดแชมป์เกือบทุกเซ็กเมนต์ จะมีเพียงกลุ่มคอมแพ็กต์คาร์ที่กิน “ฮอนด้า ซีวิค” ไม่ลง โดย 6 เดือนที่ผ่านมา โคโรลล่า อัลติส ขายได้ 6,691 คัน ลดลง 60% ส่วนซีวิค ทะลุไป 15,477 คัน เพิ่มขึ้น 10.3%

ล่าสุดกับการเตรียมเปิดตัว โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส โฉมใหม่ ในเดือนกันยายนนี้ซึ่งบางดีลเลอร์เปิดเผยข้อมูลและรับจองสิทธิ์ซื้อล่วงหน้ากันแล้ว โดยรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) มี 3 ขุมพลังในการทำตลาดในเมืองไทยคือ เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ราคาไม่เกิน 8.7 แสนบาท และเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.8 ลิตร ประกบเกียร์ CVT มาพร้อมการตกแต่งแบบสปอร์ต ขายราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท และกลุ่มไฮบริด มี 3 รุ่นย่อย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่นิกเกิลเมทัล ไฮดราย ราคาอยู่ระหว่าง 9 แสน- 1.1 ล้านบาท

ฮอนด้าหัวใจ1.5 เทอร์โบสู้ไฮบริดโตโยต้า-ทีเด็ดอีโคคาร์ใหม่"ซิตี้ วางเครื่องเล็ก"

 

ในขณะที่ฮอนด้า ซีวิค ตัวถังซีดาน เพิ่งไมเนอร์เชนจ์ปลายปีที่แล้ว แบ่งการขายเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร รุ่น 1.8 E CVT 8.74 แสนบาท และ 1.8 EL CVT 9.64 แสนบาท เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 1.104 ล้านบาท และตัวท็อป RS 1.219 ล้านบาท

“พูดถึงเทคโนโลยีดาวน์ไซซิงเครื่องยนต์ที่ฮอนด้านำมาใช้ใน ซีวิค และแอคคอร์ด พบว่าลูกค้ามีความมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ด้วยสมรรถนะที่ยังตอบสนองดี และมีอัตราบริโภคนํ้ามันตํ่า ยิ่งลูกค้ามีโอกาสได้ทดลองขับ ข้อกังวลต่างๆเกี่ยวกับรถเครื่องยนต์เล็กมีเทอร์โบก็หายไปเรื่อยๆ นายณัฏฐ์ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า

สำหรับการเปิดตัวรถคอมแพ็กต์คาร์รุ่นใหม่ๆในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้จะช่วยพยุงสถานการณ์ตลาดได้เป็นอย่างดี และการแข่งขันในเชิงเครื่องยนต์ เรามั่นใจว่าสู้ได้ แต่รถหนึ่งคันคงต้องดูรายละเอียดอื่นๆประกอบอย่าง อุปกรณ์และความคุ้มค่าด้วย

ปัจจัยหลักในการซื้อรถกลุ่มคอมแพกต์คาร์ของคนไทยคือ ต้องออกแบบสวยงาม มีความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ตามด้วยสมรรถนะการขับขี่ ซึ่งฮอนด้า ซีวิค ตอบสนองตรงนี้ได้

“ไฮบริดเป็นเทคโนโลยีที่หลายค่ายรถยนต์มุ่งไป ในส่วนฮอนด้าก็มองอยู่ว่าจะนำมาใช้ในรุ่นไหนอย่างไร แต่อีกด้านหนึ่งเรายังต้องนำเสนอจุดเด่นของเทคโนโลยีดาวน์ไซซิ่ง ที่โดดเด่นทั้งเรื่องความประหยัดนํ้ามัน และสมรรถนะการขับขี่ที่ตอบโจทย์การใช้งาน”นายณัฏฐ์ กล่าว

นอกจากโตโยต้า โคโรลล่า อัลติสโฉมใหม่แล้วกลุ่มคอมแพ็กต์คาร์เตรียมต้อนรับ “มาสด้า 3 โมเดลเชนจ์” ที่จะเปิดตัวใน งานบิ๊ก มอเตอร์เซล 2019 ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่เน้นสมรรถนะการขับขี่และการออกแบบสไตล์สปอร์ตแนวเดียว กับฮอนด้า ซีวิค เช่นกัน

 

สำหรับฮอนด้า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเปิดตัวโปรดักต์แบบโกลบอลโมเดล และเป็นรุ่นแฟลกชิฟของค่ายอย่าง “แอคคอร์ด โฉมใหม่” โดยรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทยอยส่งมอบตั้งแต่เดือนมิถุนายน และรุ่นไฮบริดเพิ่งเริ่มส่งมอบเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มียอดจองรวม 4,500 คัน ฮอนด้าคาดหมายสัดส่วนการขายทั้ง 2 ขุมพลังเท่ากันที่ 50:50

อย่างไรก็ตาม ปลายปีนี้ฮอนด้ายังมีทีเด็ดกับอีโคคาร์รุ่นใหม่ โดยตามแผนงานเมื่อ “บริโอ้”
(อีโคคาร์เฟสแรก) สิ้นสุดอายุการทำตลาดจะไม่มีโมเดลนี้ต่อไป แต่การทำตลาดอีโคคาร์ เฟส 2 ตามที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ จะถูกแทนที่ด้วยเก๋งซีดาน “ซิตี้ โฉมใหม่” ที่หันมาวางเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ เพื่อผ่านเงื่อนไขอัตราบริโภคนํ้ามัน และค่าไอเสียตามที่รัฐบาลกำหนด ส่วนปีหน้าเก๋งแฮตช์แบ็ก “แจ๊ซ โฉมใหม่” จะเดินตามแนวทางนี้เช่นกัน

“กลุ่มรถเล็กปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อจะต่างกับกลุ่มคอมแพ็กต์คาร์เล็กน้อย โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบแต่เน้นความคุ้มค่า และอัตราบริโภคนํ้ามัน รวมถึงราคาขายต่อ มากกว่าสมรรถนะการขับขี่ ซึ่งลูกค้าอาจจะไม่ค่อยสนใจว่าเครื่องยนต์จะขนาดเท่าไหร่ แต่ขอให้ประหยัดนํ้ามัน พร้อมความอเนกประสงค์ใช้งานได้หลากหลาย” นายณัฏฐ์ กล่าว

สำหรับยอดขายครึ่งปีแรกของฮอนด้ารวมทุกรุ่นทำได้ 64,699 คัน โต 8.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พร้อมครองส่วนแบ่งการตลาด 12.4% 

 

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,496 วันที่ 15 - 17 สิงหาคม พ.ศ. 2562