พยานอินโดฯแฉติดสินบน 3 เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ไทยคดีปาล์มนํ้ามัน

07 ส.ค. 2562 | 04:17 น.

พยานชาวอินโดนีเซียแฉมีการติดสินบน 3 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ไทย ในคดีปาล์มนํ้ามัน เรียกร้องให้ลงโทษบุคคลที่เกี่ยวข้องการทุจริตโครงการปาล์มอินโดนีเซีย
         ทั้งนี้การติดสินบนในรูปแบบให้ของขวัญเกิดขึ้นที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2560 โดยนางรสยา เธียรวรรณ หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา และเป็นจำเลยที่นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท กรีน เอ็นเนอร์ยี จำกัด (พีทีทีจีอี) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องฐานทุจริตในโครงการ และเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งได้ร้องทุกข์ต่อ ป.ป.ช. ไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2556 เนื่องจากเดินทางไปอินโดนีเซียในช่วงระยะเวลาเดียวกับคณะข้าราชการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  
          นางแนนซี มาร์ทาสุตา ชาวอินโดนีเซีย ระบุว่า เป็นพยานเพียงคนเดียวในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า นายเบอร์-ฮานุดดิน ได้เบิกความว่า “การติดสินบนครั้งนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมายนางรสยา เธียรวรรณ ไม่สามารถทำเรื่องนี้ให้ฉันแน่นอนในฐานะที่ฉันรู้จักเธอมานานหลายปี และทุกวันนี้เธอเคยให้ของขวัญฉันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
          แถลงการณ์ที่ออกมาบ่งชี้ว่า ของขวัญที่ให้กันอาจเป็นของมีค่าและการให้ของขวัญมีเป้าหมายเพื่อแลกกับการให้นายเบอร์ฮานุดดิน ซึ่งเป็นพลเมืองชาวอินโดนีเซีย ตอบคำถามทุกคำถามในกระบวนการสอบสวนที่อาจจะช่วยเรื่องคดีของนางรสยา ให้ดำเนินไปตามแผนและบรรลุตามเป้าประสงค์แม้ว่า นางรสยา จะไม่ได้ดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายเบอร์ฮานุดดินเลย นับตั้งแต่กระบวนการซื้อหุ้นคืนเสร็จสิ้นลงเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2558
          อย่างไรก็ตามนางแนนซี ระบุว่า เป็นเรื่องบังเอิญที่เธอได้เป็นพยานเพียงคนเดียวที่จะยืนยันเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุของคดีติดสินบนครั้งนี้ เพราะเธอได้เข้าร่วมการหารือที่บ้านพักส่วนตัวของนายเบอร์ฮานุดดิน ช่วงเย็นวันที่ 4 สิงหาคม ปี 2560 ที่เป็นการหารือเกี่ยวกับเอกสารที่เป็นลิสต์คำถามของป.ป.ช. ประเทศไทย ซึ่งเป็นคำถามของนายเบอร์ฮานุดดิน และนางแนนซีโดยเนื้อหาในคำถามมีส่วนเกี่ยวข้องกันอยู่
          ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าจะมีข้อห้ามรับสินบนในรูปแบบของขวัญแต่เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่า มีการตั้งใจที่จะอนุญาตให้เกิดการให้ของขวัญลักษณะนี้อยู่แล้ว

          นอกจากนั้น ยังมีหลักฐานที่บ่งชี้ชัดว่า นางรสยา เดินทางพร้อมกับคณะเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. 3 คน หลังจากมีการสอบสวนเรื่องนี้ในอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 7-8 สิงหาคม 2560
          เหตุการณ์ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ต่อเนื่องของช่วงเวลาทั้งหมดในการเดินทางไปอินโดนีเซีย การให้สินบนในรูปแบบของขวัญ วันที่ 4 สิงหาคม 2560 และวันที่มีการตรวจสอบถูกวางแผนมาอย่างดี รวมถึงการปลอมแปลงเอกสารที่เป็นผลของการตรวจสอบคดีนี้ที่เป็นข้อมูลเท็จทั้งหลายที่ถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานเท็จในกระบวนการยุติธรรมของไทย
         นางแนนซี กล่าวว่า เธอกลายเป็นเหยื่อการใส่ร้ายและการกล่าวหาและถูกอ้างถึงในราย งานของรัฐบาลหลายชิ้น รวมทั้งถูกอ้างชื่อตามหน้าสื่อกระแสหลัก ตลอดจนในการแถลงข่าวหลายครั้งของสำนักงานป.ป.ช. ตามผลการสอบสวนเมื่อวันที่ 7-8 สิงหาคม 2560 เธอถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมคอร์รัปชัน
          ที่กล่าวมาทั้งหมดคือการรายงานเกี่ยวกับคดีอาญาและคดีแพ่งของเจ้าหน้าที่ไทยหลายคนที่ “ทำผิดกฎหมายอย่างมีเจตนา” ในอินโดนีเซีย ด้วยเหตุนี้ นางแนนซีจึงขอร้องให้มีการลงโทษบุคคลเหล่านี้อย่างเหมาะสม ภายใต้กฎหมายอินโดนีเซีย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ดำเนินการเอาผิดบุคคลเหล่านี้ตามกฎหมายไทยด้วยเช่นกัน
          สำหรับคดีปลูกปาล์มนํ้ามันที่ประเทศอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งมี นางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช. เป็นผู้รับผิดชอบ เกิดขึ้นจากที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ตั้งบริษัท พีทีที.กรีนเอ็นเนอร์ยี่ฯ หรือพีทีทีจีอี ลงทุนโครงการปลูกปาล์มนํ้ามันที่ประเทศอินโดนีเซีย ต่อมามีการตรวจสอบพบว่า ไม่โปร่งใส และมีการจ่ายค่านายหน้าที่ดินแพงเกินจริง
          ขณะที่ผลสอบของผู้สอบบัญชีระดับโลก ระบุว่า มีผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานหนึ่งรู้เห็น และมีการโอนเงินเข้าบัญชีคนไทยจำนวนหลายล้านดอลลาร์

   พยานอินโดฯแฉติดสินบน 3 เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ไทยคดีปาล์มนํ้ามัน    พยานอินโดฯแฉติดสินบน 3 เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ไทยคดีปาล์มนํ้ามัน   พยานอินโดฯแฉติดสินบน 3 เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ไทยคดีปาล์มนํ้ามัน   พยานอินโดฯแฉติดสินบน 3 เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ไทยคดีปาล์มนํ้ามัน