โฆษกสไตล์ ดร.แหม่ม ‘แทงมาไม่แทงกลับ’

07 ส.ค. 2562 | 07:55 น.

ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนใบ้หวยว่าใครจะได้เข้ามานั่งในตำแหน่งโฆษกรัฐบาล ทำงานเคียงคู่ตอบคำถามแทน พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาล ต้องเป็นคนที่ทำงานไว รู้จังหวะ รู้ใจกับการทำงานสไตล์บิ๊กตู่

ต้องรอบรู้ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของประเทศ โดยเฉพาะโลกในยุคโซเชียล ดิจิทัล รวมถึงรู้ในระบบราชการนั่นคือสเปกโฆษกรัฐบาลของ พล..ประยุทธ์ ที่แย้มๆ ก่อนที่หวยจะออกมาด้วยการแต่งตั้ง.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์เป็นโฆษกรัฐบาล ในสัปดาห์ถัดมา

ผมมีโอกาสนั่งสนทนาแบบชิลๆ กับ .ดร.นฤมล ที่ห้องทำงานในทำเนียบรัฐบาล พร้อมปฏิบัติตามคำขอว่า ไม่อยากให้เรียกโฆษก อยากให้เรียกอาจารย์แหม่มมากกว่า

ถามถึงเบื้องหลังการเชื้อเชิญเข้ามาทำงานที่ตึกนารีสโมสร อาจารย์แหม่มเล่าว่าตัดสินใจเลย ไม่ได้รับการทาบทามมาก่อน เมื่อทีมงานโทร.มาก็บอกว่า ยินดีค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าท่านนายกฯ กรุณาไว้วางใจว่าเราจะทำหน้าที่ได้ ถ้าผู้ใหญ่ไว้วางใจ เราอยู่ตรงไหนบทบาทไหนเราก็ทำได้

ท่านอาจจะได้เห็นช่วงของก่อนการเลือกตั้งที่ช่วยพรรคออกเวทีดีเบต ชี้แจงเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับนโยบาย การเมืองบ้างเล็กน้อย นายกฯท่านคงจะได้ดูแล้วมองว่าเราพูดจารู้เรื่องบ้าง อาจจะดูไม่รุนแรงเกินไป อาจจะเป็นโทนที่ชี้แจงทำความเข้าใจแต่ตอนนี้ท่านนายกฯ ยังไม่ได้บอกเหตุผลเลยว่า เลือกเราเพราะเหตุผลอะไร

 

                                                               โฆษกสไตล์ ดร.แหม่ม ‘แทงมาไม่แทงกลับ’

                                                                                   ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์

โฆษกสไตล์ ดร.แหม่ม ‘แทงมาไม่แทงกลับ’

 

พอถามว่าแล้วนายกฯ มอบนโยบายการทำงานว่ายังไงบ้าง คำตอบคือนายกฯบอกว่า เวลาพูดอย่าพูดเหมือนสอนหนังสือนะ ต้องพูดภาษาชาวบ้าน ชาวบ้านเขาฟัง เพราะในคลาสเรียนเราก็ใช้ภาษาอังกฤษบ้างเพราะนักศึกษาเข้าใจ ใช้ศัพท์เทคนิคบ้าง แต่ท่านนายกฯ ก็บอกให้ใช้ภาษาชาวบ้านให้หมดนะ เพราะคนฟังจริงๆ คือชาวบ้าน

ส่วนวิธีการเลือกกลั่นกรองประเด็นการชี้แจงนั้น ถ้าเป็นเรื่องข้อมูลข้อเท็จจริงก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเรามีตัวเลขมีข้อมูลก็ชี้แจงไป แต่ส่วนการชี้แจงอารมณ์ความรู้สึกในทางการเมืองเราก็ต้องชี้แจงในเชิงสร้างสรรค์ ให้มองเห็นอีกมุม อีกมิติ เพราะทุกอย่างมี 2 ด้าน แต่คงไม่ตอบโต้ ใครแทงมาฉันแทงกลับ นั่นคือการเมืองแบบเก่าที่ไม่สร้างสรรค์ ไม่มีประโยชน์กับสังคม

เพราะการทำแบบนั้นนักการเมืองทั่วไปทำได้อยู่แล้ว ไม่ต้องมีตำแหน่งโฆษก เพราะตรงนี้คือภาพลักษณ์ของรัฐบาล ภาพลักษณ์ท่านนายกฯ เพราะโฆษกแต่ละยุคก็ต่างกันไป ที่ผ่านมามีทั้งโฆษกที่เป็นวิชาการก็มีแล้ว โฆษกที่มาจากการเมืองก็มีแล้ว ที่มาจากงานด้านสื่อสารมวลชนก็เคยมีมาแล้ว ทั้งนั้น จะมาบอกว่าตัวเราจะต่างจากยุคก่อนๆ ยังไง เพราะมันต่างกันหมด ว่ากันไปตามสถานการณ์

 

ส่วนการเตรียมตัวชี้แจงแต่ละวันก็ว่ากันไปตามสถานการณ์ ถ้าชี้แจงได้ขณะนั้นก็ชี้แจง ถ้าไม่มีข้อมูลก็หาข้อมูลมาชี้แจงเท่านั้นเอง มีทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ของตัวเอง และยังมีช่องทางไทยคู่ฟ้าของทำเนียบรัฐบาล ที่จะต้องปรับให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งสำนักโฆษกทำไว้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ภาษาแนวทางการนำเสนออาจจะไม่ถูกใจวัยรุ่น เราจะมาดูกันว่าจะปรับยังไงให้วัยรุ่นเข้าถึงทุกกลุ่มได้

สุดท้ายถามว่า คิดว่าจะเป็นโฆษกครบ 4 ปีเลยหรือไม่ อาจารย์แหม่ม ยิ้มแล้วตอบว่าไม่มีอะไรแน่นอนหรอกค่ะ เพราะเป็นอาจารย์สอนเรื่องบริหารความเสี่ยงมา มันก็เสี่ยงอยู่ แต่เราไม่คิดว่าเราจะเข้ามาแสวงหาอะไรทางการเมือง ฉะนั้นเราก็อยู่กับปัจจุบันทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ถ้าสมมติมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นแล้วเราขยับไปทำหน้าที่อื่นๆ ไม่ใช่ว่าเราลาออกจากตำแหน่งส.. เพราะมั่นใจว่าเราจะอยู่ตรงนี้นานๆ แต่มันเป็นสิ่งที่กฎหมายบังคับ คือคนเป็นส..ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ เราก็ออก เป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขของกฎหมาย และไม่ได้เป็นความเสียหายของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ ..บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปก็เข้ามาทำหน้าที่ต่อในสภา

 

อินไซด์สนามข่าว โดย จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3494 วันที่ 8-10 สิงหาคม 2562

โฆษกสไตล์ ดร.แหม่ม ‘แทงมาไม่แทงกลับ’