“ถาวร” ยันไม่ขัดแผนซื้อเครื่องบินใหม่การบินไทย 38 ลำ มูลค่า 1.5 แสนล้าน แต่ต้องวางแผนให้ดี หวังฟื้นธุรกิจกลับมาทำกำไรในปี 2565
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เผยหลังการหารือร่วมกับบริษัทการบินไทยจำกัด(มหาชน) บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ว่าในส่วนของแผนการจัดซื้อฝูงบินใหม่ 38 ลำ ตนไม่ขัดข้อง ขอให้เสนอมาตามขั้นตอน
ทั้งนี้การจัดหาเครื่องบินการบินไทยเสนอไว้ ตามแผนปี 2562 – 2569 จำนวน 38 ลำ ซึ่งจะทำให้มีเครื่องบินที่เหมาะสมกับสภาพตลาดของเที่ยวบินในภูมิภาค สามารถเพิ่มความถี่ของเที่ยวบิน เพิ่มความยืดหยุ่นในการเดินทางและใช้พัฒนาจุดบินใหม่ โดยการบินไทยสามารถมีผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะเวลา 27 ปี รวม 78,701 ล้านบาท มีอัตราผลตอบแทนการลงทุน 15.64 %
ส่วนแนวทางในการฟื้นฟูการบินไทยนั้น รมช. การคมนามมีความเห็นว่าควรเริ่มจาก การวางแผนที่ดี (Plan) การจัดซื้อเครื่องบิน (Buy) ตามแผนงานของบริษัทและการบริการด้านการบิน (Fly) และควรดำเนินการปฏิบัติการตามแผนฟื้นฟูที่เสนอไว้และคาดว่าการบินไทยน่าจะกลับมาพลิกฟื้นทำกำไรในปี 2565
ด้านนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า การบินไทยอยู่ระหว่างทบทวน โครงการจัดหาเครื่องบิน ปี 2562 – 2569 จำนวน 38 ลำ วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท เนื่องจากมีการเปลี่ยนรัฐบาล เรื่องจึงถูกส่งกลับมา ซึ่งจะเร่งนำแผนเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาและเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
“โดยยังคงแผนจำนวนและวงเงินเดิม แต่อาจจะปรับปรุงในเรื่องเครื่องยนต์สำรองให้สอดคล้องกับความเห็น สศช. และการที่การบินไทยมีจำนวนเครื่องบินไม่เพียงพอ มีอายุมาก ประสิทธิภาพสู้คู่แข่งไม่ได้ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดลดลง เป็นกับดักในการบริการ ของการบินไทย ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการบินไทยอยู่ระหว่างดำเนินการแผนฟื้นฟูที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เห็นชอบแล้ว” นายสุเมธกล่าว