ทรัมป์เดือดอีกแล้ว ขู่เก็บภาษีจีนเพิ่ม 10% ดีเดย์ 1 กันยานี้

02 ส.ค. 2562 | 03:44 น.

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โพสต์ในทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ระบุว่า ผู้แทนการค้าสหรัฐฯเพิ่งเดินทางกลับจากจีน แม้ว่าความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าได้เริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ใกล้จะลงนามกันได้เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แต่ต้องสะดุดเพราะจีนต้องการรื้อการเจรจาใหม่ และถึงจีนจะให้คำมั่นว่าจะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯเป็นจำนวนมาก แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น ถึงการเจรจาจะยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แต่สหรัฐฯก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10% เป็นวงเงินรวม 300,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งสินค้าที่จะถูกเก็บภาษีอัตราใหม่นี้ไม่เกี่ยวกับสินค้าในกลุ่มที่ถูกเก็บภาษีเพิ่มในอัตรา 25% วงเงิน 250,000 ล้านดอลลาร์ที่มีผลไปแล้วก่อนหน้านี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ขึ้นภาษีสินค้าจีนอีกรอบ เริ่ม 1 กันยายนนี้

“ผมหวังว่าเราจะยังคงมีการเจรจาหารือในเชิงบวกกับจีนต่อไป และรู้สึกเหลือเกินว่าอนาคตของสองประเทศเราจะสดใสเป็นอย่างยิ่ง!” ผู้นำสหรัฐฯลงท้ายข้อความที่ทวิตด้วยเครื่องหมายอัศเจรีย์ นับเป็นท่าทีที่น่าประหลาดใจและเหนือความคาดหมาย เนื่องจากหลังการพบปะระหว่างผู้นำจีนและสหรัฐฯที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการพบปะนอกรอบการประชุม G20 เมื่อเร็วๆนี้(29 มิถุนายน) สถานการณ์การเผชิญหน้าทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯก็เป็นไปในทิศทางที่คลี่คลายมากขึ้น และการเจรจาการค้ารอบใหม่ก็เพิ่งเริ่มขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้สัปดาห์นี้ แถลงการณ์ทำเนียบขาวยังยืนยันด้วยว่า การเจรจารอบถัดไปจะมีขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในช่วงต้นเดือนกันยายน แต่ดูเหมือนว่าความคืบหน้าในการเจรจาจะเชื่องช้าและการทำตามคำสัญญาของจีนก็ไม่รวดเร็วทันใจผู้นำสหรัฐฯ สะท้อนจากถ้อยคำที่ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุในทวิตเตอร์ว่า “...จีนตกลงที่จะซื้อ(สินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ) เป็นปริมาณมาก แต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทำตามที่พูด”

 

ข่าวระบุว่า จีนรับปากจะซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯเป็นจำนวนมาก และนับตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคมเป็นต้นมา ก็มีการส่งออกถั่วเหลืองจากสหรัฐฯปริมาณหลายล้านตันมายังประเทศจีน นอกจากนี้ หลายบริษัทของจีนยังมีคำสั่งซื้อสินค้าอเมริกันอีกจำนวนมาก ซึ่งนอกจากถั่วเหลืองแล้ว ยังได้แก่ ฝ้าย เนื้อสุกร และข้างฟ่าง

ภาพเมื่อครั้งผู้นำจีนและสหรัฐฯพบกันนอกรอบการประชุม G20 ที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ปลายเดือนมิถุนายน 2562

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนระลอกใหม่ล่าสุดที่จะขยับขึ้นมาอีก 10% สุดท้ายแล้วอาจจะเรียกเก็บในอัตราสูงกว่า 25%  ทั้งนี้ ยังไม่มีใครทราบเหตุผลที่แท้จริงว่าเพราะอะไรผู้นำสหรัฐฯจึงได้ตัดสินใจเดินหน้าขึ้นภาษีสินค้าจีนทั้งๆที่เพิ่งตกลงสงบศึกการค้าชั่วคราวเมื่อปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ตัวแทนเจรจาการค้าของทั้งสองฝ่ายได้พบปะเจรจากันที่เซี่ยงไฮ้ในสัปดาห์นี้และประธานาธิบดีทรัมป์ก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งความคืบหน้าของการเจรจาจากนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีคลัง และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์)

 

นับเป็นการเปิดศึกการค้ารอบใหม่หลังจากที่ยืดเยื้อมานานข้ามปีระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน สองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก พฤติกรรมขึ้นภาษีทั้งๆที่อยู่ในระหว่างการเจรจาไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผู้นำสหรัฐฯ เพราะก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์เคยสร้างความตื่นตะลึงมาแล้วด้วยการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนจาก 10% เป็น 25% วงเงินรวม 200,000 ล้านดอลลาร์ สถานการณ์ความคุกรุ่นล่าสุดฉุดให้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดิ่งลงทันที 304 จุด