เร่งเยียวยาแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้าหมื่นตัน พักชำระหนี้ ธ.ก.ส. 3 ปี

22 ก.ค. 2562 | 11:26 น.

เกษตรฯ เร่งเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบภัยแล้ง สั่งกรมการข้าวแจกข้าวเจ้าหมื่นตัน ควบพักชำระหนี้ ธ.ก.ส. 3 ปี ผนึกกลาโหมทุกเหล่าทัพสนับสนุนอากาศยาน กำลังมามาร่วมปฏิบัติการฝนหลวง

เร่งเยียวยาแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้าหมื่นตัน พักชำระหนี้ ธ.ก.ส. 3 ปี

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมกำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบและความเสียหายจากภัยแล้ง ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยในปัจจุบัน โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการด่วนให้ทุกเหล่าทัพสนับสนุนอากาศยานและกำลังพลมาช่วยกัน รวมทั้งเร่งทำฝนหลวง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง และร่วมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำกับฝ่ายพลเรือนแบบบูรณาการ โดยมีเป้าหมายบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุดและรวดเร็วที่สุด

เร่งเยียวยาแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้าหมื่นตัน พักชำระหนี้ ธ.ก.ส. 3 ปี

โดยแบ่งเป็นวาระเร่งด่วน คือ 1. เร่งเติมน้ำในเขื่อนและพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งโดยปฏิบัติการฝนหลวง ได้มอบหมายอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเป็นแม่งานบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ได้มีการขอรับการสนับสนุนอากาศยานเพิ่มจำนวน 6 ลำ จากกองทัพบก 1 ลำ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1 ลำ และกองทัพอากาศ 4 ลำ ซึ่งสามารถขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงได้ทันที

เร่งเยียวยาแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้าหมื่นตัน พักชำระหนี้ ธ.ก.ส. 3 ปี

2. เตรียมการเยียวยาความเสียหายแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ รวมพืชผลทางการเกษตรทุกประเภท โดยให้กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย กรมการข้าวเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อแจกจ่ายให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างสิ้นเชิง ซึ่งมีเมล็ดพันธุ์ข้าวจ้าวสำรองไว้แล้วจำนวน 10,000 ตัน รวมทั้งพิจารณาให้เกษตรกรปลอดการชำระหนี้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 61 - 31 ก.ค. 64 รวมถึงเกษตรกรที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการสามารถขอขยายเวลาปรับตารางชำระ พักหนี้ได้  1 รอบปีการผลิต

เร่งเยียวยาแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้าหมื่นตัน พักชำระหนี้ ธ.ก.ส. 3 ปี

นอกจากนี้ ในระยะยาวได้เตรียมวางแผนในการแก้ปัญหาภัยพิบัติ โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมชลประทานเตรียมปรับแผนการบริหารจัดการน้ำ เพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภค การเกษตร และรักษาระบบนิเวศน์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้เพียงพอ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนการให้ความช่วยเหลืออื่น ๆ รองรับเมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤติด้วย

เร่งเยียวยาแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้าหมื่นตัน พักชำระหนี้ ธ.ก.ส. 3 ปี

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศในขณะนี้ กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างต่อเนื่อง อาทิ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้วางมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนทิ้งช่วง โดยเน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์น้ำและเฝ้าระวังการบริหารจัดการน้ำเป็นพิเศษ โดยเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และผลิตน้ำประปา ในส่วนของพื้นที่การเกษตรกว่า 160,000 ไร่ ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย นั้น จะเริ่มส่งน้ำแบบรอบเวร ตั้งแต่วันที่  24 ก.ค. 62 เป็นต้นไป รวมทั้งได้จัดเตรียมรถบรรทุกน้ำ รถแบคโฮ และเครื่องสูบน้ำ ที่สามารถสนับสนุนให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีด้วย

เร่งเยียวยาแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้าหมื่นตัน พักชำระหนี้ ธ.ก.ส. 3 ปี

ส่วนที่จังหวัดสุรินทร์ โครงการชลประทานสุรินทร์  ได้นำรถบรรทุกขนาด 6,000 ลิตร จำนวน 1 คัน ออกแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ในพื้นที่หมู่บ้านการเคหะ อำเภอเมืองสุรินทร์ และจังหวัดสุพรรณบุรี มีพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในเขตอำเภอดอนเจดีย์ และ อำเภออู่ทอง สำนักงานชลประทานที่ 12 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 6 เครื่อง สูบน้ำจากปลายคลองมะขามเฒ่า-กระเสียว ลงสู่คลองมะขามเฒ่า – อู่ทอง บริเวณห้วยโตนด รวมทั้งได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณคลองระบายน้ำจากบึงกระจับอีก 4 เครื่อง สูบน้ำลงคลองมะขามเฒ่า–กระเสียว ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำอีกทางหนึ่งด้วย

เร่งเยียวยาแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้าหมื่นตัน พักชำระหนี้ ธ.ก.ส. 3 ปี

ด้านจังหวัดนครสวรรค์ ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์ ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง บริเวณโรงสูบน้ำเขาแก้ว อำเภอพยุหะคีรี ที่ประสบกับปัญหาภัยแล้ง พร้อมกับจัดรอบเวรการใช้น้ำอย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีพื้นที่เพาะปลูกข้าวไปแล้วกว่า 32,000 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 46,000 ไร่ โดยพื้นที่ที่เหลือได้ทำการประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้ชะลอการเพาะปลูกไว้ก่อน จนกว่าฝนจะตกลงมาตามฤดูกาลปกติ จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมใจกันรณรงค์ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัดและจริงจังด้วย เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้อุปโภคบริโภคให้ยาวนานที่สุด