นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 25-27 ก.ค. 2562 นั้น ตนได้เตรียมมอบนโยบายให้กับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ทั้งส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจรวม 23 หน่วยงานในวันที่ 30 ก.ค.นี้ พร้อมทั้งสรุปการแบ่งงานของรัฐมนตรีทั้ง 3 คนในวันนั้นด้วย โดยยืนยันว่าหลังการมอบนโยบายแล้วนั้น นโยบายหลักที่กระทรวงคมนาคมจะเร่งดำเนินการ คือ การลดภาระค่าครองชีพและลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยการลดค่าโดยสารการเดินทางในทุกระบบ เช่น รถไฟฟ้า รถเมล์ รถไฟ เป็นต้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม และไม่เป็นภาระของรัฐบาลในอนาคต อย่างไรก็ตาม จากนโยบายของพรรคร่วมที่เสนอให้ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า 15 บาทตลอดสายนั้น จะต้องมาศึกษาถึงความเป็นไปได้ โดยยืนยันว่าการลดค่าโดยสารจะมีราคาไม่ต่างจากนี้ และจะดำเนินการทันภายในปีนี้อย่างแน่นอน
“การลดค่าโดยสาร ย่อมทำให้รัฐต้องมาอุดหนุน แต่สิ่งจำเป็นที่สุด คือ การลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน เช่น ที่ผ่านมาเคยมีรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี หลังจากมอบนโยบายในวันที่ 30 ก.ค.นี้ จะมีข่าวดีให้กับประชาชนแน่นอน ซึ่งผมจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการในการศึกษาลดค่าโดยสาร ในรูปแบบที่สมดุลและเหมาะสม ซึ่งในเรื่องนี้จะไม่ช้า เพราะผมมีมี KPI ที่จะวัดประเมิน 1 เดือน ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่มีนโยบายในการลดค่าโดยสารในช่วงตอนหาเสียง แต่ตอนนี้อย่าพูดว่าเป็นนโยบายของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่ให้ถือว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล” นายศักดิ์สยาม กล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สำหรับนโยบายด้านคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับลดค่าโดยสารนั้น คือ พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายในลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่รัฐบาลลงทุนเอง 100% เป็น 15 บาทตลอดสาย ขณะที่พรรคภูมิใจไทย จะเน้นการแก้กฎหมาย และผลักดันให้ Grab ถูกกฎหมาย เพื่อหวังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับคนกรุงเทพมหานคร และจังหวัดอื่นๆ เดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐนั้น จะต่อยอดทุกโครงการที่รัฐบาลได้ดำเนินการไว้แล้วให้เป็นรูปธรรม และเสนอให้มี Bangkok Card หรือบัตรใบเดียวที่สามารถใช้ได้ครอบคลุมในการเดินทางขนส่งสาธารณะทุกประเภท