“สนธิรัตน์”เคาะ 22 ก.ค.นี้ ตรึงราคาNGV-เพิ่มวงเงินบัตรคนจน

20 ก.ค. 2562 | 08:01 น.

“สนธิรัตน์”เร่งถกนโยบายเร่งด่วน 22 ก.ค.นี้ ก่อนแถลงต่อรัฐสภา วงในเผยระยะสั้น เป็นเรื่องดูแลปากท้องประชาชนผู้มีร้ายได้น้อย จ่อคลอด 3 มาตรการ ตรึงราคาเอ็นจีวีให้กับรถโดยสารสาธารณะ และแท็กซี่ เพิ่มวงเงินบัตรคนจน ซื้อก๊าซแอลพีจีได้มากขึ้น และขยายฐานใช้ไฟฟ้าฟรี เป็น 60 หน่วยต่อเดือน  

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดทิศทางและนโยบายของกระทรวงพลังงานว่า วันนี้(20 ก.ค.62) ได้เชิญผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน มาร่วมระดมความคิดเห็นเพื่อจะใช้เป็นแนวทาง  ในการกำหนดทิศทางและนโยบายของกระทรวงพลังงาน ซึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นพลังงานทั้งด้านไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเชื้อเพลิง พลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน โดยได้หารือถึงนโยบายสำคัญที่จะต้องเร่งผลักดัน รวมถึงข้อจำกัด และอุปสรรคต่างๆ ในการดำเนินการ เพื่อให้การดำเนินการด้านพลังงานเดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศอย่างสูงสุดโดยยึดถือประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง คำนึงถึงจุดแข็งของประเทศไทยเป็นหลัก ส่งเสริมการแข่งขันของภาคเอกชนตั้งแต่ระดับชุมชนที่เป็นเศรษฐกิจฐานราก เน้นการเชื่อมโยงช่วยเหลือชุมชนให้มีการพัฒนาศักยภาพในการผลิตและต่อยอดสินค้าไปในตลาดที่ใหญ่ขึ้น มุ่งเน้นสนับสนุนให้ชุมชนต่อยอดอาชีพ สร้างความเข้มแข็ง และพัฒนาศักยภาพชุมชนได้อย่างยั่งยืน

“สนธิรัตน์”เคาะ 22 ก.ค.นี้ ตรึงราคาNGV-เพิ่มวงเงินบัตรคนจน “สนธิรัตน์”เคาะ 22 ก.ค.นี้ ตรึงราคาNGV-เพิ่มวงเงินบัตรคนจน

ส่วนประเด็นข้อขัดแย้งทางความคิด อาจจะมีปัญหาเรื่องข้อมูลที่ไม่ตรงกัน จะต้องมีการศึกษาอย่างจริงจังเพื่อให้สร้างความเชื่อถือในข้อมูลร่วมกัน และเดินไปในทิศทางเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ได้มีข้อสรุปตรงกันว่า การทำงานเชิงนโยบายให้แต่ละหน่วยงานถอยความเป็นองค์กร และให้มามองตัวตั้งผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และทำงานในรูปการบูรณาการขับเคลื่อนร่วมกัน โดยเฉพาะการนำเอาจุดแข็งของประเทศทางด้านภูมิศาสตร์หรือที่ตั้งในภูมิภาค มารบริหารจัดการด้านพลังงาน รวมถึงการเป็นฐานการผลิตทางด้านเกษตร ที่จะนำมาผลิตเป็นพลังงานสู่อนาคต โดยเฉพาะพลังงานบนดิน ที่จะนำผลผลิตจากอ้อย มันสำปะหลัง และปาล์มมน้ำมัน มาผลิตพลังงานให้เกิดประโยชน์โดยรวม ช่วยลดการนำเข้าน้ำมัน เป็นการส่งเสริมพลังานทดแทน

ส่วนนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินงานในช่วง 3 เดือนนับจากเดือนสิงหาคม 2562 เป็นต้นไปนั้น จะมีการหารือกับนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในวันที่ 22 กรกฎาคม นี้ เพื่อกำหนดกรอบที่จะนำไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้

ทั้งนี้ มีรายงานว่า นโยบายเร่งด่วนที่นายสนธิรัตน์ จะหยิบยกมาพิจารณานั้น จะเป็นเรื่องของการดูแลปากท้องประชาชนผู้มีรายได้น้อย ที่จะมีการปรับเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ที่จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายค่าก๊าซแอลพีจีให้กับพ่อค้า แม่ค้า ให้มากขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 45 บาทต่อทุกๆ 3 เดือน รวมทั้ง การตรึงราคาก๊าซธรรมชาติสหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) ให้กับรถแท็กซี่ และรถโดยสารสาธารณะ ที่ปัจจุบันใช้อยู่ที่ 11.60 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากที่ผ่านมาคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ ปตท.ทยอยปรับขึ้นราคา 3 ครั้ง ครั้งละ 1 บาทต่อกิโลกรัม มีผลครั้งแรกวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา  ให้ขยับขึ้น 1 บาทต่อกิโลกรัมจากนั้นอีก 4 เดือน หรือวันที่ 16 กันยายนนี้ ให้ขยับขึ้นอีก 1 บาทต่อกิโลกรัม และอีก 4 เดือนถัดไป หรือวันที่ 16 มกราคม 2563 ขยับขึ้นอีก 1 บาทต่อกิโลกรัม

นอกจากนี้ จะขยายฐานกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ใช้ไฟฟ้าฟรี ไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน เป็น 60 หน่วยต่อเดือน ซึ่งจะช่วยลดภาระของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยให้มากขึ้นได้