“บิ๊กตู่”ระทึก! มติศาลรธน.รับวินิจฉัยคุณสมบัติ

19 ก.ค. 2562 | 10:39 น.

มติศาลรธน.รับวินิจฉัยปมคุณสมบัติ “บิ๊กตู่”  แต่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

   
วันนี้(19 ก.ค.62) ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมเพื่อพิจารณากรณีประธานสภาน ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (15) หรือไม่

ล่าสุดศาลรัฐธรรมมีมติรับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัย แต่ไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องคือ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง โดยมีรายละเอียดดังนี้

     “บิ๊กตู่”ระทึก! มติศาลรธน.รับวินิจฉัยคุณสมบัติ
 

กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคําร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง (๔) ประกอบมาตรา ๑๖๐ (๖) และมาตรา ๙๘ (๑๕) หรือไม่ 

ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาว่า คําร้องของผู้ร้องต้องด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคําร้องและเอกสารประกอบคําร้องปรากฏว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จํานวน ๑๑0 คน ซึ่งเป็นจํานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรเข้าชื่อร้องต่อ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้ร้อง ขอให้ส่งคําร้องดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรี ของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗0 วรรคหนึ่ง (๔) ประกอบมาตรา ๘๒ วรรคหนึ่ง 

 

เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามในการดํารงตําแหน่งรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๐ (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๑๕) เพราะเหตุเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ กรณี จึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗0 วรรคสาม และมาตรา ๘๒ ประกอบพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๗ (๙) แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญ จึงสั่งรับคําร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมส่งสําเนาคําร้องให้ผู้ถูกร้องเพื่อยื่นคําชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับสําเนาคําร้อง
 

สําหรับการพิจารณากรณีให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น เห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๒ วรรคสอง บัญญัติเงื่อนไขไว้ว่าจะต้อง “ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง” ซึ่งตามคําร้องและเอกสารประกอบคําร้องก็ไม่ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องที่จะทําให้เกิด ความเสียหายแต่ประการใด ประกอบกับผู้ร้องไม่ได้มีคําขอในส่วนนี้ จึงยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้อง หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๒ วรรคสอง