‘มอส’รีเทิร์นชิงแชร์ เบอร์เกอร์หมื่นล้าน

ตลาดแฮมเบอร์เกอร์หมื่นล้านคึกคัก “แอมป์ - พิธาน” โดดฮุบหุ้นมอส เบอร์เกอร์ พร้อมทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาทลุยขยายสาขาเพิ่มเป็น 90 แห่ง และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 10% ภายใน 8 ปี

ปัจจุบันตลาดแฮมเบอร์เกอร์มีมูลค่า 10,000 ล้านบาท และเติบโตปีละ 5% โดยที่ผ่านมาในตลาดมีคู่แข่งเพียงไม่กี่รายที่ครองส่วนแบ่งการตลาดมายาวนาน อาทิ แมคโดนัลด์ ซับเวย์ เบอร์เกอร์คิง เป็นต้น แต่ล่าสุดเบอร์เกอร์สัญชาติญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี รีเทิร์นลุยตลาดในประเทศไทยอีกครั้ง โดยมี “พิธาน องค์โฆษิต” นักธุรกิจหนุ่มเข้าถือหุ้นพร้อมนั่งแท่นผู้บริหารใหญ่ ที่จะมาเปลี่ยนเกมการตลาดใหม่ครั้งนี้

นายพิธาน องค์โฆษิตประธานบริษัทมอส ฟูดส์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการเติบโตของตลาดแฮมเบอร์เกอร์กับจำนวนผู้เล่นที่มีน้อยราย บริษัทมองว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ดังนั้นส่วนตัวจึงได้เข้าถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 75% ในมอส เบอร์เกอร์พร้อมทั้งเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทอีก 200 ล้านบาท จากเดิม 6 ล้านบาท รวมเป็น 206 ล้านบาทในปัจจุบัน ขณะเดียวกันหลังจากที่เข้าถือหุ้นครั้งนี้แล้วบริษัทคาดว่าจะสามารถเพิ่มศักยภาพให้กับแบรนด์ และขยายสาขาในประเทศได้มากขึ้น ขณะที่กลุ่มเป้าหมายครั้งนี้เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ

                                 พิธาน องค์โฆษิต

“ตลาดแฮมเบอร์เกอร์ในประเทศไทยมีความน่าสนใจ ส่วนตัวเป็นคนชื่นชอบการรับประทานแฮมเบอร์เกอร์อยู่แล้ว รวมถึงเห็นโอกาสการเติบโตในประเทศไทย ที่ผ่านมามอส เบอร์เกอร์มีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศประมาณ 1% ซึ่งการเข้ามาถือหุ้นครั้งนี้คาดหวังว่าจะผลักดันส่วนแบ่งการตลาดขยับขึ้น 10% ภายใน 8 ปี”

นอกจากนี้ยังวางแผนขยายสาขาในประเทศมากขึ้น จากปัจจุบันมีสาขาเพียง 8 แห่ง ซึ่งในสิ้นปีนี้คาดว่าจะสามารถขยายสาขาได้ 14 แห่ง และภายใน 8 ปีจะมีสาขารวมทั้งสิ้นราว 90 แห่งขณะที่รายได้สิ้นปีนี้คาดว่าน่าจะสามารถทำได้ไม่ตํ่ากว่า 100 ล้านบาท และกระตุ้นยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 500 ล้านบาท ภายใน 4 ปี

สำหรับการเปิดสาขาช่วงแรกจะมุ่งเน้นทำเลในห้างสรรพสินค้า อาทิ เซ็นทรัล เดอะมอลล์ ฯลฯ ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการที่ เซ็นทรัลเวิลด์,แฟชั่นไอส์แลนด์,เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า สุขุมวิท,เซ็นทรัล พลาซา บางนา, เซ็นทรัล พระราม 3,เอ็มโพเรียม,ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และเทอร์มินอล 21 อโศก

พร้อมทั้งกับปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่สร้างการรับรู้แบรนด์โดยใช้งบการตลาด 30 ล้านบาท เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยเน้นทำออนไลน์ ดีลิเวอรี ซึ่งจะมีการทำโปรโมชันร่วมกับผู้ให้บริการต่างๆและทำโปรโมชันส่งเสริมการขายต่างๆ ด้วย 

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3489 วันที่ 21-24 กรกฎาคม 2562