รุกฆาต! ทรัมป์ประกาศจีนกำลังแพ้เทรดวอร์  กว่า 50 บริษัทหนีตายย้ายฐานผลิตเลี่ยงกำแพงภาษี

19 ก.ค. 2562 | 06:27 น.

สำรวจแนวรบในเชิงผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐอเมริกาเบื้องต้น พบว่ามีบริษัทเอกชนมากกว่า 50 รายแล้ว ซึ่งรวมทั้งผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่อย่าง ‘เอชพี’ และ ‘เดลล์’ ที่ประกาศแผนการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสงครามการค้าครั้งนี้  

 

สื่อต่างประเทศรายงานว่า การหลั่งไหลย้ายฐานการผลิตไม่ว่าจะเป็นการย้าย ‘บางส่วน’ หรือ ‘ทั้งหมด’ ออกจากประเทศจีนซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการเปิดศึกการค้า ตั้งกำแพงภาษีใส่กัน ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด โดยขณะนี้มีมากกว่า 50 บริษัทเอกชนนานาชาติ ที่ประกาศจะย้ายการผลิตจากประเทศจีนไปยังประเทศอื่นๆ ซึ่งในจำนวนบริษัทเหล่านี้มีหลายบริษัทที่เป็นกลุ่มทุนของสหรัฐฯ อาทิ บริษัท แอปเปิ้ล อิงค์  บริษัท นินเทนโด บริษัท เอชพี และ บริษัท เดลล์ ซึ่ง 2 รายหลังที่เป็นบริษัทคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรายใหญ่ มีการแผนโยกย้ายการผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คถึง 30% ออกจากจีนไปยังประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ขณะที่แอปเปิ้ล ก็กำลังหารือกับบรรดาซัพพลายเออร์ให้ช่วยประเมินผลกระทบด้านต้นทุน หากบริษัทจะโยกการผลิต 15-30% จากจีนไปยังอินเดีย

รุกฆาต! ทรัมป์ประกาศจีนกำลังแพ้เทรดวอร์  กว่า 50 บริษัทหนีตายย้ายฐานผลิตเลี่ยงกำแพงภาษี

นิกเกอิ เอเชียน รีวิว สื่อใหญ่จากญี่ปุ่น รายงานว่า นอกจาก 3 รายใหญ่ข้างต้นแล้ว นินเทนโด ก็เป็นอีกราย ที่กำลังจะโยกย้ายการผลิตคอนโซลเกมส่วนหนึ่งจากประเทศจีนไปยังเวียดนาม  และไม่ใช่แค่บริษัทต่างชาติเท่านั้น แม้แต่บริษัทของจีนเอง ก็กำลังมีแผนปรับเปลี่ยน-โยกย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสงครามการค้า เช่น บริษัท ทีซีแอล ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าของจีนที่มีตลาดส่งออกทั่วโลก กำลังย้ายโรงงานผลิตโทรทัศน์ออกจากจีนไปยังประเทศเวียดนาม ขณะที่ บริษัท ไซ่หลุน ไทร์เออร์ (Sailun Tire) ผู้ผลิตยางรถยนต์ กำลังย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย เป็นต้น

รุกฆาต! ทรัมป์ประกาศจีนกำลังแพ้เทรดวอร์  กว่า 50 บริษัทหนีตายย้ายฐานผลิตเลี่ยงกำแพงภาษี

ทั้งนี้ ความตึงเครียดทางการค้าที่ยังไม่เห็นวี่แววคลี่คลายระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว โดยสหรัฐฯได้ขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 25%  คิดเป็นมูลค่ารวม 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังขู่จะขึ้นภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติมอีก 325,000 ล้านดอลลาร์ แนวโน้มที่ส่อไปในทางลบเช่นนี้ ทำให้จำนวนบริษัทที่ประกาศแผนย้ายฐานการผลิต หรือกำลังใคร่ครวญว่าจะย้ายการผลิตออกจากจีนนั้น มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

ไม่เพียงเท่านั้น ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยังส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจของประเทศจีนแล้ว โดยตัวเลขล่าสุดซึ่งเป็นสถิติของไตรมาส2 ของปี 2562 พบว่า เศรษฐกิจของจีนที่วัดจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวในอัตราแผ่วลงและต่ำกว่าความคาดหมาย ที่อัตรา 6.2% นับเป็นการขยายตัวรายไตรมาสที่ต่ำที่สุดในรอบ 27 ปี ผู้นำสหรัฐฯอ้างว่า ตัวเลขจีดีพีที่ต่ำเกินคาดของจีนนั้นแสดงให้เห็นว่า จีนกำลังเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามการค้าครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทเอกชนกำลังหลั่งไหลออกจากประเทศจีน

 

ทวิตเตอร์ล่าสุดของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ (15 ก.ค.) แสดงให้เห็นว่า ผู้นำสหรัฐฯเชื่อว่าเขามาถูกทางแล้ว (กับการเล่นงานจีนด้วยกำแพงภาษี) “การขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกากำลังส่งผลกระทบที่ชัดเจนต่อบริษัทที่กำลังต้องการย้ายหนีออกจากประเทศจีนไปยังประเทศอื่นๆที่ไม่ถูกตั้งกำแพงภาษี บริษัทจำนวนนับพันๆรายกำลังย้ายหนีออกจากประเทศจีน และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมจีนถึงอยากจะทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ”