ฝ่ายค้านตั้งป้อมถล่มคุณสมบัติ“นายกฯ-13รมต.”

18 ก.ค. 2562 | 10:44 น.

 “ฝ่ายค้าน”แบ่ง 6 กลุ่มอภิปรายนโยบายรัฐบาล “เศรษฐกิจ-การเมือง-ความมั่นคง-สังคม-การศึกษา-กระจายอำนาจ” พร้อมตั้งป้อมถล่มคุณสมบัติ “นายกฯ- 13 รมต.” 
       

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการอภิปรายนโยบายรัฐบาล ระหว่างวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ว่า พรรคเพื่อไทยเปิดให้ ส.ส.แสดงความจำนงที่จะอภิปราย โดยขณะนี้มีผู้แสดงความจำนงแล้วเกือบ 50 คน  

 

สำหรับเนื้อหาการอภิปรายนั้น จะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม มีหัวหน้าชุดและวิทยากรเป็นพี่เลี้ยงในแต่ละชุด อาทิ อดีตผู้บริหารพรรค อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ รวมถึงนักวิชาการทั้งภายในพรรคและนอกพรรค ทั้งนี้ ในวันที่ 19 ก.ค. วิทยากรจะได้พบกับผู้แสดงความจำนงขออภิปราย จากนั้นในวันที่ 22 ก.ค.จะเริ่มติวเข้ม ส่วนเรื่องของเทคนิคและคำพูดต่างๆ นั้น จะมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายอดิศร เพียงเกษ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นวิทยากรให้  “ยืนยันว่า การอภิปรายนโยบายของรัฐบาลครั้งนี้ จะเกิดประโยชน์กับการทำงานของรัฐบาลเอง แต่ถ้าหากรัฐบาลทำไม่ได้จริงๆ คำตอบสุดท้ายจึงจะเป็นการล้มรัฐบาล”        

     ฝ่ายค้านตั้งป้อมถล่มคุณสมบัติ“นายกฯ-13รมต.”

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เนื้อหาการอภิปรายจะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มคือ  

1.ด้านเศรษฐกิจ อาทิ สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ ระบบคมนาคม รายได้ท่องเที่ยวที่ลดลง ซึ่งจะชี้ให้เห็นว่ามีปัญหาอย่างไร 

2.ด้านการเมือง อาทิ กฎหมาย หลักธรรมาภิบาล กรอบคุณธรรม จริยธรรม การทุจริตคอรัปชั่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคุณสมบัติของรัฐมนตรี 

3.ด้านความมั่นคง อาทิ สิทธิเสรีภาพของประชาชน และการควบคุมสิทธิเสรีภาพด้านโซเชียล 

4.ด้านสังคม อาทิ การสาธารณสุขของประเทศ ปัญหายาเสพติด ปัญหาเด็ก สตรี และคนชรา รวมถึงความไม่พร้อมที่จะนำนโยบายกัญชามาใช้กับประเทศไทย 

5.ด้านการศึกษา ซึ่งจะมีอดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการมาเป็นพี่เลี้ยงให้ 

และ 6.ด้านการกระจายอำนาจ อาทิ การลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน ว่าควรจะใช้อำนาจอย่างไร โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ จะเป็นผู้อภิปรายเปิดประเด็น ก่อนที่จะกลับมาสรุปในช่วงท้ายอีกครั้ง 
 

สำหรับรัฐมนตรีที่มีปัญหานั้น ได้แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ

1.กลุ่ม 3 ป.คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา 

กลุ่มที่ 2.กลุ่มรัฐมนตรีที่มีคดีค้างอยู่คือ นายอุตตม สาวนายน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ และ นายนิพนธ์ บุญญามณี 

กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่มีคดีกบฏและเคยร่วมเดินขบวนล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งคือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 

และกลุ่มที่ 4.กลุ่มรัฐมนตรีที่ถือหุ้นสื่อคือ หม่อมราชวงศ์ จัตุมงคล โสณกุล นายสาธิต ปิตุเตชะ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ 

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าสิ่งที่พรรคจะนำไปอภิปรายนั้น ไม่ได้มาจากการคิดเอง วิเคราะห์เอง แต่มาจากการรับฟังจากประชาชนทุกกลุ่มทั่วประเทศ