“สนธิรัตน์”พร้อมปรับแผนพีดีพีใหม่ ประชาชนทุกคนต้องเข้าถึงพลังงานได้

18 ก.ค. 2562 | 10:36 น.

“สนธิรัตน” เข้ากระทรวงพลังงานวันแรก พร้อมสักการะพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนประชุมผู้บริหาร ยันทำงานเพื่อผลประโยชน์ของชาติ เรื่องพลังงานต้องเป็นพลังงานสำหรับคนทุกคน ประชาชนเข้าถึงได้ และแบ่งเบาภาระผู้มีรายได้น้อย  ส่วนแผนดีพีพีจะปรับปรุงหรือไม่ ขอดูในรายละเอียด ต้องเพิ่มเติมตรงจุดไหน ยืนยันยังคงหนุนการใช้น้ำมั้นไบโอดีเซล B10 และ B20 ต่อเนื่อง ส่วนจะต่ออายุชดเชยราคา B20 ให้ต่ำกว่า B7 ในอัตรา 5 บาทต่อลิตร ที่จะหมดอายุสิ้นเดือนก.ค.นี้หรือไม่ จะต้องดูรายละเอียดผลกระทบก่อนตัดสินใจต่อไป

 

เมื่อเวลา 15.39 น.ของวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ถือฤกษ์ เข้ากระทรวงพลังงาน เป็นวันแรก และได้สักการะพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำกระทรวงพลังงาน มีข้าราชการระดับสูงทุกกรมกอง รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจร่วมให้การต้อนรับ เช่น นายกุลิศ สมบัติสิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน, นายเสมอใจ  ศุขสุเมฆ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.), นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน), นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ. เป็นต้น ก่อนที่จะประชุมผู้บริหารกระทรวง และมอบนโยบายต่อไป

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

นายสนธิรัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการบริหารงานว่า จะจะมุ่งเน้นทำให้พลังงานไทยเกิดความยั่งยืน ยึดมั่นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติให้ตกอยู่กับคนไทย และให้ประชาชนมีพลังงานใช้อย่างมั่นคง อย่างไรก็ตามพลังงานเป็นสิ่งที่สำคัญ และเป็นของคนไทยทุก จึงต้องนำพลังงานมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยคนไทยต้องได้มีส่วนร่วม ให้พลังงานได้เป็นส่วนตอบโจทย์ของประชาชนโดยทั่วไป

 

“ไม่อยากให้มองว่ากระทรวงพลังงานเป็นขุมทรัพย์และผลประโยชน์ เป็นการเข้าใจผิดที่จะต้องได้รับการแก้ไข  เพราะพลังงานเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก จึงต้องดูแลให้ทั่วถึง โปร่งใส ตรงไปตรงมา ตรวจสอบได้ ”

“สนธิรัตน์”พร้อมปรับแผนพีดีพีใหม่ ประชาชนทุกคนต้องเข้าถึงพลังงานได้

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (PDP 2018) หรือพีดีพีฉบับใหม่นั้น ต้องขอดูในรายละเอียดของแผนก่อน ว่าจะต้องปรับปรุงหรือต้องเพิ่มเติมอะไรบ้าง แต่เชื่อว่าผู้ที่ทำแผนพีดีพีมีการพิจารณาอย่างรอบครอบอยู่แล้ว ซึ่งเบื้องต้นต้องรับฟังความเห็นจากผู้บริหารของกระทรวงพลังงานก่อนจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

 

รวมถึงกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินมีหนังสือให้กระทรวงพลังงานทบทวนแผน PDP 2018 เพื่อให้รัฐมีสัดส่วนไฟฟ้า 51% และกรณีบริษัท เชฟรอน ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานหลักผู้รับสัมปทานแหล่งเอราวัณ และบริษัท โททาล ซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุนในแหล่งบงกช ในอ่าวไทยได้ยื่นหนังสือเตือน(โนติซ) ถึงกระทรวงพลังงาน ขู่ฟ้องอนุญาโตตุลาการ หากไม่ได้รับความชัดเจนเรื่องการวางหลักประกันการรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมที่จะหมดอายุสัมปทานในช่วงปี2565-2566 นั้น กระทรวงพลังงานจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างถูกต้องที่สุด

อีกทั้ง กรณีที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ชุดก่อน อนุมัติให้บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในภาคตะวันตก 2 โรง รวมกำลังผลิตไฟฟ้า 1,400 เมกะวัตต์ โดยไม่ต้องเปิดประมูลแข่งขันราคากับเอกชนรายอื่น ซึ่งได้มีการลงนามซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จะมีการนำมาทบทวนใหม่หรือไม่นั้น จะต้องดูในรายละเอียดของมติกบง.ก่อนว่าเป็นอย่างไร  

“สนธิรัตน์”พร้อมปรับแผนพีดีพีใหม่ ประชาชนทุกคนต้องเข้าถึงพลังงานได้

นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการชดเชยราคาน้ำมันไบโอดีเซลB20 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 20% ในทุกลิตร)ให้ต่ำกว่า น้ำมันไบโอดีเซลB7 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 7% ในทุกลิตร) 5 บาทต่อลิตร ที่จะครบกำหนดการชดเชยในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 นี้ จะขอดูรายละเอียดโครงสร้างราคาก่อนว่าควรต่ออายุส่วนลดต่อไปหรือไม่ หากต่ออายุจะมีผลกระทบอย่างไร และดูสถานการณ์น้ำมันปาล์มดิบ(CPO)ที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลผลิตอีกครั้งด้วย  

 

นอกจากนี้ การบริหารเกี่ยวกับปาล์มน้ำมันนั้น เบื้องต้นเห็นว่าน้ำมันไบโอดีเซล B10 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 10% ในทุกลิตร) ควรเป็นน้ำมันหลัก เนื่องจากดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มได้มาก ส่วนการใช้น้ำมันไบโอดีเซลB20 ก็ยังต้องดำเนินต่อไป เพราะหาก B10 ช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มได้ไม่เพียงพอในช่วงผลผลิตที่ออกมามาก B20 ก็เป็นเป็นส่วนที่ช่วยดูดซับได้มากขึ้น

 

สำหรับกรณีการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมนั้น จะตรึงต่อหรือไม่คงต้องพิจารณารายละเอียดให้ชัดเจนก่อน

“สนธิรัตน์”พร้อมปรับแผนพีดีพีใหม่ ประชาชนทุกคนต้องเข้าถึงพลังงานได้