สวทช. ส่ง Chatbot เสริมศักยภาพงานบริการสาธารณสุขพื้นที่อีอีซี

15 ก.ค. 2562 | 04:00 น.

สวทช. เร่งส่งเสริมศักยภาพเทคโนโลยีดิจิทัล หวังเพิ่มผลิตภาพผู้ประกอบการทุกภาคส่วน ล่าสุด ผลักดันงานบริการด้านสาธารณสุข นำ Chatbot ปรับใช้ในกลุ่มสถานพยาบาล เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน รองรับผู้ป่วย ทั้งแง่บริการ ตอบคำถาม และเก็บข้อมูล มุ่งลดปัญหางานซ้ำซ้อน ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการยุค 4.0

สวทช. ส่ง Chatbot เสริมศักยภาพงานบริการสาธารณสุขพื้นที่อีอีซี
ดร. ชยกฤต เจริญศิริวัฒน์ นักวิจัยอาวุโส สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ดูแลเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์พาร์ค) กล่าวว่า เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย สวทช. มีโครงการที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการในด้านต่าง ๆ ทั้งภาคการค้า ภาคอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว และอีกหนึ่งภารกิจคือ การส่งเสริมเทคโนโลยี ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ ที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ให้ความสำคัญกับการลงทุนวิจัยและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ประเทศ โดยมีเป้าหมายยกระดับศักยภาพของประเทศสู่ประเทศที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยซอฟต์แวร์พาร์คเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเพิ่มผลิตภาพ ลดเวลากับผู้ประกอบการทุกภาคส่วน 

ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการผลักดันงานบริการด้านสาธารณสุข ให้มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับงานบริการมากขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยี Chatbot ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้น เพื่อจำลองบทสนทนาของมนุษย์ ให้สามารถพูดคุย สื่อสารกับมนุษย์ผ่านทางเสียงหรือข้อความแบบ real-time โดยนำมาปรับใช้ในกลุ่มสถานพยาบาลเพื่อรับมือกับปัญหาในการตอบคำถามซ้ำซ้อน รวดเร็ว และไม่มีหยุดพัก สามารถค้นหาข้อมูลได้ตรงประเด็น บางครั้งอาจจะแก้ปัญหาง่าย ๆ ได้โดยไม่ต้องรอพึ่งคน ทั้งยังช่วยให้หน่วยงานสามารถบริการประชาชนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น คนไข้หรือญาติคนไข้ที่ต้องการนัดแพทย์ สามารถทำการนัดผ่าน chatbot ได้ เมื่อมาถึงโรงพยาบาลและทำการกดคิวที่หน้าห้อง พอถึงคิว bot จะส่งข้อความเตือนให้เดินมาที่หน้าห้องตรวจได้ เป็นต้น นอกจากนี้ คนไข้ที่ต้องดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เช่น ภูมิแพ้ เบาหวาน หรือสตรีมีครรภ์ จะสามารถสร้าง bot เพื่อดูแล ไต่ถาม หรือตอบคำถามคนไข้กลุ่มนี้ได้ โดยการสร้างระบบ AI ที่ดึงเอาความรู้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาไว้ในฐานข้อมูล และนำออกมาเพื่อใช้ตอบคำถามของคนไข้ได้

อัจฉริยะ ดาโรจน์
นายอัจฉริยะ ดาโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง AIYA ในฐานะสตาร์ทอัพผู้บุกเบิกเทคโนโลยี AI กล่าวว่า กิจกรรม Workshop ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับการเปิดตัว ‘Meddy Chatbot คู่ใจสถานพยาบาล’ ที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ ซึ่งผู้ประกอบการและผู้ให้บริการกลุ่มโรงพยาบาลที่เข้า Workshop จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างและการใช้งานของตัว Meddy Chatbot อย่างละเอียด รวมถึงรับฟังประสบการณ์การนำ Chatbot เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานของธุรกิจต่าง ๆ ทำให้ได้รู้จักและเข้าใจเทคโนโลยี Chatbot พร้อมเรียนรู้วิธีทำและวิธีใช้งาน Chatbot เพื่อให้สามารถนำไปต่อยอดและปรับใช้กับธุรกิจของตนเองได้

“การนำเทคโนโลยี Chatbot มาปรับใช้ในกลุ่มสถานพยาบาล สามารถมองได้ 2 ส่วน ส่วนแรกคือ Chat ซึ่งปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ช่องทางการติดต่อสื่อสารที่เปลี่ยนจากการโทรเป็นการ Chat และส่วนที่สองคือ Bot เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยทำงานแทนคนในงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ อีกทั้งยังสามารถทำได้ 24 ชั่วโมง มีความแม่นยำ เก็บข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก และเรียนรู้ได้รวดเร็ว สถานพยาบาลจึงควรมีการนำเทคโนโลยี Chatbot มาปรับใช้ในการติดต่อสื่อสารกันภายในสถานพยาบาล เช่น การรับส่งเวร ปัจจุบันมักใช้ Line ในการดำเนินการ แต่ Line ไม่มีการเก็บข้อมูล อีกทั้งการรับส่งเวรนั้นควรเป็นไปตามมาตรฐาน ISBAR คือ การสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะของผู้ป่วย (Identification-Situation-Background-Assessment-Recommendation) ซึ่งสถานพยาบาลสามารถนำเทคโนโลยี Chatbot เข้าไปใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ได้” นายอัจฉริยะ กล่าว

สวทช. ส่ง Chatbot เสริมศักยภาพงานบริการสาธารณสุขพื้นที่อีอีซี

นายแพทย์สุกิจ บรรจงกิจ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาระบบบริการสุขภาพ โรงพยาบาลระยอง กล่าวว่า โรงพยาบาลมียอดผู้ป่วยนอกที่มารับบริการเกิน 2,000 คนต่อวัน ในขณะที่อัตรากำลังคนยังขาดแคลน จึงต้องพัฒนาระบบงานให้มีคุณภาพและคล่องตัวยิ่งขึ้น โรงพยาบาลพยายามใช้วิธีลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อนในอดีต และใช้ระบบสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ในทุกระบบงาน เพื่อก้าวเข้าสู่ความเป็น smart hospital 

สวทช. ส่ง Chatbot เสริมศักยภาพงานบริการสาธารณสุขพื้นที่อีอีซี

การเข้าร่วมร่วมกิจกรรม workshop ด้าน Chatbot ช่วยเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับผู้รับบริการให้ดียิ่งขึ้นในภาวะกำลังคนน้อย ไม่สมดุลกับผู้รับบริการที่มากขึ้น และผู้รับบริการจะได้รับข้อมูลได้อย่างรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง สามารถค้นหาข้อมูลได้ตรงประเด็น เพิ่มความพึงพอใจผู้รับบริการ รวมถึงเกิดภาพลักษณ์เชิงบวกต่อโรงพยาบาล  

สวทช. ส่ง Chatbot เสริมศักยภาพงานบริการสาธารณสุขพื้นที่อีอีซี

โรงพยาบาลระยอง มีแนวทางพัฒนาและยกระดับระบบสารสนเทศของโรงพยาบาลให้เป็น digital hospital เพื่อเพิ่มมาตรฐานและคุณค่าบริการ รวมถึงเพิ่มการสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อการให้บริการ (innovative organization) และมีการพัฒนา PHR (Personal Health record) หรือข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วย ให้ผู้ป่วยสามารถใช้และเชื่อมโยงในทุกสถานบริการ ตลอดจนระบบนัดและคิวออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อลดความแออัดและระยะเวลารอคอย นอกจากนี้ ยังใช้ big data และ AI มาช่วยในการวินิจฉัยโรค และ block chain มาช่วยด้านความถูกต้องและปลอดภัยของข้อมูล

สวทช. ส่ง Chatbot เสริมศักยภาพงานบริการสาธารณสุขพื้นที่อีอีซี

สวทช. ส่ง Chatbot เสริมศักยภาพงานบริการสาธารณสุขพื้นที่อีอีซี