รัฐมนตรีเกษตรฯ เสือ-สิงห์-กระทิง-แรด

14 ก.ค. 2562 | 03:22 น.

คอลัมม์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3487 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 14-17 ก.ค.2562 โดย...พรานบุญ
 

รัฐมนตรีเกษตรฯ
เสือ-สิงห์-กระทิง-แรด


           ภายหลังโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรี (ครม.)รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2562 สร้างความฮือฮา เรียกเสียงซี้ดปากในผืนป่าให้กับลิง ค่าง บ่าง ชะนี ที่หากินอยู่ตามพงไพรหลายอย่าง
           อย่างหนึ่งที่อื้ออึงกันมากคือการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสำคัญคือการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวดเดียว 4 คน จากพรรคร่วมรัฐบาล ถือว่ามากที่สุดในทุกกระทรวง เพราะเนื้องานครอบคลุมต่อชีวิตของเกษตรกรกว่า 27-28 ล้านคน
           เสี่ยต่อ-เฉลิมชัย ศรีอ่อน จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็น รัฐมนตรีว่าการ
           รัฐมนตรีช่วยว่าการ 3 คน นำโดย ประภัตร โพธสุธน พรรคชาติไทยพัฒนา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จากพรรคพลังประชารัฐ และ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ จากพรรคภูมิใจไทย
           รัฐมนตรี 4 คน ของกระทรวงเกษตรฯ น่าจะถือว่ามากสุดนับตั้งแต่มีการปฏิรูปกระทรวง โดยการตัดกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯกรมทรัพยากรธรรมชาติฯออกไปตั้งเป็น 1 กระทรวง..
           ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ บอกกะพรานฯมาวว่า ใน ครม.รัฐบาลลุงตู่ 2 ไม่มีกระทรวงไหนจะมาสู้กับกระทรวงพญานาคได้อย่างเด็ดขาด เพราะที่นี่มีรัฐมนตรีคุณภาพคับแก้ว เปี่ยมไปด้วย “เสือ สิงห์ กระทิง แรด”
​​​​​​​           ต่อไปเรื่องแผนงาน ยุทธศาสตร์การทำงาน งบประมาณ โครงการของกระทรวงเกษตรฯ จะต้องผ่านสะดวกโยธินแน่ เพราะมี “รัฐมนตรี”คอยหนุนถึง 4 เสียง กระทรวงอื่นถอยปายยย...555
​​​​​​​           เหนือกว่านั้น ขรก.บอกว่า ในกระทรวงนี้จะแย่งงานกันสนุกแน่ เพราะทั้งกระทรวงมี 15 กรม 3 องค์การมหาชน มีงบกว่า 1.8 แสนล้านบาท
​​​​​​​           พรานฯมาเพ่งพินิจข้อมูลดู เห็นจะจริงตามที่ขรก.เขาว่า เพราะดีกรีรัฐมนตรีแต่ละคนธรรมดาที่ไหน
​​​​​​​           เสี่ยต่อ-เฉลิมชัย เป็นเลขาธิการพรรคปชป.2ครั้งครั้งแรก “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”เป็นหัวหน้า ครั้งนี้เป็นเลขาธิการ พรรคมี “จุรินทร์ลักษณ์วิศิษฏ์”เป็นหัวหน้าพรรคบารมีในพรรคเหลือล้น
​​​​​​​           เหนือกว่านั้น เสี่ยต่อ-ถือเป็นคนใจถึงพึ่งได้ ล้มเจ้าพ่อทับสะแกมาได้ และสามารถปูฐานเมืองเล็กเมืองผ่านให้บรรดา ส.ส. ภาคใต้-ภาคกลาง-ภาคอีสาน-กทม.ต้องยอมยกมือโหวตให้แสดงว่า พลังของเขาไม่ธรรมดา เขาเป็นเสือตัวใหญ่ที่ใครๆ ให้การยอมรับ
​​​​​​​           ทักษะในการหาทุน การจัดการกับนายทุนของพี่เสือเฉลิมชัยตัวนี่ เป็นรองแต่เพียง “กำนัน-สุเทพ เทือกสุบรรณ” เท่านั้น

           พรานฯ ได้ยินว่า เสี่ยต่อนี่ฝีมือการจัดการดี 1 ประเภท 1 ไม่เพียงแต่ฐานทุนส่วนตัวแน่นหนา ธุรกิจสับปะรด ธุรกิจชายแดน ธุรกิจบนดิน ใต้ดิน ล้วนยอมรับในการจัดการ
           ปชป.มีนโยบายชัดคือประกันราคาสินค้าเกษตร ยาง ข้าว มัน ปาล์ม หน่วยที่เกี่ยวพันกันแบบนี้ ทำปุ๊บถึงคน ถึงทุน
           เสี่ยประภัตร โพธสุธน นี่ถือว่าเป็นสิงห์ ตัวใหญ่ เป็นส.ส.มายาวนาน เป็นเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา มาตั้งแต่รุ่น บรรหาร ศิลปอาชา มาสู่รุ่น หนูนา-กาญจนา ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง ชื่อชั้นของเหน่อสุพรรณคนนี้ไม่ธรรมดา ขนาด “ทักษิณ” ยังยอมรับนับถือ แม้ว่า “จองชัย เที่ยงธรรม-สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล” จะไม่ยอมรับก็ตาม
           ฝีมือการจัดการทางนโยบายเพื่อผลทางการเมืองของสิงห์เฒ่าแห่งเมืองสุพรรณบุรีคนนี้ เหยียบหิมะไร้ร่องรอย ขนาดว่าแค่กวักมือ “เจ้าของไร่อ้อย โรงนํ้าตาล ผู้รับเหมา” ก็เดินตามต้อยๆ ยังกะคนถูกมอมยา 555
           สิงห์เฒ่าเมืองสุพรรณประกาศก้อง กรมชลประทาน กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว ของข้า ใครอย่าแตะสุพรรณฯขอ
​​​​​​​           เซอร์ไพรส์สุดๆ คือการที่ “บิ๊กตู่” เสนอชื่อ “กระทิงเปลี่ยว” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งพอประกาศออกมาแค่นั้น นกไพร ผีเสื้อต่างกระพือปีก บินแตกหนีกันพึ่บพั่บ
​​​​​​​           เรียกเสียงซี้ดปากกันสนั่นไปทั้งป่าใหญ่ เพราะ “ผู้กองมนัส” นั้น มีชื่อเสียงดังก้องปฐพีว่า เป็นผู้ใจถึง พึ่งได้ เป็นผู้ทรงอิทธิพล มากด้วยบารมี เปี่ยมไปด้วยฝีมือ...เรื่องนี้พรานฯมิอยากพูดมาก เจ็บคอ!
​​​​​​​           รัศมีทำการของผู้กองมนัสนั้นถือว่ากว้างไกลยิ่ง...ด้วยรัศมีทำการที่กว้างไกลนี่แหละ กลายเป็นบาดแผลให้ลูกผู้ชายที่ชื่อ “ผู้กองมนัส” กลายเป็นสปอตไลต์ที่สังคมจับจ้อง
​​​​​​​           วันที่ 11 ก.ค. 2562 ผู้กองมนัสออกมาชี้แจงหลากหลายเรื่อง ทั้งขนยา เจ้าพ่อ ผู้ทรงอิทธิพลกระทั่งเรื่องความเหมาะสมในเรื่องคุณสมบัติของความเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) (5)
​​​​​​​           ลากยาวไปถึง (7) ที่ระบุว่า ไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก
​​​​​​​           แม้คดีนี้จะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการรองลงโทษ เว้นแต่ความผิดฐานหมิ่นประมาท หรือความผิดลหุโทษ...
​​​​​​​           เหตุเพราะผู้กองมนัสถูกศาลออสเตรเลียตัดสินจำคุก 8 เดือน
​​​​​​​           ผู้กองมนัสว่างี้ ....คดีความถูกกล่าวหาค้ายาเสพติด นำเฮโรอีนส่งออกไปประเทศออสเตรเลียว่า ถือว่าเป็นตราบาปที่ติดตัวมาตลอดชีวิต แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องโอละพ่อ ผมไม่ได้ขนยาเสพติดไปขายที่ประเทศออสเตรเลีย ไม่ได้ผลิตยาเสพติด ไม่ได้จำหน่ายยาที่ประเทศออสเตรเลีย ฉะนั้นข้อหาส่งออก นำเข้า จำหน่าย ผลิต ผมไม่ได้ทำ...

           ผมไม่กังวล ถ้าอภิปรายไม่ไว้วางใจผมในเรื่องของการทำงาน เดี๋ยวผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเด็กบ้านนอกคอกนาอย่างผมนี่ จะทำอะไรเพื่อบ้านเพื่อเมืองได้บ้าง จะทำอะไรให้พี่น้องประชาชนได้เห็นประจักษ์ว่านี่คือลูกชาวนาอย่างผม ผมทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้อยู่ดีกินดี ส่วนในเรื่องของคุณสมบัติ ผมจะมีประวัติอะไร อย่างไร เราปฏิเสธสังคมไม่ได้ แต่ชีวิตผม ผ่าน พ.ร.บ.ล้างมลทิน มากี่ฉบับแล้ว คุณจะบอกว่า ผมคุณสมบัติตก คุณจะบอกผมอย่างโน้นอย่างนี้ กฎหมายก็คือกฎหมาย...
           “คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ก็เฉกเช่นเดียวกันว่า สิ่งที่มันเกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมาเกือบ 30 ปี กับสิ่งที่มันกำลังเกิดขึ้นวันนี้และวันหน้า แน่นอนว่าสิ่งที่ผ่านมาเราไม่สามารถหวนไปทำให้มันดีขึ้นได้”
           “สิ่งที่ผ่านมาผมแก้ไม่ได้ แต่ในอนาคตที่จะถึง หลังจากที่ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯแล้ว ผมจะพิสูจน์ให้สังคมเห็นว่าคนอย่างผม ทำอะไรผมยึดถือหัวอกของคนยากคนจน ผมคิดถึงคุณแผ่นดินที่ให้ผมอยู่มาถึงอายุ 50-60 ปี ผมและครอบครัวผมถือว่าพร้อมทุกอย่าง แต่สิ่งที่ผมยังไม่ได้ทำคือ ทดแทนคุณแผ่นดิน ผมยังไม่ได้ทำ ผมก็ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด”
           ได้ใจพรานฯที่ซู้ดด...คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่คนเราเลือกที่จะทำได้ และต้องทดแทนคุณแผ่นดิน... นี่มันกินใจเหลือเกิน...
           ผู้กองมนัสฯรับเนื้องาน ทำสปก.ให้เป็นทองคำ เปลี่ยนมือได้ ทำราคาข้าวให้ดีกว่าเดิม เติมเงินให้เกษตรกร
​​​​​​​           รัฐมนตรีคนสุดท้าย “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” อดีตพยาบาล อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอุทัยธานี เธอมาดำรงตำแหน่งแทนพี่ชาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นรัฐมนตรีหญิงที่มาได้ เพราะบารมีพี่ชาย เหมือน “บิ๊กแจ๊ด”เจ้าของวาทะ “มาได้วันนี้ เพราะพี่ให้”
​​​​​​​           รัฐมนตรีหญิงอย่างเธอที่เข้ามาทำงานจึงต้องทน อึด สู้งาน ไม่หวั่นไหว เหมือนแรดนอใหญ่ที่ทนนํ้า ทนฝน ทนเสียงด่าทอ เพื่อแสดงฝีมือให้ได้เหมือนที่เธอเดินตามพี่ชาดาเต็มร้อยจนสำเร็จที่สะแกกรัง แม้ใครจะมาว่าเขาคือ เจ้าพ่อ ผู้กว้างขวางที่รวยไม่รู้เรื่อง เธอก็ต้องทำให้เห็นว่า ผู้หญิงธรรมดาขอแค่อึด มีกึ๋นพอก็สามารถทำงานได้
​​​​​​​           ชาดาประกาศชัดว่า สนใจเรื่อง ข้าว อ้อย และปศุสัตว์ แต่เธอจะได้กรมไหนไม่มีใครรู้
​​​​​​​           ผู้กุมขมับที่สุดคือ เสือต่อ-เฉลิมชัย จะแบ่งงานอย่างไรให้ “ปชป.” ได้ รัฐมนตรีช่วยทั้ง 4 พอใจ...พรานฯว่าหนัก...