ร้านสูทคุณภาพราคาแพงระยิบอย่างบริโอนี่ มาเปิดในเมืองไทยได้พักหนึ่งแล้วก็โบกมือลาหายไป ก็ให้นึกถึงคนใช้สูทบริโอนี่_ ใช้_อย่างว่าเปนผิวที่สอง วันหนึ่งเปลี่ยนออกงานได้ตั้ง 4 ชุด!
เขาผู้นี้ คือ บุรุษผิวสีเดโมแครต_วิลลี่ บราวน์ แห่งสภามลรัฐแคลิฟอร์เนีย
ในฐานะที่เคยเข้าไปอยู่ในวงการเมืองมาพักหนึ่ง ที่คณะทำงานของฯพณฯประธานรัฐสภา_ฝรั่งว่าเปน staff มีคำบางคำที่ชวนสับสนในทางรัฐศาสตร์และเกี่ยวกับ Willie Brown ผู้ที่ถูกนึกถึง
การปกครองระบอบประชาธิปไตยนั้น แบ่งอำนาจคาน กันเปนสามเหลี่ยม บริหาร /นิติบัญญัติ / ตุลาการ
ใครๆ ก็ทราบ แต่ภาษาฝรั่งใช้ว่า branch แปล “ฝ่าย”
อเมริกา_มลรัฐห้าสิบรวมกันเปนสหรัฐฯ (มละ_มิลลิ~เล็กๆ) ประมุขฝ่ายการบริหาร (Chief Executive) นั้น ตำแหน่งเป็นทางการว่า ประธานาธิบดี_President มีรองประมุขหนึ่งคนเรียก รองประธานาธิบดี_Vice President เรียกเล่นๆ ว่า Veep มาจากคำย่อ VP (ไม่เชื่อลองออกเสียง_วี_พี ติดกันเร็วๆ) ข้างสภา-นิติบัญญัติ ประมุข คือ ประธาน_สภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) มีชื่อตำแหน่งว่า “Speaker of the House”
ทำไม? ทำไมถึง Speaker? แปลตรงๆ ว่า “ผู้พูด” (แปลอ้อมๆภาษาแอปเปิลดิจิตอลโลหะ_ไอโฟน ว่า ลำโพง)
ตอบ : ธรรมเนียมสภาทางการเมืองทุกสภานั้น
1. สมาชิกสภาต้องได้รับอนุญาตจากประธานสภาให้กล่าวอภิปราย (พูด) - ถึงและจึง จะพูดได้
2. เวลาพูดสมาชิกตามข้อแรกต้องพูดกับประธานสภาเท่านั้น จะพูดตรงๆ กับสมาชิกสภาฝ่ายตรงข้ามไม่ได้
3. ฝ่ายที่ลุกขึ้นมาอภิปรายโต้ตอบ ก็ต้องพูดกับประธานสภาเท่านั้น
ทำไม? ไม่งั้นมันจะ “ยุ่งตายห่ะ” ตามวลีฯพณฯ อดีตประธานรัฐสภาไทย ประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ โค้วตงหมง บัณฑิตกฎหมายธรรมศาสตร์ ที่ร่วมมือกับบัณฑิตบัญชีมหาวิทยาลัยเดียวกัน_บุญชู โรจนเสถียร -ซาร์เศรษฐกิจ-ทำการเมืองและการธนาคารจนเปนตำนานให้กล่าวขาน เพราะฉะนั้น โดยนัยกิริยา ประธานสภา จึงมีสิทธิพูดเองได้คนเดียวในสภา!
โบราณว่าอย่างนี้ ต้องได้ชื่อตำแหน่งว่า Speaker ใช้ S ตัวใหญ่_ใหญ่ตามตัว
อย่า! อย่าไปปนกับคำว่า “โฆษก” เข้าเชียว เพราะ โฆษกขององค์กรใดๆ หรือของสภา/ของรัฐบาล/ของศาล ล้วนใช้คำว่า “spokesman” !!
อนึ่ง คำว่า chairman มีใช้ในสภาเหมือนกัน แต่เป็นตำแหน่งสำหรับประธานคณะกรรมาธิการ (committee) - lawmaker คณะต่างๆ ในสภา !!- ระวังอย่าลดศักดิ์ท่านประธาน สโป๊กส์แมน_เอ้ย_สปีกเกอร์_55
วิลลี่ บราวน์ เปนนักการเมืองเดโมเเครตชนิดริพับลิกัน แกมีท่วงทีจะเปนเจ้าครองนครในสัดส่วนล้ำเกินผู้คอยให้บริการสาธารณะ_public services ไปหน่อยหนึ่ง ยามฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า ทำภาพยนตร์_หนังฉาย แคสติ้งตัวละครนักการเมืองไม่ถูกใจ_ยังไง ไม่รู้ : ตามหาวิลลี่ บราวน์ มาเล่นแสดง
แสดงบทอะไร?
ตอบ : บทตัวเอง บทนักการเมือง!-55
ในฐานะประธานสภา แคลิฟอร์เนียนั้น วิลลี่ บราวน์ ค่อนจะอื้ออึง_หย่อนขั้นอื้อฉาวไปนิด เพราะมีกิตติศัพท์ติดตัวมาแต่คราวเปนนายกเทศมนตรี ในคราวที่โรคภัยประสาทตาเสื่อมแบบ RP ที่ไม่มีหมอหรือยาจะรักษาหายเข้ามาเยี่ยมเยือน
บุรุษนี้ ทรหดยืดหยัดอยู่ร่วมกับมัน_ เรดินิทิส พิกเมนโตซิส_อาการเหมือนมีไฝดำเกิดขึ้นในจอตา และ_เวรกรรม มันดันขยายแผ่แลใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ!
ไม่โทษใครแม้โชคชะตา ในฐานะคนทำงาน บราวน์เดินหน้า ขอให้พิมพ์เอกสารฟอนท์ใหญ่ขึ้น บ่นนิดๆ ว่าหน้าที่ประธานสภาต้องดูหน้าผู้อภิปรายจึงจะดำเนินเกมสภาลื่นไหล ยามนั่งทำงานในห้องส่วนตัว หัด_ให้หน้าห้องส่งชื่อใส่กระดาษโพยมาให้ก่อน ว่าใครกำลังจะมายืนอยู่ตรงหน้า หน้าห้อง หัดต่อ_ให้ รปภ. ส่งโพยเข้ามาให้ตัวเองก่อนตั้งกะทางเดินห้องโถง 55 -(ทำราวว่าเรดินิทิส พิกเมนโตซิส มันเปนโรคติดต่อ55) หัดใช้ สิ่งที่เหมือน “สิริ” ในวันนี้_สั่งการทางเสียงแก่โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ พร้อมทิ้งประโยคทอง
“Just use more of other brain functions.”
นัยว่าตาจะสูญการมองเห็นไม่เปนไร ใช้ประสาทสัมผัสอื่นเเทนเสียบ้าง
คราวเมื่อบราวน์เปนนายกเทศมนตรีซานฟรานนั้นล่ะ_ความรักพวกรักพ้อง พาดีเอสไอ_เอ้ย_เอฟบีไอ เข้ามาหาสอบสวนทวนสืบอำนาจบริหารใช้เบิกงบประมาณโครมๆ ปนพิลึก เพิ่มทุนในกองทุนรถไฟบ้าง ขึ้นค่าตอบแทนพนักงานเทศบาลบ้าง อันว่าเสือหนุ่มนักสืบถึงว่ามีพลังวังชาแต่ทว่าเพลินกรง ทำอะไรเสือเฒ่าเจนป่า นักเรียนกฎหมายที่ผึ่งผายในเทคนิควิชาหาได้ไม่ รอดตัวแล้ว วิลลี่ บราวน์ เสือเฒ่าก็สวมสูทบริโอนี่ตัวงามข้ามฟากมาทำงานฝั่ง Speaker จนเปนที่กล่าวขาน
อำนาจนิติบัญญัติ นั้นดังเงียบๆ แต่อำนาจบริหารสิ_ดังโครมคราม.
หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,487 วันที่ 14 - 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2562