พลิกขุมทองขสมก. อู่รถเมล์ สู่ทำเลเวิลด์คลาส

16 ก.ค. 2562 | 23:30 น.

 

ปัจจุบันที่ดินรัฐ ใจกลางเมืองมีหลายแปลง อยู่ระหว่างนำออกพัฒนา สร้างมูลค่ามหาศาลให้กับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นที่ดินแปลงงามของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ที่ดินที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ ที่ดินการท่าเรือแห่งประเทศไทย บริเวณคลองเตย ฯลฯ ล่าสุดองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ประกาศ พลิกขุมทองคำ นำ “อู่รถเมล์” ทำเลศักยภาพ เปิดให้เอกชน ร่วมลงทุนพีพีพีตามนโยบายรัฐบาล ล้างปัญหาขาดทุนพลิกฟื้นองค์กรหลังคณะรัฐมนตรี(ครม.)ประยุทธ์  1 เห็นชอบจึงเป็นที่จับตาว่า บิ๊กทุนรายใดจะได้คว้าไปครอง เนื่องจากเป็นทำเลที่ดี โอบล้อมด้วยรถไฟฟ้า

ทั้งนี้หากไล่เลียงที่ดินแปลงเด็ดของขสมก. ภายหลังศึกษา นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก.ระบุว่ามีจำนวน 5 แปลง เบื้องต้นพบว่าแปลงที่เหมาะสมมากที่สุดมีจำนวน 2 แปลง ส่วนอีก 3 แปลงอยู่ในทำเลที่ไม่เหมาะที่จะนำมาพัฒนาในขณะนี้ แปลงอู่บางเขน ขนาดพื้นที่ประมาณ 13 ไร่และแปลงอู่มีนบุรี ขนาดที่ดิน 15 ไร่ โดยมีนบุรีจะเห็นภาพชัดเจนหากรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีส้มเปิดให้บริการจะเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางขนาดใหญ่ในอนาคตของโซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก นับเป็นอีกหนึ่งทำเลทองที่น่าสนใจด้านการลงทุน อีกทั้งปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ย่านใจกลางตลาดมีนบุรีหากสามารถยกระดับการพัฒนาตลาดรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตจะส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้ไม่มากก็น้อยคาดว่าปี 2563 จะได้เห็นการชิงพื้นที่กันอย่างสนุก

พลิกขุมทองขสมก. อู่รถเมล์ สู่ทำเลเวิลด์คลาส

แม้ที่ดินอีก 3 แปลงผลการศึกษาบ่งชี้ว่าศักยภาพยังไม่เหมาะสมต่อการพัฒนาเป็นคอมเพล็กซ์ใหญ่สร้างรายได้ แต่เชื่อว่า อนาคตอาจพลิกกลายเป็นทำเลทองที่น่าจับตาหากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรัฐขยายผ่านสู่แปลงที่ดินทั้งแปลงแสมดำ ของเขตการเดินรถที่ 5 ขนาดพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ ซึ่งปัจจุบัน ที่ตั้งแปลงที่ดิน ไม่ติดถนนสายหลักอยู่ลึกเข้าไปด้านใน 100-200 เมตร ซํ้าร้ายกว่านั้น ถนนที่เชื่อมผ่านยังเป็นถนนส่วนบุคคล เช่นเดียวกับที่ดินแปลงสวนสยาม ขนาดที่ดิน 20 ไร่ ทางเข้าห่างจากถนนสายหลักประมาณ 100 เมตร ขณะที่ดินแปลงรังสิตเนื้อที่ 20 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังตลาดสุชาติ มองว่าอนาคต น่าสนใจ เนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานีรังสิตของรถไฟสายสีแดง เพียงแค่รอให้รถไฟเส้นนี้เปิดให้บริการ

 

ทั้งนี้แนวทางการพัฒนาพื้นที่ขสมก.จะเปิดเชิญชวนให้เอกชนเช่าพื้นที่ไปพัฒนาซึ่งรูปแบบที่ขสมก.ต้องการจะให้เป็นไปในรูปแบบการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน(ทีโอดี) ให้มีทั้งอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย ช็อปปิ้งมอลล์ คอมเพล็กซ์ด้านการลงทุนต่างๆ โดยแนวคิดการพัฒนาจะต้องหารือกันทั้งเอกชนและขสมก. ต่อไป

พลิกขุมทองขสมก. อู่รถเมล์ สู่ทำเลเวิลด์คลาส

“ขสมก.ต้องการให้เป็นสถานีรถเมล์ที่เชื่อมต่อการเดินทางขนาดใหญ่โดยไม่ต้องเอารถมาจอดจำนวนมากเช่นในปัจจุบัน หมุนเวียนรถเข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารแล้วเอาพื้นที่ไปหาประโยชน์อย่างอื่นที่ก่อให้เกิดรายได้กับขสมก.เพื่อปลดภาระหนี้ ไม่ให้เป็นภาระของรัฐบาลอีกต่อไป โดยจะนำรถส่วนที่เหลือไปจอดตามจุดต่างๆที่เหมาะสมต่อไป เบื้องต้นกำหนดว่าในปี 2566 อีบิตดาจะเป็นบวก ปี 2574 จะมีกำไรจากการลงทุนดังกล่าว ซึ่งเงินกู้ที่นำมาลงทุนต่างๆ จะทยอยใช้คืนไปจนถึงปี 2586 ให้ครบทั้งหมด โดยภาระหนี้จากจำนวนบุคลากรยังเป็นสัดส่วนมากถึง 40% จึงมีการเออร์ลี่รีไทร์ให้ลดเหลือประมาณ 30%”

ไม่ว่าจะอยู่ทำเลไหนมีสภาพแบบใดหากทันทีที่รถไฟฟ้า วิ่งผ่าน ที่ดินแปลงนั้นจะมีมูลค่าเพิ่มทันทีเฉกเช่นขุมทอง“อู่ขสมก.” 

หน้า 27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3487 ระหว่างวันที่ 14 - 17 กรกฎาคม 2562

พลิกขุมทองขสมก. อู่รถเมล์ สู่ทำเลเวิลด์คลาส