สนง.สลาก 'ร้อยเล่ห์กล' ดูดเงิน 'คนขายหวย'

10 ก.ค. 2562 | 04:46 น.

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3486 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 11-13 ก.ค.2562 โดย...พรานบุญ

 

สนง.สลาก‘ร้อยเล่ห์กล’

ดูดเงิน ‘คนขายหวย’

          “1 สิงหาคม 2562 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะพิมพ์สลากออกขายเพิ่มอีก 10 ล้านฉบับ รวมเป็น 100 ล้านฉบับ/งวด โดยสลากที่เพิ่มขึ้นนั้น จะทำให้มีคนเข้ามาซื้อได้เพิ่มอีก 2 หมื่นราย” ธนวรรธน์ พลวิชัย ชี้แจง

          บรรดาคอหวย นักเสี่ยงโชค..ต่างดี๊ด๊า กระปรี้กระเปร่า เพราะจะได้ควักเงินออกมาล่ารางวัลกันทั้งเมือง

          พรานฯที่ลงทุนลงแรงท่องไพรี หากรรมวิธีแก้ปัญหาปากท้องจากการปลูกนํ้าเต้า ดั๊น ออกลูกเป็น “ปู ปลา” กลับเห็นเป็นปมใหญ่ของสังคม...สวนทางนักวิชาการเศรษฐศาสตร์ไม้บรรทัด

          ยิ่งเห็นท่านรองอธิการบดีธนวรรธน์ ชี้แจงว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา สนง.สลากฯได้จัดทำสลากรวมชุดแบบ 2-2-1 มาตั้งแต่งวดวันที่ 1 มีนาคม 2562 ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งที่น่าพอใจ มีผู้ขายสลากออกมาเรียกร้องว่า ต้องการสลากในปริมาณที่มากขึ้นเป็น 10-50 เล่มต่อราย จากเดิมที่ได้รับจัดสรรเพียง 5 เล่มต่อราย จนทำให้ผู้ขายเหล่านี้ต้องเข้าไปพึ่งพาตลาดขายส่ง มติให้พิมพ์สลากเพิ่มอีก 10 ล้านฉบับ เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ขายในระบบซื้อ จองล่วงหน้า ที่จะเริ่มในรอบจองงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป จะแก้ปัญหานี้ได้

          “การเติมสลากเข้าไป ไม่ใช่เติมให้คนซื้อ แต่เป็นการเติมให้ผู้ขาย เพื่อให้คนที่ขายจริง สามารถซื้อสลากได้มากขึ้น และคนที่มารับสลากไปขายต่อในตลาดขายส่งจะทำได้ยากลำบากขึ้น เพราะสลากอยู่ในมือคนที่ขายจริง”

          พรานฯมิใช่นักวิชาการ แต่เป็นนักวิชาเกิน จึงต้องทำมาหากินเลี้ยงชีพอยู่ในดงพงไพร...เห็นคำอรรถาธิบายแล้วตะลึง อื้ออึงในสมอง

          ยิ่งพอส่งลิงค่างบ่างชะนีที่เป็นพรรคพวกออกไปสืบค้นแล้วพบว่า ปัจจุบันนั้นสลากที่มีการขายออกไปนั้นเกือบ 75% ไปตกในมือผู้ค้าสลากรายย่อยที่มีอยู่ร่วม 2.5 แสนรายแล้ว พรานฯต๊กใจ อ้าปากค้าง ตาลีตาลานเหลือก..

          เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่า ต้องมีมือดีมา “ดูดเงินจากเจ้ามือขายหวยรายย่อย” ไปใช้สบายบรื๋อสะดือจุ่น โดยที่รายย่อยไม่รู้ตัวแน่นอน

          เขาทำกันอย่างไรนะหรือขอรับ ลิง ค่าง บ่าง ชะนี บอกว่าเขาหากินง่ายมาก...ไม่เหมือนพวกเราที่ต้องตากแดดหน้าดำ งานเบาหนักเอาเช้าคํ่า...

          เขาทำกันแบบนี้ขอรับ เวลาเขาพิมพ์สลากออกมาขายนั้น เขามิได้เปิดให้จองซื้อมาขายกันแบบงวดต่องวดเด้อสิบอกไห๋...แต่เขาให้จองซื้อสลากผ่านเอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยกันล่วงหน้า 2 งวด เพื่อจะได้จัดพิมพ์ได้ตามความต้องการ ถ้าจัดสรรให้คนละ 5-10 เล่ม ก็สบายบรื๋อ เพราะจะสามารถล้วงควักเงินจากกระเป๋าของบรรดาผู้ค้าสลากรายย่อยได้อย่างตํ่าคนละ 7 หมื่นบาท สูงสุด 1.4 แสนบาทต่องวด มาใช้จ่ายเล่น

          ลองเอา 7 หมื่นบาท คูณกับ 2.5 แสนราย เท่ากับว่าจะมีเงินที่ถูกดูดจากกระเป๋าคนขายหวยมาใช้เฉยๆโดยไม่มีดอกเบี้ย 17,500 ล้านบาท..ไอ้หยา!

          ถ้าให้จองซื้อและวางเงินประกัน 2 งวด ซึ่งจะตกรายละ 1.5 แสนบาท คูณด้วยจำนวนรายย่อยที่จองขายหวย 2.5 แสนราย เท่ากับว่าจะมีเงินให้ใครคนใดคนหนึ่ง หรือสำนักงานสลากกินไม่แบ่งนี่แหละเอาไปใช้ก้อนโตมโหฬาร...

          อันว่าเงินก้อนโตที่เกิดจากการจองซื้อสลากมาขายที่ดูดไปจากมือของรายย่อยที่ทำมาหากินกับการขายสลากนั้น “ดอกผล” มหาศาลทีเดียว

          นักบริหารเงิน นักเศรษฐศาสตร์ที่เชี่ยวชาญอย่าง ดร.ธนวรรธน์ น่าจะรู้ดีว่า “เงินในวันนี้กับเงินในอนาคต” มีมูลค่าต่างกันลิบลับ

          เงินมัดจำดังกล่าวหากมีคนเอาไปบริหารใน “มันนี่มาร์เก็ต” ให้ดี พรานฯว่า ไม่ใครก็ใคร พุงกาง...555

          ส่วนสลากที่เหลืออีก 25% จะไปอยู่ในอุ้งมือรายใหญ่ที่มีกำลังมาก ขนาดพัวพันกับ “รัฐมนตรี” และพรรคพวก ออกเงินกู้ให้กับรายย่อยไปจองซื้อสลากมาขายคนละ 1.5-2 แสนบาท/งวด...555

          การพิมพ์สลากออกมาเพิ่มเป็น 100 ล้านฉบับ ไม่เพียงแต่ทำให้คนที่ขายเกินราคา 20 บาท หรือฉบับละ 100 บาทจะกำไรฉบับละ 29.60 บาท ตกงวดละ 2,960 ล้านบาท เดือนละ 5,920 ล้านบาท ปีละ 71,040 ล้านบาท เท่านั้นจะตีปีกพั่บพั่บ

          แต่คนในสลากฯนั่นแหละที่ปากมัน พรานฯว่าแบบนี้ บอร์ด สนง.สลาก จะว่าจั๋งได๋...เคยรู้เรื่องร้อยเล่ห์การบริหารเงินมัดจำจากชาวบ้านกันบ้างหรือไม่ หึๆ

                  เอ๊ะ...หรือว่า ไม่มีใครบอก เอ๊ะ หรือว่า เขาเอาไปพักกันไว้เฉยๆ! 555