ปริญญ์ พานิชภักดิ์ จากนักเศรษฐศาสตร์ สู่ถนนการเมือง

10 ก.ค. 2562 | 07:25 น.

ในแวดวงนักการเงิน น้อยคนนักที่ไม่รู้จัก “ดร.ปริญญ์ พานิชภักดิ์” นักเศรษฐศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารองค์กรการเงิน ทั้งเป็นลูกชายคนเก่งของ “ดร.ซุป” ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เคยเป็นผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) และอดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่า ด้วยการค้าและการพัฒนา หรืออังค์ถัด (UNCTAD)

หลังสั่งสมประสบการณ์บริหารงานภาคเอกชนกว่า 20 ปี ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นกรรมการหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง อาทิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย, นวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), สำนักงาน พัฒนาธุรกรรมทางอิเล็ก ทรอนิกส์ (ETDA) รวมทั้งเป็นหุ้นส่วนร้าน “เป็ดย่างโฟร์ซีซันส์” จากลอนดอนที่มาเปิดสาขาในไทย 

มุ่งเอเยนต์การเปลี่ยนแปลง

วันนี้ “ดร.ปริญญ์” ตัด สินใจก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองตามรอยบิดา ในฐานะหัวหน้าทีม อเวนเจอร์ “เศรษฐกิจทันสมัย (New Economy)” และรองหัวหน้าพรรคปชป. ด้วยเหตุผลที่เจ้าตัวเปิดประเด็นชวนให้ติดตามว่า อยากเป็นเอเยนต์ของการเปลี่ยน แปลงที่ดีให้กับประเทศไทย

“ตอนแรกไม่มีแผนจะลงการเมือง แต่ซึมซับจากที่คุณพ่อทำงานด้านการเมืองมาตลอด” หัวหน้าทีม “อเวนเจอร์” ด้านเศรษฐกิจ เริ่มบทสนทนากับ “ฐานเศรษฐกิจ” อย่างเป็นกันเอง ว่า เริ่มความสนใจตั้งแต่มีโอกาส ช่วยคุณพ่อเดินหาเสียง ปี 2529 ที่บางกะปิ-หนองจอก-มีนบุรี ช่วงนั้นอายุเพียง 9 ปี ได้โทรศัพท์หาเพื่อนๆ เซนต์คาเบรียลให้ช่วยเลือกคุณพ่อด้วย ซึ่งท่านก็ได้เป็นส.ส. สมัยแรกและได้เข้าไปทำงานในรัฐบาล เมื่อได้เห็นความบาลานซ์ของการทำงานและชีวิตครอบ ครัว  ได้เห็นความพยายามทำงานเพื่อสังคมของคุณพ่อ จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจอยากก้าวสู่เส้นทางการเมือง

 

ปริญญ์ พานิชภักดิ์  จากนักเศรษฐศาสตร์ สู่ถนนการเมือง

ดร.ปริญญ์ พานิชภักดิ์

 

“พอผมได้ทำงานเป็นซีอีโอ เป็นบอร์ดในหน่วยงานรัฐหลายแห่ง รวมทั้งมูลนิธิใสสะอาด ที่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นอดีตประธานกิตติมศักดิ์ ทำเรื่องแอนตี้คอร์รัปชัน จึงเริ่มเห็นว่า เราเป็นนักธุรกิจ นักวิเคราะห์มอง จากข้างนอกอาจจะติชมว่า นัก การเมืองมีข้อจำกัด ทำอะไรช้า ไม่ดีหลายเรื่อง ทำไมเกี้ยเซียะผลประโยชน์ เลยรู้สึกว่า ถ้าเราจะเข้าใจอะไรบางอย่างเราต้องลอง ทำเอง ถ้าจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนที่ตัวเราเองโดยการพยายามทำสิ่งละเล็กละน้อย 

 

นักการเมืองมีข้อจำกัด

จากนั้นดร.ปริญญ์ มีโอกาสเข้ามาวิสาหกิจเพื่อสังคมมากขึ้น ได้แลกเปลี่ยนความเห็นต่างๆ และมีโอกาสได้บรรยายพิเศษในหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษาหลายแห่ง ยิ่งกระตุกต่อมที่อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แม้เจ้าตัวยอมรับว่า การเป็นนักการเมืองมีข้อจำกัด ไม่ ใช่เข้าไปแล้วจะโลกสวย ต้องทำอะไรได้หมดอย่างที่ตั้งใจไว้ก็ตาม

แน่นอนว่า อาชีพนักการเมือง มีความท้าทายสูง ส่วนโอกาสประชาชนจะให้หรือไม่ ก็คิดว่าเป็น หนึ่งในอาชีพที่พยายามทำแล้วทำด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างน้อยเราไม่ต้องหวังตำแหน่งอะไร ถ้าทำดีที่สุด มันจะได้มันก็ได้ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราหวังทำดี ให้ดีที่สุด

“สมมุติจากนี้ไปอีก 20 ปี ผมเป็นนักการเมือง แล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงเพียงน้อยนิด แต่เราช่วยการเปลี่ยนแปลงโดยที่เราพยายามแล้ว  ก็จะไม่ผิดหวัง ดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างน้อยเราก็ทำแล้ว ไม่ใช่พออายุ 60 ปี แล้วหันไปมองตอนอายุ 42 ปี ทำไมเราไม่ทำ ทั้งที่รู้ว่าการเป็นนักการเมือง ที่ดี สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้  ทำงานเอกชนมา 20 ปีแล้ว ซึ่งไม่น้อยไม่มาก ถามว่าเป็นอีก 10 ปีแล้วค่อยลงการเมืองได้ไหม ก็ได้ แต่พลังกับไฟช่วงอายุกว่า 40 ปี กับ 50 ปีอาจจะต่างกัน” 

 

ก้าวสู่ถนนการเมือง

หัวหน้าทีมอเวนเจอร์เศรษฐกิจ ปชป.เล่าว่า นอกจากคุณพ่อที่เป็นแรงจูงใจให้สนใจการเมืองแล้ว ผู้ใหญ่ในพรรคอีกหลายคนก็สนิทกันและชวนให้ มาเข้าพรรคปชป. รวมทั้งอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคที่ชวนให้มาลงสมัครส.ส. ตั้งแต่สมัยที่แล้ว แต่ช่วงนั้นยังไม่หมดวาระการเป็นบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ บวกกับยังเอ็นจอยกับงานเอกชนในระดับหนึ่ง เป็นบอร์ดใน 3-4 แห่งที่ยังไม่ใกล้จบเทอม จึงไม่พร้อมเป็นนักการเมืองเต็มตัว แต่ก็เริ่มเข้ามาเป็นที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจของ “กรณ์ จาติกวณิช” หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค ผู้ใหญ่อีกคนที่ให้ความเคารพ  รวมทั้งช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมาก็เข้ามาช่วย

 

ปริญญ์ พานิชภักดิ์  จากนักเศรษฐศาสตร์ สู่ถนนการเมือง

 

“ช่วงนี้บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังจะเริ่มต้นใหม่ ผมก็จบแล้ว เป็นจังหวะที่ดีมาก เป็นงานที่ผมว่าสำคัญมาก เป็นงานที่เราคิดว่าตำแหน่งหน้าที่สูงสุดแล้วในภาคเอกชนที่คนคนหนึ่ง ทำในสายธุรกิจการเงิน สายธุรกิจหลักทรัพย์ฯ ถ้าไม่นับจะโอนสายธนาคารหรือสายอื่น สายนี้ก็ถือว่าสูงสุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประธานตลาดหลักทรัพย์ฯก็คงไม่ใช่ ผมคงต้องรอไปเป็นผู้ใหญ่ ผมจึง คิดว่าน่าจะลองทำงานด้านอื่นที่คิดว่าจะช่วยสังคมได้”

เป็นอีกมุมมองดีๆ ของคนรุ่นใหม่ที่อยากเห็นสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นในสังคมไทย 

 

ขับเคลื่อน‘เศรษฐกิจทันสมัย’

 

ดร.ปริญญ์ พานิชภักดิ์  กล่าวถึงภารกิจในฐานะหัวหน้าทีมอเวนเจอร์เศรษฐกิจ  พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า ทีมอเวนเจอร์จะทำงานประสานกับทีมเศรษฐกิจของ “กรณ์ จาติกวณิช” มีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน โดย “กรณ์” ก็จะทำหน้าที่ในสภาฯ ขณะที่ทีมอเวนเจอร์ ซึ่งไม่เคยเป็นนักการเมืองก็จะทำงานนอกสภา เป็น การทำงานเพื่อสังคม โดยทีมอเวนเจอร์เปิดตัวไปแล้ว 9 คน แต่ละคนก็จะมีความเก่งแต่ละอาชีพ ที่จะช่วยพรรคขับเคลื่อนแต่ละวิชาชีพที่สำคัญๆ ในเศรษฐกิจยุคดิจิทัลที่เรียกว่า “เศรษฐกิจทันสมัย” หรือ “นิวอีโคโนมี”

 

ปริญญ์ พานิชภักดิ์  จากนักเศรษฐศาสตร์ สู่ถนนการเมือง

 

หัวหน้าทีมอเวนเจอร์เศรษฐกิจ  ขยายความคำว่า “นิวอีโคโนมี” หรือเศรษฐกิจทันสมัยว่า เรื่องธุรกิจทันสมัยทำอะไรต้องคำนึงถึงสังคม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียครบทุกวัฏจักร ไม่ใช่คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเอง กำไรหรือมาร์จิน หรือตัวเลข ทำให้กระทบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมตรงนี้จึงเป็นที่มาของความทันสมัยมันเป็นเรื่องเทคโนโลยี เป็นเรื่องจิตใจ เป็นเรื่องของธรรมาภิบาล จึงผสมผสานทีมเศรษฐกิจนี้ขึ้นมา

สำหรับภารกิจของทีมอเวนเจอร์ ดร. ปริญญ์บอกว่าเมื่อส.ส.สะท้อนปัญหาให้ฟัง ทีมอเวนเจอร์ จะลงพื้นที่ช่วยติดตามปัญหา เนื่องจากปชป.มีเครือข่ายทั่วประเทศ จึงใช้เครือข่ายที่มีอยู่สะท้อนเสียงประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการสร้างความเป็นธรรม ต้องการรายได้ให้ชุมชน และอยากเห็นการปราบคอร์รัปชัน

นอกจากนั้นทีมอเวนเจอร์เศรษฐกิจ ยังมีบทบาทสำคัญในการเป็นคลังสมองให้พรรคปชป. โดยทำงานร่วมกับ  “ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม” อดีตรมช.คลัง และทีมสถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย  และกรรมการนโยบายพรรค

“ทั้ง 3 องค์กรจะทำงานด้วยกัน เพื่อเป็นคลังสมองให้พรรค และออกนโยบายที่เราหวังว่ารมต.แต่ละกระทรวงจะผลักดันให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น” รองหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวอย่างมุ่งมั่น 

รายงาน โดย ทีมข่าวการเมือง

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3486 ระหว่างวันที่ 11 - 13 กรกฎาคม 2562

ปริญญ์ พานิชภักดิ์  จากนักเศรษฐศาสตร์ สู่ถนนการเมือง