บีเจซีควัก4.5พันล้านลงทุนไทย/อาเซียน

29 มี.ค. 2559 | 00:00 น.
บีเจซี เดินหน้าเทงบ 4.5 พันล้านลงทุนต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มกำลังการผลิตกระป๋อง ผุดโรงงานเครื่องสำอาง และขยายร้านบีสมาร์ทในเวียดนาม มั่นใจกำลังซื้อในอาเซียนยังมีสูง ขณะที่ความคืบหน้าซื้อกิจการบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ในไทยแล้วเสร็จ 31 มีนาคมนี้

นางสาวนัทธ์หทัย ธนชัยหิรัญศิริ ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมใช้งบลงทุน 4.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ใช้ลงทุน 2 พันล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยแบ่งเป็นการขยายไลน์การผลิตโรงานผลิตแก้วในประเทศเวียดนามมูลค่า 1 พันล้านบาท การซ่อมเตาผลิตขวดแก้วอีก 1 พันล้านบาท

ส่วนงบประมาณอีก 1 พันล้านบาท จะใช้สำหรับการขยายกำลังการผลิตกระป๋อง สำหรับโรงงานในประเทศเวียดนามและโรงงานในจังหวัดสระบุรี ซึ่งจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 2.4 พันล้านกระป๋องต่อปี เป็น 3.7 พันล้านกระป๋องต่อปี

สำหรับงบประมาณการลงทุนอีก 500 ล้านบาท ใช้สำหรับการลงทุนโรงงานผลิตเครื่องสำอางแห่งใหม่ ซึ่งขณะนี้ได้ซื้อที่ดินบริเวณถนนบางนา-ตราด จำนวน 86 ไร่ โดยจะใช้พื้นที่ 30 ไร่ก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่จะย้ายมาจากโรงงานที่ย่านปู่เจ้าสมิงพราย คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 2 ปี โรงงานดังกล่าวจะผลิตสินค้าให้กับบริษัทและแบรนด์ภายนอกด้วย อาทิ นีเวีย, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เป็นต้น ส่วนงบประมาณที่เหลือจะนำไปใช้ในการขยายร้านคอนวีเนียนสโตร์ภายใต้แบรนด์ "บีสมาร์ท" ในประเทศเวียดนามอีก 80 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 125 แห่ง

"การที่บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีมากนัก เป็นเพราะมองเห็นโอกาสทางการตลาดและกำลังซื้อของกลุ่มประเทศในอาเซียนที่ยังมีอยู่จำนวนมาก โดยยังได้ร่วมทุนกับกลุ่มทุนในเมียนมาเพื่อดำเนินธุรกิจเฮลท์แคร์ในสัดส่วนที่เท่ากันด้วย ซึ่งบริษัทจะทำหน้าที่ในด้านเซอร์วิสเซ็นเตอร์ การดูแล ซ่อมบำรุงเครื่องมือทางการแพทย์"

ด้านผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้กว่า 4.28 หมื่นล้านบาท เติบโต 2.9% หรือเพิ่มขึ้นมูลค่ากว่า 1.19 พันล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2.79 พันล้านบาท เติบโต 66.2% หรือเพิ่มขึ้นมูลค่ากว่า 1.11 พันล้านบาท

ขณะที่ความคืบหน้าการเข้าซื้อกิจการของบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ในเมืองไทยนั้น บีเจซี ได้ตั้งบริษัทย่อย คือบริษัท บีเจซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัดและบริษัท สัมพันธ์เสมอ จำกัด โดยบีเจซีถือหุ้นในสัดส่วน 100% เพื่อเข้าซื้อและรับโอนหุ้นจากกลุ่มคาสิโนจำนวน 4.83 แสนล้านหุ่น หรือคิดเป็น 58.55% และล่าสุดบีเจซี ได้เรียกให้ผู้บริหารบมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เข้านำเสนอข้อมูลทั้งหมดต่อบอร์ดของบีเจซีด้วย โดยบีเจซีจะต้องจ่ายเงินค่าหุ้นทั้งหมดให้กับกลุ่มคาสิโนภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ พร้อมกับรับสิทธิการเข้าบริหารบมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ อย่างไรก็ดี บิ๊กซียังเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ตามแผนที่วางไว้ โดยในปีนี้จะใช้เงินลงทุนราว 6-7 พันล้านบาทสำหรับการขยายสาขากว่า 80 แห่ง ได้แก่ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 5 แห่ง บิ๊กซี มาร์เก็ต 3 แห่ง และมินิบิ๊กซี 75 แห่ง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,143 วันที่ 25 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2559