ฟันธงธ.ค. นี้บีทีเอสเดินรถถึงสถานีม.เกษตรฯ
บีทีเอสยันใช้รถ 46 ขบวนทดลองเดินรถส้นทางสายสีเขียวเหนือเชื่อมหมอชิต-คูคต ล่าสุทดสอบเดินรถ 1 สถานีถึงสถานีเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าวก่อนเปิดให้บริการฟรีเริ่ม 11 สค. 62 เป็นต้นไปพร้อมกำหนดภายใน ธ.ค.นี้เปิดเดินรถเชื่อมถึงสถานีม.เกษตรฯบางเขน ด้านขสมก.เผยจัดเส้นทางรถเมล์รองรับไว้แล้ว
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับการทดสอบเดินรถ 1 สถานีจากสถานีบีทีเอสหมอชิตถึงสถานีเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าวที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้จะใช้รถขบวนใหม่ทั้ง 46 ขบวนหมุนเวียนกันเข้าไปทดสอบควบคู่ไปกับรถขบวนเก่าที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน
โดยกรุงเทพมหานคร(กทม.) มีแผนเริ่มเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรีตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป ส่วนแผนการเปิดให้บริการในระยะต่อไปนั้นหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดว่าภายในเดือนธันวาคม 2562 นี้จะเปิดให้ประชาชนใช้บริการฟรีถึงสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ก่อนที่จะทยอยเปิดให้บริการไปจนสิ้นสุดสถานีคูคตอย่างต่อเนื่องกันไป
“ตามแผนจะทยอยเปิดให้บริการแต่ละสถานีเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนส่วนจะจัดเก็บค่าโดยสารเมื่อไหร่นั้นคาดว่าคงจะรอผลสรุปการเจรจาของคณะกรรมการให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจนก่อนแล้วนำเสนอผู้บริหารกทม.เห็นชอบโดยเร็วต่อไป”
ด้านนายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมให้บริการผู้โดยสาร ณ สถานีเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าวว่ายังมั่นใจว่าผู้โดยสารจะปรับเปลี่ยนจุดขึ้น-ลงจากสถานีจตุจักรมาที่เซ็นทรัลมากนักเนื่องจากสถานีจตุจักรเป็นสถานีต้นทาง ซึ่งโดยพฤติกรรมผู้โดยสารจะนิยมรอใช้บริการ ณ จุดต้นทางมากกว่า
“จุดเซ็นทรัลไม่มีที่รองรับรถตู้อย่างเพียงพอเนื่องจากเป็นป้ายรถเมล์ ดังนั้นจึงจะมีผู้รอรถที่ต้นทาง ณ สถานีจตุจักรมากกว่าจะเปลี่ยนมารอที่เซ็นทรัล แต่ในเบื้องต้นนั้นขอดูเหตุการณ์ในวันเปิดให้บริการอีกครั้งก่อนว่าจะให้รถเมล์เพิ่มความถี่มากขึ้น ซึ่งจุดเซ็นทรัลยังเป็นจุดตัดระยะทางรถทางไกล ดังนั้นหากพบว่ามีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมากก็จะปรับการเดินรถให้สอดคล้องต่อไป โดยเฉพาะช่วงเร่งด่วนเช้า-เย็นจะเน้นรถโดยสารขนาดใหญ่เพื่อรองรับได้คราวละจำนวนมาก ส่วนรถตุ็มีจุดจอดรองรับไว้บางส่วนเท่านั้น”
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงของกรุงเทพมหานคร(กทม.) รายหนึ่งกล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับ BTS เรื่องอัตราค่าโดยสารในส่วนต่อขยายและเรื่องการขยายสัญญาของทั้งสองสัมปทานออกไปอีก 40 ปีแลกเปลี่ยนกับเงื่อนไข 3 ข้อ อาทิ เอกชนต้องลงทุนส่วนต่อขยายเองทั้งหมดและจ่ายส่วนแบ่งรายปีให้กทม. ตามที่ตกลงกัน และรับภาระค่าโอนหนี้สินและทรัพย์สินของโครงการมูลค่า 1 แสนล้านบาท เป็นต้น
“แม้ว่าผู้บริหารระดับสูงของกทม.จะได้สั่งการให้เร่งรัดข้อเสนอเรื่องราคาค่าโดยสารตลอดสายไม่เกิน 65 บาท ตั้งแต่ช่วง คูคต-สมุทรปราการ หรือช่วงคูคต-บางหว้า ส่วนการเจรจาเรื่องค่าแรกเข้าบีทีเอสมีท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้”