‘สามมิตร’ยุติศึก หรือ ไม่มีสัจจะ ในหมู่นักการเมือง

06 ก.ค. 2562 | 01:00 น.

คอการเมือง “งง” เป็นไก่ตาแตก เพราะนักการเมืองยุค 4.0 เปลี่ยนแปลง “พลิกลิ้น” กันได้ชั่วข้ามคืน พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ดูได้จากท่าทีของแกนนำคนสำคัญของกลุ่มการเมืองที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มสามมิตร” ซึ่งออกมาเคลื่อนไหวกดดันผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายหลังมีกระแสข่าวว่า ก๊วนตัวเองไม่ได้เก้าอี้ตามที่ได้ตกลงกัน เอาไว้ โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หลุดจากเก้าอี้ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน” ไปนั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ขณะที่ นายอนุชา นาคาศัย อกหักตกจากเก้าอี้ “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง” ไม่มีชื่ออยู่ในโผ ครม.ในระยะหลัง

 

“ก๊วนสามมิตร”กร้าว

ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ของวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่พรรคพลังประชารัฐ ภายหลังการประชุมหารือร่วมกันของเหล่า ส.ส.กลุ่มสามมิตร นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท เปิดแถลงข่าวด้วยท่าทีที่แข็งกร้าว หยิบยกโผ “ครม.ประยุทธ์ 2” เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ปรากฏชื่อ นายสุริยะ เป็นว่าที่ รมว.พลังงาน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นว่าที่ รมว. ยุติธรรม และนายอนุชา เป็นว่าที่ รมช.คลัง ขึ้นมาตอกยํ้าระหว่างการแถลงข่าว ยืนยันว่า 3 แกนนำสำคัญต้องได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีตามเดิม

กลุ่มสามมิตร เห็นว่า นายสุริยะ มีความเหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่งรมว.พลังงาน มากกว่ากระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งอาจถูกวิจารณ์เกี่ยวกับตระกูลของท่านที่มีธุรกิจขนาดใหญ่ทางด้านอุตสาหกรรม โดยนายอุตตม สาวนายน ในฐานะหัวหน้าพรรคก็ได้เสนอชื่อนายสุริยะ ให้ดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงาน ต่อนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคก็เห็นชอบและไม่ขัดข้องใดๆ

‘สามมิตร’ยุติศึก  หรือ ไม่มีสัจจะ ในหมู่นักการเมือง

อีกทั้งไม่ปรากฏว่า มีบุคคลอื่นในพรรคต้องการหรือออกมาเรียกร้องหรือไม่มีข้อมูลว่า นายสุริยะ เป็นแล้วจะเกิดปัญหาอย่างไร หรือแม้กระทั่ง การวิจารณ์ว่า นายสุริยะไม่เหมาะสมกับตำแหน่งรมว.พลังงาน แต่อย่างใด “การสลับตำแหน่งดังกล่าวย่อมกลับทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผลจำเป็นแต่อย่างใด และ ขอให้นายอนุชา เป็นรมช.คลัง...”

ทั้งยังบอกด้วยว่า หลังมีการประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว หากไม่ตรงกับโผเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ทางกลุ่มจะได้หารือเพื่อแสดงจุดยืนอีกครั้ง

ขู่ขับ“สนธิรัตน์”พ้นเลขาฯ

จากนั้น นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.กลุ่มสามมิตร เปิดฉากกดดันต่อ โดยระบุว่า ในการประชุมพรรควันที่ 2 กรกฎาคม ซึ่งเป็นการประชุมส.ส.พรรคประจำสัปดาห์ เขาจะเสนอญัตติขับไล่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคด้วย เนื่องจากเห็นว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของพรรคและรัฐบาลเป็นอย่างสูง ถ้าปล่อยให้เป็นเลขาธิการพรรคต่อไปจะเป็นอันตรายต่อพรรคมาก

“หน้าที่เลขาธิการพรรค คือ แม่บ้านที่จะต้องดูแลทุกอย่าง ทั้งความเป็นอยู่และความสัมพันธ์ แต่นายสนธิรัตน์ กลับทำให้พรรคแตกแยก และปัญหาเหล่านี้อยู่ที่ตัวนายสนธิรัตน์ ขณะที่ปัจจุบันพรรคมีปัญหาขั้นวิกฤติ แต่นายสนธิรัตน์ ก็ยังไม่อยู่ให้พวกเราปรึกษา โดยเห็นว่า นายสนธิรัตน์จะต้องแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการเสียสละลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค และแสดงความรับผิดชอบไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีในครม.ชุดนี้”

 

‘สามมิตร’ยุติศึก  หรือ ไม่มีสัจจะ ในหมู่นักการเมือง

 

วันรุ่งขึ้น“สามมิตร”พลิกลิ้น

กลายเป็นหนังคนละม้วน เมื่อวันรุ่งขึ้น (2 กรกฎาคม) ปรากฏ ภาพของ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสุริยะ และนายสมศักดิ์ เปิดแถลงข่าวร่วมกัน

โดยนายสุริยะ บอกว่า กลุ่มสามมิตรจะไม่สร้างปัญหาให้นายกฯและนายกฯ คงทราบข้อมูลแล้ว เราเลยมาตกลงกันเพื่อให้นายกฯ สบายใจและไปทำงานเพื่อประเทศชาติ ใครจะอยู่ตรงไหน ยังไง มอบอำนาจเด็ดขาดให้นายกฯตัดสินใจ

“เพื่อให้ประเทศเดินหน้า ไม่อยากให้เป็นประเด็นว่า กลุ่มสามมิตรเป็นปัญหาจึงเห็นตรงกันว่า การจะให้ใครอยู่ในตำแหน่งไหน ทางกลุ่มเคารพการตัดสินใจของนายกฯ และแม้จะไม่พิจารณาตามที่ได้ตกลงไว้ เราก็จะไม่ทบทวนท่าที เราจะไม่ไปยื่นข้อเรียกร้องอะไรและจะไม่งอแงแล้วเราจะไม่ทำให้เกิดปัญหาอีก” นายสุริยะ ระบุ

ขณะที่นายสมศักดิ์ ระบุว่า ส.ส.กลุ่มสามมิตรจะไม่ดำเนินการถอดถอนนายสนธิรัตน์ ออกจากการเป็นเลขาธิการพรรคด้วย เพราะนายสนธิรัตน์ ก็ได้แสดง ออกผ่านเอกสารข่าว แสดงนํ้าใจออกมาเกินกว่าที่เราพูดคุยกันแล้ว จึงขอหยุดและไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น

‘สามมิตร’ยุติศึก  หรือ ไม่มีสัจจะ ในหมู่นักการเมือง

นายอุตตม หัวหน้าพรรคยืนยันเช่นเดียวกันว่า กรณีของกลุ่มสามมิตรนั้นได้แจ้งกับตนแล้วถึงผลการหารือภายในกลุ่มและได้สะท้อนความคิดเห็นในฐานะ ส.ส. เมื่อสะท้อนแล้วเรื่องทั้งหมดก็จบลงตรงนั้น เพราะ ส.ส.กลุ่มสามมิตร และส.ส.ทุกคน ของพรรคได้รับเลือกจากประชาชนเข้ามาทำงานซึ่งการทำงานยังอีกยาวไกล ทางกลุ่มสามมิตรก็พร้อมเดินหน้าทำงานต่อ

 

“วันนี้เรื่องที่ถกเถียงกันของพรรคจบแล้ว และกำลังเดินหน้า นี่คือพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่รับฟังทุกความเห็นต่าง เพราะทุกคนต้องการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เมื่อตั้งรัฐบาลได้ งานในสภาก็จะขับเคลื่อน ทุกอย่างยุติ นี่คือ สปิริต” 

ความเคลื่อนไหวของ “ก๊วนสามมิตร” ช่วงก่อนที่โผคณะรัฐมนตรีจะนิ่ง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แม้ครั้งนี้จะลั่นวาจาไว้ว่า จะไม่งอแง จะไม่ทำให้เกิดปัญหาอีก เข้าทำนอง “ยุติศึก” หรือ “พักรบชั่วคราว” หรือไม่

ส่วนจะรอวันเพื่อปะทุขึ้นมาใหม่ หรือ “ถองแค้น” หรือไม่ ต้องติดตามต่อไป... 

รายงาน โดย ทีมข่าวการเมือง

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3485 ระหว่างวันที่ 7 - 10 กรกฎาคม 2562

‘สามมิตร’ยุติศึก  หรือ ไม่มีสัจจะ ในหมู่นักการเมือง