ลองชิม"เชฟโรเลต แคปติวา โฉมใหม่" ดีไซน์จีน ผลิตอินโด ขายไทย

06 ก.ค. 2562 | 04:10 น.

รู้กันทั่วโลกว่าชาติมหาอำนาจอย่างจีน กับ สหรัฐอเมริกา กำลังงัดข้อกันจนมีปัญหาที่เรียกว่า สงครามการค้า (Trade war) หลายประเทศปั่นป่วนเตรียมมาตรการรับมือกันเป็นว่าเล่น รวมทั้งประเทศไทย

เกริ่นมาแบบนี้ไม่ได้วิเคราะห์อะไรเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก เพียงแต่จะโยงถึงการทดสอบรถยนต์ฉบับนี้สักหน่อย เพราะเราจะพาไปชิม “แคปติวา โฉมใหม่” (All New Captiva) ผลิตภัณฑ์ล่าสุด ที่ “เชฟโรเลต” ในเครือ “เจนเนอรัล มอเตอร์ส” (จีเอ็ม) พาคณะสื่อมวลชนไปทดลองขับที่เมืองหลิ่วโจว ประเทศจีน

ลองชิม"เชฟโรเลต แคปติวา โฉมใหม่" ดีไซน์จีน ผลิตอินโด ขายไทย

ลองชิม"เชฟโรเลต แคปติวา โฉมใหม่" ดีไซน์จีน ผลิตอินโด ขายไทย

ลองชิม"เชฟโรเลต แคปติวา โฉมใหม่" ดีไซน์จีน ผลิตอินโด ขายไทย

“จีเอ็ม” ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา มาลงหลักปักฐานในจีนแผ่นดินใหญ่นานแล้วละครับ หรือถ้านับการก่อตั้งบริษัทร่วมทุน SGMW (เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ,จีเอ็ม และวู่หลิง) ก็ผ่านมาเกือบๆ 20 ปีแล้ว ถือเป็นพันธมิตรที่รักกันดีกับรัฐบาลจีน ก่อนที่ยุคนี้จะเริ่มพูดถึง“สงครามการค้า” กันอย่างกว้างขวาง

ส่วนการทดลองขับ “แคปติวา โฉมใหม่” ที่เลือกใช้คำว่า “ชิม” เพราะเป็นการชิมจริงๆหรือ “ดมกลิ่น” ก็ยังได้ เหตุว่าคณะเราทดลองขับภายใต้ข้อจำกัด รถที่นำมาทดสอบเป็นรถใหม่ห้ามลองเกิน 20 กิโลเมตรต่อคัน จึงมีเวลาในการทดลองขับกันเพียงนิดหน่อย เฉลี่ยมีเวลารวมไม่เกิน 10 นาที แถมรุ่นที่นำมาให้ทดสอบเป็นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่จะวางขายในอเมริกาใต้ ไม่มีขายในประเทศไทย จึงอาจไม่ได้เข้าถึงจิตวิญญาณของสมรรถนะรถมากนัก

แคปติวารุ่นนี้วางเครื่องยนต์ขนาดเดียวคือ เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ 138 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งเมืองไทยจะส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT

ขนาดตัวถังยาว 4,655 มิลลิเมตร กว้าง 1,836 มิลลิเมตร สูง 1,760 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ประกบล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ยางขนาด 215/60 R17

 

ลองชิม"เชฟโรเลต แคปติวา โฉมใหม่" ดีไซน์จีน ผลิตอินโด ขายไทย

 

ด้วยแรงบันดาลใจการออกแบบตัวถังมาจากเครื่องบินรบ โดยส่วนตัวมีความรู้สึกว่าเป็นเอสยูวีที่ดีไซน์โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว ไซซ์ดูไม่ใหญ่มหึมาเหมือนแคปติวารุ่นเก่าที่ออกแนวบึกบึน

ถ้าพูดถึงการตกแต่งแล้ว โดยรวมถือว่ากระชากเงินออกจากกระเป๋าวัยรุ่นได้ กับดีไซน์ตกแต่งออกมาในแนวสปอร์ตหน่อยๆไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ เปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ มีกล้องมองรอบคัน 360 องศา มีเตือนการชนด้านหลัง กุญแจเป็นแบบ keyless แต่ยังไม่มีระบบเบรกอัตโนมัติ ส่วนท่านที่ต้องการฝาท้ายเปิด-ปิด อัตโนมัติ เป็นเรื่องของ ดีลเลอร์ออพชัน ที่ต้องไปบอกให้ดีลเลอร์ช่วยติดตั้งมาให้เอง ซึ่งจะเพิ่มเงินอีกประมาณ 1.5 หมื่นบาท

กระจังหน้าขนาดใหญ่ในสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี ชุดไฟหน้ามีการย้ายตำแหน่ง ไปไว้ที่เปลือกกันชนด้านล่าง เหนือไฟสปอตไลต์ส่วนด้านบน จะเป็นแถบไฟ Daytime Running Light แบบ LED ตัดสลับกับไฟเลี้ยว LED ส่วนไฟถอยย้ายไปไว้ที่มุมด้านล่างของเปลือกกันชนหลัง ส่วนแผงทับทิมสะท้อนแสง มีขนาดยาวต่อเนื่องในแนวขวาง เชื่อมต่อกับชุดไฟถอย เป็นแนวเดียวกัน

อุปกรณ์ภายในครบครันไม่ได้ดูขี้เหร่ วัสดุเนี้ยบพอสมควร จุดเด่นอีกจุดอยู่ที่จอแสดงผลตรงกลาง จะมีขนาดประมาณ 8 นิ้ว ถ้าเป็นเวอร์ชันของไทยจะมีขนาด 10.4 นิ้ว ใหญ่ที่สุดในตลาดเอสยูวีที่ขายในเมืองไทย พวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้าน หุ้มหนังสังเคราะห์ ปรับระดับ ได้แค่ สูง-ตํ่า ไม่สามารถปรับระยะใกล้-ห่าง แบบ Telescopic ได้ มีสวิตช์ Multi Function มาให้บนก้านพวงมาลัยทั้ง 2 ฝั่ง โดยฝั่งขวา ใช้ควบคุมชุดเครื่องเสียง ระบบโทรศัพท์ เชื่อมต่อกับ Bluetooth ส่วนฝั่งซ้าย ควบคุมระบบ ล็อกความเร็วคงที่ Cruise Control ส่วนเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ มีหน้าจอ Digital

ลองชิม"เชฟโรเลต แคปติวา โฉมใหม่" ดีไซน์จีน ผลิตอินโด ขายไทย ลองชิม"เชฟโรเลต แคปติวา โฉมใหม่" ดีไซน์จีน ผลิตอินโด ขายไทย

ห้องโดยสารทั้งด้านหน้าและหลังถือว่าไม่อึดอัด ด้านหลังกว้างขวางพอใช้ มีระยะของเฮดรูมพอสมควรสำหรับคนที่ตัวไม่ใหญ่มาก แต่ถ้าเป็นตัวท็อป 7 ที่นั่งเบาะหลังสุดอาจจะอึดอัดสักหน่อย เพราะไม่มีช่องแอร์และเบาะไม่สามารถปรับระดับได้ สำหรับตัวท็อปจะมีซันรูฟมาให้ด้วยแต่เป็นแบบ manual แต่ข่าวตัวที่จะวางขายที่ไทยจะเป็นแบบ Electronic one touch 

เป้าหมายคือกลุ่มลูกค้าครอบครัวที่ต้องการเอสยูวีราคาย่อมเยา ดังนั้นแคปติวา รุ่นนี้จึงไม่ใช่คู่ต่อสู้โดยตรงของ“ฮอนด้า ซีอาร์-วี” เพราะมิอาจเทียบขุมกำลังเครื่องยนต์ได้ แต่แคปติวา อาจจะตีกินยอดขายได้ด้วยความคุ้มค่า ทั้งรุ่น เบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง และ เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง คาดว่าราคาขายเริ่มตั้งแต่ 9.5 แสน-1.2 ล้านบาท

สำหรับคู่ต่อสู้ของแคปติวา น่าจะหวังฟาดฟันกับค่ายเอ็มจี ทั้ง ZS ที่ขายอยู่ปัจจุบัน และกำลังจะเปิดตัวใหม่รุ่น HS ปลายปีนี้ ทั้งยังกินรวบกลุ่มมินิเอ็มพีวีอย่าง มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ และ ซูซูกิ เออร์ติก้า (ทั้งหมดวางเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร) โดยเชฟโรเลตตั้งเป้าการขายปีนี้ไว้ 2,000 คัน

จากการลองขับและลองนั่งในช่วงสั้นๆ สัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลของช่วงล่าง และเหมาะกับการเป็นเอสยูวีสำหรับครอบครัว สามารถใช้งานในเมือง ลุยนํ้าท่วมหรือนํ้ารอระบายได้ระดับหนึ่ง ส่วนการควบคุมคล่องแคล่วสบายมือ แต่รถสไตล์ครอสโอเวอร์แบบนี้คงไม่เหมาะกับงานลุยจริงจังแบบสมบุกสมบัน

ผู้บริหาร GM บอกตรงๆ ว่า “แคปติวา” ตัวนี้เป็นการพัฒนามาจากรถยนต์ยี่ห้อ Baojun 530 ของบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ในนามกลุ่มบริษัท SGMW ซึ่งฐานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองหลิ่วโจว ช่วยกันดีไซน์พัฒนา และตีตราเป็นแบรนด์เชฟโรเลต ส่วนการทำตลาดในเมืองไทยจะเป็นรถที่ประกอบจากโรงงานประเทศอินโดนีเซีย กำหนดเปิดตัวเดือนกันยายนนี้ 

โดย จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง

ลองชิม"เชฟโรเลต แคปติวา โฉมใหม่" ดีไซน์จีน ผลิตอินโด ขายไทย

 

หน้า28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 39 ฉบับที่ 3,485 วันที่ 7 - 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562