ซีพีโอเถื่อนทะลัก ทุบราคาปาล์ม จี้ทุกหน่วยงานสกัด

ปาล์มนํ้ามันโลกระสํ่า ราคาแนวโน้มตกตํ่า สวนทางกับซีพีโอในไทยพุ่ง มีส่วนต่างกับมาเลเซีย 7.38-7.63 บาทต่อกิโลกรัม ผวานํ้ามันปาล์มเถื่อนทะลัก ส่งสัญญาณ ทหารเรือ-ด่านศุลกากร ป้องน่านนํ้าไทยสกัด ส่วนปรับโครงสร้างราคาปาล์มลุ้น! “ประวิตร” หักดิบเข้า ครม.9 ก.ค.นี้

กระทรวงเกษตรและสหรัฐอเมริกา ประมาณการผลิตความต้องการใช้และการค้าปาล์มนํ้ามันและนํ้ามันปาล์มโลกปี 2561/62 ประจำเดือนมิถุนายน 2562 ประมาณการผลผลิตนํ้ามันปาล์มโลก ปี 2561/2562 ว่ามีปริมาณ 73.58 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 70.61 ล้านตันในปี 2560/2561 คิดเป็น 4.21% เนื่องจากสภาพภูมิอากาศกลับเข้าสู่ภาวะปกติและในช่วงที่ผ่านมาปริมาณนํ้าฝนต่อเนื่อง คาดว่าจะมีสต๊อกนํ้ามันปาล์มคงเหลือ 10.53 ล้านตัน ในปีนี้ราคานํ้ามันปาล์มในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปี 2561 อยู่ระหว่างตันละ 1,950-2,150 ริงกิต (15.50-17.00 บาทต่อกิโลกรัม) สำหรับราคานํ้ามันปาล์มดิบในตลาดมาเลเซีย ณ เดือนมิถุนายน 2562 (3 สัปดาห์) เฉลี่ยตันละ 1,966.94 ริงกิต (14.93 บาทต่อกิโลกรัม)

ขณะที่ราคานํ้ามันปาล์มในประเทศ กลับสวนทางกับราคาตลาดโลก ส่งผลให้เกิดส่วนต่างราคากับประเทศมาเลเซียถึง 7.38-7.63 บาทต่อกิโลกรัม จูงใจให้เกิดการลักลอบนํ้าเข้าเพิ่มมากขึ้น หวังทำกำไร

แหล่งข่าวจากกรมการค้าภายใน(คน.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นํ้ามันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ในประเทศราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 21.75 -22 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับราคาเฉลี่ยของมาเลเซีย ทำให้มีส่วนต่างของราคาห่างกันถึงกิโลกรัมละ 7.38-7.63 บาท ซึ่งเป็นเหตุจูงใจให้เกิดการลักลอบนำเข้านํ้ามันปาล์มดิบจากมาเลเซียเข้ามาจำหน่ายมากขึ้น โดยเฉพาะตามตะเข็บชายแดน ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพราคาผลผลิตปาล์มภายในประเทศ

ซีพีโอเถื่อนทะลัก ทุบราคาปาล์ม จี้ทุกหน่วยงานสกัด

ดังนั้น กรมการค้าภายในจึงมีหนังสือขอความร่วมมือกรมศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดด้านการลักลอบนำเข้าปาล์มนํ้ามัน ผ่านชายแดนทั้งทางบกและทางทะเล เป็นกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็น ให้กองทัพเรือเน้นมาตรการในการตรวจสอบป้องกันทางด้านอันดามัน ในพื้นที่ความรับผิดชอบของทหารเรือภาคที่ 3 หรือหากหน่วยงานใดมีระบบในการตรวจสอบทางอากาศน่านนํ้าไทย ขอให้ดำเนินการอย่างเต็มขีดความสามารถ รวมถึงให้ กอ.รมน.จว.โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ตรวจสอบคลังและปั๊มนํ้ามันอย่างเคร่งครัดตามอำนาจหน้าที่ต่อเรื่องการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดการนำเข้า-ส่งออกนํ้ามันปาล์มในพื้นที่ภาคใต้ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกระทรวงพาณิชย์ กรมศุลกากร กรมการค้าภายใน และหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นๆ ตรวจสอบการลักลอบขนย้ายปาล์มและนํ้ามันปาล์มในปริมาณมาก ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ส่วนเรื่องปรับโครงสร้างราคาปาล์ม ที่คณะกรรมการอนุกรรมการพิจารณาโครงสร้างราคาปาล์มนํ้ามันและนํ้ามันปาล์ม จะจ้างที่ปรึกษามาศึกษานั้น ไม่เห็นด้วย เพราะต้องใช้เวลานานจะไม่ทันผลผลิตรอบใหม่ โดยต้นทุนโรงสกัด ที่สมาคมเคยแจ้ง ราคา 3.36 บาทต่อกิโลกรัม แต่จากเอกสารที่กรมการค้าภายในไปสืบราคาโรงสกัด ต้นทุนอยู่ที่ 1.71 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่เกษตรกรแจ้งว่าโรงสกัดต้นทุนอยู่ที่ 1.50 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้นข้อมูลเฉลี่ย คือ 2.19 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งผลสรุปก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะได้ตัวเลขไหน อย่างไรก็ดีทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีจะนำเรื่องปรับโครงสร้างราคาปาล์มเข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ โดยจะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบคิดราคาส่งมอบหน้าโรงงาน และแบบที่คิดส่งมอบที่ตลาดกรุงเทพมหานคร