‘ลอรีอัล’ จัดเต็ม5กลยุทธ์ สู้ศึกตลาดความงาม 8 หมื่นล้าน

29 มี.ค. 2559 | 11:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ลอรีอัล เปลี่ยนตัวเอ็มดีใหม่ สานต่อเป้าหมายผู้นำตลาดความงาม พร้อมวาง 5 กลยุทธ์ผลักดันเป้าหมายเพิ่มยอดขาย 2 เท่าของตลาดความงามกว่า 8.1 หมื่นล้านที่เติบโต 4-6% ชี้สาวไทยยังได้รับอิทธิพลการแต่งหน้าและดูแลผิวจากญี่ปุ่นและเกาหลี ผลักดันการใช้สินค้าเพิ่มมากขึ้น

นายอูเมช ฟัดเค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม อาทิ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้น เปิดเผยว่า ตนเองจะย้ายไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล ประเทศอินโดนีเซีย โดยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ จะมีนางนาตาลี เกอร์ชไตน์ เคอโรวดี ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่และยังเป็นกรรมการผู้จัดการหญิงคนแรกของบริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งปัจจุบัน นางนาตาลี ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค ของลอรีอัล ประเทศไทย โดยมีประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งสำคัญกับลอรีอัลในหลายประเทศ และมีประสบการณ์การทำงาน 3 ปี ในประเทศไทย

นายอูเมช กล่าวว่า เป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ยังวางเป้าหมายการเติบโตเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ความงาม ซึ่งน่าจะเติบโต 2 เท่าของภาพรวมที่มีมูลค่ากว่า 8.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีขนาดตลาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยคาดว่าปีนี้ภาพรวมตลาดจะเติบโต 4-6% ส่วนลอรีอัลน่าจะเติบโตได้เป็น 2 เท่าเช่นกัน ซึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทก็เติบโตมากกว่าตลาดในอัตรา 2 เท่า โดยเป็นผลมาจากการเป็นผู้นำตลาดสกินแคร์สำหรับผิวหน้า ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในธุรกิจความงาม และ ยังมีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดเมกอัพ ซึ่งปีที่ผ่านมาสามารถขายสินค้าไปได้ 87 ล้านชิ้นครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์

"ลอรีอัล ประเทศไทย สามารถทำยอดขายได้สูงสุดในกลุ่มลอรีอัลในประเทศอาเซียน ซึ่งปีที่ผ่านมาตลาดสกินแคร์ในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท เติบโต 5% โดยตลาดสกินแคร์สำหรับผิวหน้าคิดเป็นสัดส่วน 68% ของตลาด ในขณะที่ตลาดเมกอัพเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงสุด ในอัตรา 6.5% ซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท"

ด้านนางนาตาลี กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์สร้างการเติบโตในปีนี้ บริษัทได้วางแนวทางการทำงานไว้ 5 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.การเสริมทัพด้วยแบรนด์ใหม่ 2. การนำเสนอนวัตกรรมที่โดดเด่น 3. การสื่อสารไปอย่างมีประสิทธิภาพทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ 4. การสร้างการเติบโตทางช่องทางการจัดจำหน่าย และ 5. การให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

โดยปีนี้ได้เปิดตัวเครื่องสำอางแบรนด์นิกซ์ (NYX) ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ขณะที่แนวทางการสื่อสาร ปีนี้จะเน้นการทำตลาดสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งได้เตรียมแคมเปญการตลาด 45 แคมเปญที่จะสื่อสารผ่านช่องทางโทรทัศน์ ส่วนสื่อออนไลน์จะให้ความสำคัญมากขึ้น จากปีที่ผ่านมาได้เพิ่มงบการตลาดมากถึง 130% จากปีก่อนหน้า และการเพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ซึ่งปีนี้จะเพิ่มช่องทางขายสำหรับแบรนด์นิกส์ จากปีที่ผ่านมามีแบรนด์เมย์เบลลีน และคีลส์ที่มีช่องทางผ่านออนไลน์ ซึ่งประสบความสำเร็จมียอดขายเติบโต 555%

"ดีเอชแอลรายงานว่าตลาดอี-คอมเมิร์ซ ในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงของการเติบโตและคาดว่าจะขยายตัวขึ้นเป็น 3 เท่าด้วยเม็ดเงินมูลค่ากว่า 1.38 แสนล้านบาทในช่วงระหว่างปีนี้ไปจนถึงปี 2563 ลอรีอัล ประเทศไทย จะใช้นำกลยุทธ์ด้านอี-คอมเมิร์ซมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการผนึกกำลังกับร้านค้าอี-คอมเมิร์ซชั้นนำต่างๆ ในประเทศไทย รวมไปถึงการสร้างร้านค้าออนไลน์ของตนเอง ซึ่งคนไทยเป็นคนรักสวยรักงาม และยังได้รับอิทธิพลจากการแต่งหน้าเทรนด์เกาหลีและญี่ปุ่น ทำให้การใช้เครื่องสำอางเพิ่มมากขึ้นกว่า 1 ชิ้นด้วย"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,143 วันที่ 25 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2559