"นาที"รับลืมแจ้งทรัพย์สินกว่า95ล้านต่อป.ป.ช.

03 ก.ค. 2562 | 07:02 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 กรกฎาคม) นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดว่า ชี้แจงบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ โดยส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาตัดสินว่า ทางศาลฯได้นัดพิจารณาในวันที่ 9 กรกฏาคมนี้ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ในส่วนของตนจะ ทำหน้าที่ส.ส.ต่อไปจนกว่าศาลฯจะมีคำสั่งพิจารณาเป็นที่สิ้นสุด

 

ต่อข้อซักถามที่ว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหรือไม่จึงต้องให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ สามีมารับตำแหน่งดังกล่าวแทนนั้น นางนาที ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกันเพราะตนก็เพิ่งทราบว่าได้รับคำสั่งศาลฯเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ถามว่าหนักใจหรือไม่นั้น เห็นว่า เป็นเรื่องธรรมดาเพราะตนลืมยื่นข้อมูลต่อป.ป.ช.จนทำให้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลฯเป็นผู้พิจารณา

 

“ดิฉันลืมจริงๆค่ะ เพราะปกติเป็นคนช่วยเหลือคน แต่ก็ไม่รู้สึกกังวลหากศาลตัดสินอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ซึ่งเรื่องนี้นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยรับทราบแล้ว แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเป็นดุลยพินิจของศาลฯที่ผ่านมาเมื่อเกิดเรื่องก็มีแต่คนโทรศัพท์มาให้กำลังใจก็ขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจด้วย”

 

ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนี้ว่า หากศาลฯมีคำพิพากษาว่า นางนาทีความผิดทางพรรคก็ต้องเลื่อนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปขึ้นมาทำหน้าที่แทน แต่ถ้าไม่มีความผิดก็ทำหน้าที่ต่อไป

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 9 เสียงว่า นางนาที สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้งปี 2554 กรณีพ้นจากตําแหน่งเนื่องจากยุบสภาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 โดยนางนาที รัฐกิจประการ ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2557นั้น

 

จากการตรวจสอบ ปรากฏว่า นางนาที ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของตนเอง ในท้องที่จังหวัดพัทลุงจํานวน 2 แปลง มูลค่า 2,000,000 บาท และหนี้สินของนายพิพัฒน์ รัฐกิจประการ (คู่สมรส) จากการกู้ยืมเงินบุคคลอื่น และหนี้ตามสัญญาซื้อขายหุ้น จํานวน 93,039,999 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินและหนี้สินที่ ไม่แสดงจํานวน 95,039,949 บาท จึงมีมติให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง เพื่อวินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

 

และขอให้ลงโทษทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรค สอง (1), มาตรา 81, มาตรา167 ประกอบมาตรา 188 โดยศาลฯนัดไต่สวนในวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 นี้