วัดใจ‘ชุติมา’สั่งแบน ‘กข79’ ผวาปลอมปนข้าวหอมมะลิ
3 ก.ค.วัดใจ “ชุติมา” สั่งกรมการข้าวเบรก ‘กข79’ ห้ามชาวนาปลูก หลังโรงสีอีสานตื่น! ร่อนหนังสือ บีบออกกฎเหล็กคุมเข้มขนย้ายข้าวเปลือกผวาหอมมะลิปลอมปน ฝ่ายสมาคมชาวนาเปิดศึกโต้เดือดสวนออกห้ามซื้อขาย ข้ามเขต เหมือนฆ่าทางอ้อม เปรียบเปรย หากมีโจรเอารถไปขับจี้ปล้นบ่อยครั้ง รัฐสั่งให้ค่ายรถหยุดผลิตเลยหรือไม่
ตื่นกันทั้งบาง! วันพรุ่งนี้ (3 ก.ค.62) นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานที่ประชุม และมีการแถลงข่าว สืบเนื่องจากกรณีที่โรงสีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ร้อนเรียนมาว่ามีความเป็นห่วงกังวลว่าข้าวพันธุ์ กข79 จะมาปลอมปนกับข้าวหอมมะลินั้นจำเป็นที่จะประกาศคุมเข้มขนย้ายข้าวเปลือก
นายเดชา นุตาลัย อุปนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ไม่เห็นด้วยที่กระทรวงพาณิชย์ให้มีการกฎ “ห้ามการซื้อ-ขาย ข้าวข้ามเขต” เพราะเท่ากับเป็นการฆ่าชาวนาทางอ้อมใครเป็นคนคิด แล้วมีวัตถุประสงค์ใด เพราะอย่าลืมว่าบางจังหวัดชาวนาทำนา แต่ไม่มีโรงสีในพื้นที่ ถ้าไม่ให้ชาวนาขายข้าวข้ามเขตจะให้ไปขายที่ใหน ส่วนกรณีอ้างว่า มาตรการที่ออกมาก็เพื่อป้องกันการปลอมปนข้าว โดยเฉพาะ ข้าว กข79 ไม่ต้องการให้ปลอมปนกกับข้าวหอมมะลิ นั้น ฟังไม่ขึ้น!!
“ชาวนาจริงๆ ไม่มีใครทำเช่นนั้นหรอก เพราะมันจะทำลายอาชีพเค้าเอง แต่หากจะมีใครคิดแล้วยืมมือหน่วยงานรัฐเพื่อกำจัดคู่แข่งอันนี้ไม่ทราบ อยากจะบอกว่า ชาวนาปลูกข้าวที่ขายได้ และเป็นที่ต้องการของตลาด ก็ต้องปล่อยให้เป็นทางเลือกของชาวนาและผู้บริโภคที่สำคัญ ข้าว กข.79 มีข้อดี คือ นิ่มคล้ายข้าวหอมมะลิ ส่วนเมล็ดก็ไม่คล้ายเพราะฉะนั้นใครนำไปผสมสามารถตรวจสอบสายพันธุ์ข้าวได้อยู่แล้ว”
นายเดชา กล่าว ตั้งข้อสังเกตุว่า เรื่องนี้ที่เป็นข่าวออกมา เพราะเกิดความขัดแย้งกันเองหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาโรงสีภาคกลาง ไปรับซื้อข้าวหอมมะลิ ที่ภาคอีสานเยอะมาก จึงทำให้โรงสีในพื้นที่รับซื้อข้าวหอมมะลิได้ไม่เต็มที่ และไม่มีข้าวหอมมะลิอยู่ในมือเพื่อขายท้องตลาด จึงต้องการให้กำหนดพื้นที่การรับซื้อข้าวแล้วนำเรื่องการปลอมปนสายพันธุ์ข้าวมาเป็นข้ออ้าง หากเปรียบเทียบกันรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง เอาไปปล้นธนาคารบ่อยมาก ผมถามว่ารัฐบาลจะจัดการค่ายรถนี้ให้หยุดผลิตรถแล้วโจรจะเลิกปล้นหรือไม่จะไม่เอารถคันอื่นไปปล้นใช่หรือไม่และหากวันพุธนี้ผลการประชุมออกมากำหนดการรับซื้อข้าวเฉพาะพื้นที่จริงสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยจะออกมาเคลื่อนไหวแน่นอน
สอดคล้องกับนายธีรสินทร์ ธนชวโรจน์ เลขาธิการสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า หากกระทรวงพาณิชย์มีมาตรการนี้จริง จะนัดประชุมด่วน เพราะกระทบกระเทือนถึงสมาชิกของสมาคมฯโดยตรง โดยเฉพาะในโครงการต่างๆที่สมาคมฯได้ดำเนินทั้งตลาดออนไลน์ ที่กำลังดำเนินงานอยู่ในพื้นที่อีสาน ระบบออฟไลน์ที่สมาชิกทำอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง ในโรงสีเครือข่ายสมาคมฯ โดยรับซื้อผลผลิตทุกจังหวัดที่มีสมาชิก
“แม้กระทั่งการใช้ชีวิตตามวิถีเกษตรที่เราปฏิบัติมาตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นแม่ ที่มีการเอื้อเฟื้อกันมาแต่ดั้งเดิม ก็อาจมีขีดจำกัดในการทำมาหากิน เพราะความไร้เดียงสา อ่อนประสบการณ์ด้านข้าวของผู้มีอำนาจในการออกกฎหมาย ที่มิได้มองผลกระทบในมุมกว้าง แต่เล็งเห็นผลประโยชน์ในมุมแคบเป็นส่วนใหญ่”
นายธีระสิน กล่าวว่า เรื่องการเคลื่อนย้ายข้าวข้ามเขต เพราะข้าวบางชนิดมีมูลค่าสูง อาจจะมีผู้หวังดีพยายามกันไม่ให้ออกนอกพื้นที่หรือกันโรงสีต่างๆ กระจายผลผลิตไปทั่วประเทศ ถ้าเป็นเช่นนั้นสมาคมฯ จะได้สนับสนุนให้สมาชิกทุกภาค ทุกจังหวัดปลูกหอมมะลิทั้งหมดเลย จะได้ไม่ต้องขนย้ายกันไปมา ทั้งนี้หน่วยงานรัฐจะทำยังไง....?
ส่วนเรื่องการปลอมปนนั้นทางพาณิชย์มีระเบียบข้อบังคับอัตราผสมอยู่แล้ว จึงไม่ใช่ข้ออ้างเรื่องการปลอมปน และการปลอมปนก็เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง และยอมรับได้ในราคาตามฐานะ ก็ไม่แปลก แต่แปลกตรงที่ตั้งเงื่อนไขที่ฟังแล้วไม่มีเหตุมีผลที่ฟังขึ้น แต่กลับสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงในระบบห่วงโซ่ข้าว นี่หรือ “แผนผลิตข้าวแบบครบวงจร”
ขณะที่นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ยังไม่ทราบประเด็นว่าที่กระทรววงพาณิชย์เรียกประชุมเรื่องอะไรกันแน่ ฝ่ายเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าเชิญเข้าหารือ ร่วมกับกรมการข้าว ประเด็นหลักๆ ยังไม่ทราบว่าจะหารืออะไรบ้าง แต่ปัญหาเรื่องข้าวปลอมปน มองว่ามีทางออกหลายทางในการแก้ปัญหา แต่การจะใช้มาตรการของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ยังไม่แน่ชัด
“แต่ทราบข่าวจะมีมาตรการนี้ออกมามองว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการค้าสำหรับผู้ที่ไปรับซื้อข้าวในพื้นที่นั้นๆ ทำให้ขาดความคล่องตัว เพราะการทำงานของภาคเอกชนไม่มีวันหยุดราชการ หรือต้องทำเวลาในวันทำการเท่านั้นจะเกิดปัญหาในการขนส่งจึงไม่อยากให้มาตรการนี้ออกมาใช้”
ส่วนในการปลอมปนข้าวหอมมะลินั้นมีทุกยุคสมัย ไม่ใช่เกิดจากพันธุ์ข้าว กข79 เพราะพันธุ์นี้ยังไม่ออกสู่ตลาดเลย เพิ่งจะมีการทดลองปลูกในระยะเวลา 3 เดือน คาดว่าจะเก็บเกี่ยว 4 เดือน คือ 120 วัน แล้วพื้นที่เพาะปลูกอยุ่ในจังหวัดชัยนาท สุพรรณบุรี และภาคใต้ ในโครงการที่ร่วมกับกรมการข้าวก็ประมาณ 1 หมื่นไร่ ซึ่งพันธุ์ข้าว กข79 ที่ปลูกได้ทั้งนาปีและนาปรัง จะไม่ชอบอากาศหนาว ไม่ชอบร้อน จะทำให้ผลผลิตไม่ดี
“ยอมรับว่า กข79 เป็นพันธุ์ที่กรมการข้าวมีวัตถุประสงค์ที่ผลิตขึ้นมาให้ตรงกับความต้องการของตลาด ก็คือพันธ์ข้าวนุ่ม จะเน้นส่งเสริมให้ชาวนาปลูกแทนข้าวหอมพวง เพราะมีอัตลักษณ์ไทยก็คือเมล็ดพันธุ์ยาว และไปปลูกแทนข้าวแข็งทั่วไป เช่น กลุ่มข้าว 5% เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มข้าวนุ่มที่ไม่มีความหอม ยอมรับว่าการผลิตข้าวมีสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกันกับข้าวหอมมะลิ”
ดังนั้นในอนาคตอยากจะฝากนักวิจัยที่จะพัฒนาพันธุ์ข้าวต่อไปว่าอยากจะให้มีความเด่นชัดด้วยตาเปล่า เช่น สีเปลือก ร่องเปลือก ที่ให้ผู้ประกอบการในการรับซื้อข้าวเปลือกให้สังเกตได้ง่าย เพราะวันนี้การซื้อขายข้าวเปลือกเป็นการซื้อขายข้าวสด ในการตรวจสอบดีเอ็นเอ หรือตรวจกายภาพไม่สามารถทำได้รวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น