'กฤษฎา' ขึ้นเวที FAO ยันไทยพร้อมพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน 

30 มิ.ย. 2562 | 08:23 น.

“กฤษฎา” ขึ้นเวทีโลกที่เอฟเอโอยืนยันไทยพร้อมพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน และแก้ไขปัญหาการอพยพย้ายถิ่นฐาน แจงต้นเหตุเพื่อนบ้านขัดแย้งทางการเมือง พ่วงสงครามอินโดจีน โชว์ศักยภาพแก้ไอยูยูสำเร็จ ดันศาสตร์พระราชาขจัดปัญหาความยากจน

'กฤษฎา' ขึ้นเวที FAO ยันไทยพร้อมพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน 

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในฐานะผู้แทนประเทศไทย ว่ารัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้น้อมนำศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานและดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมของประเทศตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเผยแพร่และขยายผลเพื่อสร้างความมั่นคงอาหาร การพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน การพัฒนาชนบท และการขจัดปัญหาความยากจน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการอพยพย้ายถิ่น(Migration)อย่างเต็มที่

'กฤษฎา' ขึ้นเวที FAO ยันไทยพร้อมพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน 

ในที่ประชุมประเทศสมาชิกFAOดังกล่าว ได้ให้ความสำคัญในกล่าวถึงประเด็นปัญหาการอพยพที่เกี่ยวกับภาคการเกษตร ซึ่ง ใน่วนของประเทศไทยนายกฤษฎา บุญราช รมว. เกษตร ได้กล่าวในที่ประชุมว่า “ปัญหาการอพยพย้ายถิ่นฐาน มีสาเหตุมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และสภาพแวดล้อม ในอดีตเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเคยเผชิญปัญหาผู้อพยพจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง และสงครามอินโดจีน (Indo-China War) ในเวลานั้น ประเทศไทยต้องดูแลเลี้ยงดูคนอพยพจำนวนนับแสนคน แต่ประเทศไทยก็ได้รับความช่วยเหลือจากองค์การข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) รวมถึงมิตรประเทศต่างๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือนำผู้ลี้ภัยเหล่านั้นไปตั้งถิ่นฐานในประเทศที่ 3”

'กฤษฎา' ขึ้นเวที FAO ยันไทยพร้อมพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน 

ในปัจจุบัน ปัญหาการอพยพย้ายถิ่นฐานมีสาเหตุจากปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่อพยพเข้ามาหางานทำ เพื่อต้องการทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นทั้งแรงงานภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ โดยรัฐบาลไทยได้ดูแลคนเหล่านั้นตามหลักมนุษยธรรม โดยได้แก้ไขปัญหาผู้อพยพ โดยมีการขึ้นทะเบียนและอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวสามารถประกอบอาชีพในประเทศไทยได้อย่างถูกต้อง เพื่อแก้ไขปัญหาการหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย

  'กฤษฎา' ขึ้นเวที FAO ยันไทยพร้อมพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน 

ตั้งแต่ปี 2015 ไทยมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างที่สำคัญ เพื่อแก้ไขปัญหาการประมงที่ผิดกฎหมาย ไร้การรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) และปัญหาแรงงานในอุตสาหกรรมประมง ทั้งนี้จากนโยบายด้านแรงงาน ประเทศไทยยังมีการผ่อนปรนให้สิทธิในการมีถิ่นที่อยู่ถาวรแก่บุคคลต่างด้าวที่อาศัยในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 30 ปี และประสงค์ที่จะทำงานในประเทศไทย รวมทั้งบุตรหลานที่เกิดในประเทศไทยให้ได้รับสิทธิการถือสัญชาติไทย สิทธิในการศึกษา และการรักษาพยาบาล เช่นเดียวกับประชาชนไทย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนั้น องค์การสหประชาชาติ และ NGOs ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกับรัฐบาลไทย

“เน้นย้ำต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ FAO ว่า รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการประมงที่ผิดกฎหมาย ไร้การรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) ซึ่งไทยขอขอบคุณ FAO สหภาพยุโรป และ ILO ที่ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการในการแก้ไขปัญหา IUU และปัญหาแรงงานทาสในอุตสาหกรรมประมง”

'กฤษฎา' ขึ้นเวที FAO ยันไทยพร้อมพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน 

รมว.เกษตรฯ ได้กล่าวว่าประเทศไทย ได้ดำเนินงานร่วมกับสมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินโลก และ FAO เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งดินและน้ำ ในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อสร้างความมั่นคงอาหารและการพัฒนาเกษตรอย่างยั่งยืน รัฐบาลไทย ขอยืนยันว่าจะขับเคลื่อนวาระทรัพยากรดิน ให้มีการจัดตั้งเป็นองค์กรถาวรภายใต้ธรรมนูญของ FAO

“ประชุมสมัชชาใหญ่ว่า “การพัฒนาชนบท และเกษตรกรรม จะนำมาซึ่งการสร้างงาน สร้างโอกาส สร้างอาชีพ ให้แก่เกษตรกร ให้คนรุ่นหนุ่มสาว และผู้หญิงในชนบท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาชนบทและการแก้ไขปัญหาการอพยพย้ายถิ่นฐานของไทย”