ดาวน์ 0%ยอดโตโยต้าพุ่ง แบรนด์หรู-อเมริกันร่วง

ค่ายอเมริกัน-แบรนด์รถหรู ยอดขายซึม ฟอร์ด เชฟโรเลต เมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู เตรียมจัดหนักโปรโมชัน กิจกรรมครึ่งปีหลัง ส่วนโตโยต้า ผ่าน 5 เดือนตัวเลขพุ่งทั้งเก๋งและปิกอัพ อานิสงส์ดาวน์ 0%

ตลาดรถยนต์ผ่าน 5 เดือนแรกของปี (ม.ค.-พ.ค. 62) ทำตัวเลขได้ 437,722 คัน เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ที่ปีนี้ระดมทุกสรรพกำลัง พร้อมโปรดักต์และแคมเปญเดือด ขายไป 142,577 คัน โต 24.9%

โดยเฉพาะปิกอัพ “ไฮลักซ์ รีโว่” ที่ลงมาเล่นกลุ่มกลาง-ล่าง รุ่นตัวถังเตี้ย ปรับหน้าตาและไลน์อัพใหม่ ช่วยผลักดันยอดปิกอัพโตโยต้าได้ถึง 69,963 คัน โต 37.1% ทิ้งอันดับ 2 อีซูซุกว่า 4,000 คัน ขณะเดียวกันยังเป็นอัตราเติบโตที่สูงกว่าตลาด(ปิกอัพ1ตันไม่รวมพีพีวี) ที่ 10.6%

ขณะที่กลุ่มรถยนต์นั่งขายไป 50,618 คัน ขยายตัว 17.2% เมื่อเทียบกับช่วง 5 เดือนของปี 2561 ส่วนหนึ่งเพราะโตโยต้าอัดยาแรงให้ “ยาริส เอทีฟ” (ซีดาน) และ “ยาริส แฮตช์แบ็ก” ด้วยแคมเปญไม่ต้องมีเงินดาวน์ก็ออกรถได้ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ชื่นชมนัก เพราะหนี้ครัวเรือนของคนไทยยังสูงต่อเนื่อง พร้อมตัวเลขสินเชื่อคงค้างรถยนต์ทะลุ 1 ล้านล้านบาทไปเรียบร้อย จึงเตรียมออกมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อให้เข้มงวดขึ้น

ทว่า “โตโยต้า” ที่มีไฟแนนซ์เป็นของตนเองคือ “โตโยต้า ลีสซิ่ง” ยังสามารถทำแคมเปญแรงๆ หรือยินดีรับลูกค้าที่มีความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง ด้วยต้องการผลักดันยอดขายและรักษาระดับการผลิตให้มีเสถียรภาพ เพราะสถานการณ์ส่งออกปีนี้ยังซบเซา จากปัจจัยลบรอบด้าน เช่นสงครามการค้า เศรษฐกิจโลก และค่าเงินบาทแข็ง

นายมิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เคยประเมินสถานการณ์ตอนต้นปีว่า การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าปีนี้ตั้งเป้าไว้ 270,000 คัน ลดลง 8% เป็นผลจากเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง รวมถึงตลาดในกลุ่มประเทศอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ยังไม่สดใสนัก ขณะที่กำลังการผลิตรวมจากโรงงาน 3 แห่ง คือ สำโรง เกตเวย์ บ้านโพธิ์ (เพื่อขายในประเทศและการส่งออก) น่าจะอยู่ที่ 577,000 คัน ลดลง 2%

สำหรับยอดขาย 10 อันดับในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ โตโยต้า 142,577 คัน เพิ่มขึ้น 24.9%, อีซูซุ 75,962 คัน เพิ่มขึ้น 3.5%, ฮอนด้า 52,557 คัน เพิ่มขึ้น 6.6%, มิตซูบิชิ 37,968 คัน เพิ่มขึ้น 11.9%, นิสสัน 29,116 คัน เพิ่มขึ้น 7.5% ,มาสด้า 26,856 คัน ลดลง 0.1% ,ฟอร์ด 23,469 คัน ลดลง 15.2% ,เอ็มจี 10,687 คัน เพิ่มขึ้น 7.5%,ซูซูกิ 10,037 คัน ลดลง 8.6% และ เชฟโรเลต 7,203 คัน ลดลง 4.5%

“ผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมไปถึงภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนจากเอกชน และเมื่อรวมกับกลยุทธ์จากค่ายรถที่เปิดตัวรถรุ่นใหม่ และมอบข้อเสนอพิเศษจากค่ายต่างๆ ในหลากหลายรูปแบบที่เอื้อต่อการตัดสินใจของลูกค้า ทั้งหมดนี้ทำให้ยอดขายรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมาเติบโต” นางปวีณา นันทิกุลวาณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าว

อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าค่ายรถยนต์ส่วนมากมีตัวเลขเป็นบวก แต่แบรนด์อเมริกันอย่าง “ฟอร์ด” และ “เชฟโรเลต” ตัวเลขติดลบ 15.2% และ 4.5% ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเพราะทั้ง 2 ค่ายทำยอดขายในปีที่แล้วไว้สูง และปีนี้ประสบกับการแข่งขันรุนแรงจากแบรนด์ญี่ปุ่น ที่มีเป้าหมายทวงคืนส่วนแบ่งการตลาด จึงถือเป็นงานยากของทั้งคู่ ประกอบกับปีนี้ยังไม่มีโปรดักต์รุ่นใหม่ออกมาเพิ่มสีสันหรือกระตุ้นยอดขาย

ด้านเซ็กเมนต์รถหรูที่ยอดขายถูกขับเคลื่อนด้วย 2 แบรนด์หลักคือ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” กับ “บีเอ็มดับเบิลยู” ทว่าผ่านไป 5 เดือนของปีนี้ ตัวเลขค่อนข้างทรงตัว โดยค่ายแรกขายไป 5,886 คัน ลดลง 0.2% และค่ายหลัง 4,506 คัน ลดลง 3.2% ส่วนหนึ่งเพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่โปรดักต์ใหม่ และแผนการลงทุนในแพ็กเกจใหญ่ ปลั๊ก-อินไฮบริด รวมถึงบางโมเดลก็เลื่อนกำหนดเปิดตัวออกไป

ดังนั้น ช่วงครึ่งปีหลังจะได้เห็นการเปิดตัวรถใหม่ พร้อมโปรโมชันส่งเสริมการขาย และกิจกรรมเด็ดๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้สิ้นปีอย่างแน่นอน 

หน้า 15 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,482 วันที่ 27 - 29 มิถุนายน พ.ศ. 2562