นายกฯหารือทวิภาคี 3 ผู้นำอาเซียน หนุนการค้า-ท่องเที่ยว
นายกฯหารือทวิภาคี 3 ผู้นำประเทศอาเซียน “ไทย-อินโดนีเซีย”หวังแก้กฎหมายลดอุปสรรค หนุนนักลงทุน “ไทย-เวียดนาม”ชูเส้นทาง R12 หนุนการค้า-การท่องเที่ยว ยืนยันไทยพร้อมช่วยเมียนมาปมรัฐยะไข่
วันนี้ (22 มิถุนายน) ก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 จะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ โรงแรม ดิ แอทธินี กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับผู้นำอาเซียน จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา โดยบรรยากาศในการหารือทวิภาคีระหว่างผู้นำเป็นไปด้วยมิตรภาพ และความใกล้ชิดระหว่างกัน
ทั้งนี้ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสาระสำคัญของการหารือระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีไทย กับ นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซียว่า ในปี 2563 ความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศจะครบรอบ 70 ปีจึงหวังที่จะใช้โอกาสนี้กระชับความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากขึ้นในทุกมิติ โดยไทยพร้อมส่งเสริมความร่วมมือในทุกด้าน โดยพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เสนอให้ร่วมกันแก้ไขปัญหากฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคด้านการลงทุนอย่างจริงจังเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนของทั้งสองประเทศ และต้องการให้อาเซียนเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งความมั่นคงทางไซเบอร์ ซึ่งไทยชื่นชมบทบาทในการผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหา IUU ของอินโดนีเซีย โดยนายกฯให้คำมั่นว่า ไทยพร้อมร่วมมือในการแก้ไขปัญหาประมงอย่างรอบด้านกับอินโดนีเซีย
พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และ นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระบุไทยพร้อมร่วมมือกับเวียดนามในการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี รวมถึงการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในส่วนการหารือกันระหว่างภูมิภาค ไทยพร้อมเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการครั้งที่ 4 ซึ่งเวียดนามมีกำหนดเป็นเจ้าภาพเพื่อผลักดันประเด็นความร่วมมือระหว่างกันให้ก้าวหน้า
ทั้งนี้ นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีชื่นชมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ของไทย ซึ่งเวียดนามหวังที่จะเรียนรู้ประสบการณ์การเป็นเจ้าภาพของไทย โดยเวียดนามจะเป็นเจ้าภาพในปี 2563 และไทยยินดีแบ่งปันประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา IUU ให้กับเวียดนาม โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า เจ้าหน้าที่ไทยปฏิบัติงานตามหลักมนุษยธรรมและมีมาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการปลดใบเหลืองจากสหภาพยุโรปซึ่งส่งผลให้มาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไทยสูงขึ้น
ทั้งนี้ ไทยหวังที่จะผลักดันให้มีการพัฒนาความร่วมมือระหว่างไทย – เวียดนาม – ลาว ในการพัฒนาเส้นทางหมายเลข R12 ในลาว รวมทั้งผลักดันให้ทั้งภาครัฐและเอกชนของทั้งสองฝ่ายเสนอข้อริเริ่มใหม่ ๆ เพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวตลอดเส้นทางดังกล่าว
ขณะที่ช่วงการหารือกับ นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมานั้น ไทยยืนยันเจตนารมณ์ในการขยายความร่วมมือในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์โดยธรรมชาติเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกันทั้งในกรอบทวิภาคี อาเซียน และเวทีระหว่างประเทศ ไทยขอบคุณเมียนมาที่เชื่อมั่นและให้ความร่วมมือกับไทยในฐานะประธานอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดเกี่ยวกับสถานการณ์รัฐยะไข่ ประเทศไทยและอาเซียนพร้อมที่จะให้ความสนับสนุนแก่เมียนมาโดยยืนยันที่จะดำเนินการด้านต่างๆบนพื้นฐานความปลอดภัยของภูมิภาค ทั้งยังระบุด้วยว่า ไทยพร้อมสนับสนุนการพัฒนาในสาขาที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนเมียนมาในด้านต่างๆ เช่น การศึกษา สาธารณสุข การพัฒนาชุมชน การเกษตรและประมง เพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมของเมียนมา