สิงห์ เอสเตท ตุนแบ็คล็อค 1.2 หมื่นล้าน

22 มิ.ย. 2562 | 08:55 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

“สิงห์ เอสเตท” มั่นใจเดินหน้าแผนพัฒนาโครงการครึ่งปีหลัง 2562 ท่ามกลางความท้าทายของตลาดอสังหาฯ ตุนยอดรอโอน 1.2 หมื่นล้าน
 
นายนริศ  เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 ว่า สิงห์ เอสเตท มีความมั่นใจที่จะเดินหน้าลงทุนและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามที่วางไว้ด้วยงบลงทุน 8,000-10,000 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อสร้างรายได้ให้ถึง 20,000 ล้านบาท ภายในปี 2563

ปัจจุบัน สิงห์ เอสเตท มีการทำธุรกิจด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ธุรกิจอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก, ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่พักอาศัย  โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะนำบริษัทก้าวสู่การเป็น "โกลบอล โฮลดิ้ง คัมปานี” (Global Holding Company) ผ่านกลยุทธ์การขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ การสร้างแบรนด์ในระดับพรีเมียม การปรับองค์กรให้มีความคล่องตัว ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อส่งมอบคุณค่าที่ดีให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม

สิงห์ เอสเตท ตุนแบ็คล็อค 1.2 หมื่นล้าน

ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ คาดว่าจะมียอดขายและยอดโอนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยจะมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ ซอยรางน้ำ, อาคารสำนักงาน Oasis บนถนนวิภาวดี-รังสิต และโรงแรม 2 แห่ง ในโครงการ CROSSROADS สาธารณรัฐมัลดีฟส์ จากแผนดังกล่าวนี้จะทำให้ สิงห์ เอสเตท ก้าวขึ้นเป็น โกลบอล โฮลดิ้ง คัมปานี อย่างสมบูรณ์แบบในปีนี้

ในส่วนโครงการเดิมที่มีอยู่แล้ว เช่น THE ESSE ASOKE ซึ่งมีการทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ส่วนโครงการ THE ESSE @SINGHA COMPLEX จะมีการโอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบห้องให้ลูกค้าในไตรมาส 3 ปีนี้ นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการอื่นๆ ที่ทยอยรับรู้รายได้อีกอย่างต่อเนื่อง   ขณะนี้ สิงห์ เอสเตท มียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในปี 2562 และที่เหลือในปี 2563​

สิงห์ เอสเตท ตุนแบ็คล็อค 1.2 หมื่นล้าน

“ถึงแม้ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีการปรับตัวจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ อาทิ เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และนโยบายกำกับดูแลสินเชื่อของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อบ้าน แต่ สิงห์ เอสเตท ยังคงเดินหน้าลงทุนและพัฒนาโครงการตามแผนที่วางไว้ โดยมีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ พร้อมรับความท้าทายของตลาดอสังหา นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย” 

นายนริศ กล่าวต่อว่า โดยปี 2562  ยังคงเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวรายได้จากการลงทุนในกิจการกลุ่มเอาท์ริกเกอร์ ที่มีโรงแรม 6 แห่ง และอาคารสำนักงานสิงห์ คอมเพล็กซ์ (The Office at SINGHA COMPLEX) ที่แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย และเริ่มรับรู้รายได้จาก โครงการ CROSSROADS สาธารณรัฐมัลดีฟส์

นอกจากนี้ สิงห์ เอสเตท  ยังมีแผนนำธุรกิจโรงแรมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงปลายปีนี้ โดยใช้ชื่อ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)  ซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้ลงทุนโรงแรมและบริหารรีสอร์ทระดับพรีเมียม ในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมุ่งสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ ผ่านการบริการที่เป็นเลิศ การให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ตลอดจนธรรมชาติที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับ สิงห์ เอสเตท

สิงห์ เอสเตท ตุนแบ็คล็อค 1.2 หมื่นล้าน

ทั้งเพิ่มความพร้อมในการลงทุนขยายธุรกิจในแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำทั่วโลก ให้กับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เพื่อตอบสนองต่อโอกาสจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว   ​เมื่อต้นปี 2562 บริษัทฯได้จัดตั้งกองทรัสต์  SPRIME สำหรับธุรกิจอาคารสำนักงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม และยังเคยประสบความสำเร็จในการนำธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ภายใต้ชื่อ บริษัท  เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปี 2560   

สำหรับไตรมาส 1 ของปี 2562 สิงห์ เอสเตท มีกำไรสุทธิ 293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และรายได้รวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท สูงขึ้นมากกว่า 160% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้