ส่งออกไทยยังไม่โงหัว พฤษภาคมติดลบอีก 5.8%

21 มิ.ย. 2562 | 04:28 น.

บาทแข็งค่า-พิษสงครามการค้ากระทบส่งออกไทยหดตัวต่อเนื่อง พฤษภาคมล่าสุดยังติดลบ 5.8 % ขณะภาพรวม 5 เดือนยังตัวแดง -2.7% กรมส่งเสริมการค้าฯ หวังรัฐบาลใหม่ช่วยดูแลค่าบาท ลุ้นมิ.ย.ส่งออกโงหัว สั่งปูพรมสินค้าไทยทุกตลาดช่วยดันยอด

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนพฤษภาคม 2562 ว่า มีการส่งออกมูลค่า 2.10 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวลดลง 5.8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดีวกันของปีก่อน ถือเป็นการขยายตัวติดลบอีกครั้ง หลังจากเดือนเมษายน 2562 ก็เพิ่งติดลบ 2.5 % ส่งผลให้การส่งออกของไทยช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวลดลง 2.7 % โดยมีมูลค่าการส่งออกรวม  1.01 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าเดือนพฤษภาคม 2562 มีมูลค่า 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 0.6 %   ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้การนำเข้ามีมูลค่ารวม 1  แสนล้านดอลาร์สหรัฐฯ ลดลง 1 %   ขณะที่ดุลการค้าของไทยเดือนพฤษภาคม 2562 ไทยเกินดุลการค้า 181 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ภาพรวมยังเกินเดินการค้า 731 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ส่งออกไทยยังไม่โงหัว พฤษภาคมติดลบอีก 5.8%

“สาเหตุที่การส่งออกลดลงต่อเนื่องเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง และกระทบกำลังซื้อทั่วโลกอย่างชัดเจน และยังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ที่ทำให้การส่งออกสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ที่ 5.8 % (YOY) รวมทั้งเงินบาทแข็งค่า คู่ค้าจึงชะลอคำสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากไทย ส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรติดลบ 1.4 %   ทั้งนี้ สนค.ได้วิเคราะห์แยกออกมาเฉพาะในประเด็นสงครามการค้า พบว่ามีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในเดือนพฤษภาคม ทำให้ส่งออกหดตัวลง 0.64 % หรือมีมูลค่าลดลง 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นการลดลงในฝั่งที่ไทยส่งออกไปจีน เช่น แผงวงจรไฟฟ้า และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น”

อย่างไรก็ตาม แม้การส่งออกในภาพรวมจะติดลบ แต่ก็ถือว่าไทยได้รับผลกระทบน้อยกว่าหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ ติดลบถึง 17 %  เนื่องจากไทยสามารถกระจายตลาดได้ดี และยังมีสินค้าอีกหลายกลุ่มที่ส่งออกได้เพิ่ม เช่น อาหาร ผลไม้ เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง นาฬิกา อัญมณีและเครื่องประดับ  เป็นต้น สิ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องเร่งดำเนินการคือควรประกาศเริ่มเจรจาความตกลงการค้าเสรี(เอฟทีเอ)ในหลายกรอบให้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการค้าโลก

ขณะที่ไทยยังมีปัจจัยบวกที่สนับสนุนต่อการส่งออก เช่น ภาพลักษณ์ของสินค้าไทยที่ดีในสายตาของต่างชาติ รวมถึงมาตรการส่งเสริมการค้าเชิงรุกเจาะตลาดรายพื้นที่ โอกาสในการทดแทนสินค้าท่ามกลางข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่วนปัจจัยเสี่ยงภายนอก เช่น ความยืดเยื้อของข้อพิพาททางการค้าที่กลับมากดดันบรรยากาศการค้าโลกอีกครั้ง ราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวน นโยบายการค้าและการมีผลใช้บังคับของ FTA ในประเทศต่างๆ กระทบต่อความสามารถในการส่งออกของไทย

ส่งออกไทยยังไม่โงหัว พฤษภาคมติดลบอีก 5.8%

 

สำหรับตลาดส่งออกสำคัญส่วนใหญ่ยังหดตัวตามแนวโน้มการค้าโลกที่ชะลอตัว และผลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ยังไม่ปรากฏผลชัดจนกว่าจะถึงการประชุม จี 20 ที่ผู้นำสหรัฐฯและจีนจะได้พบกันในปลายเดือนนี้ ทำให้บรรยากาศทางการค้าที่ไม่แน่นอนและมีแนวโน้มกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าอ่อนแอลงและกระทบต่อการส่งออกไทย

อย่างไรก็ดี การส่งออกไทยขยายตัวได้ดีในบางประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ บรูไน และอินเดีย อันเป็นผลจากรายสินค้าสำคัญในแต่ละตลาด ทั้งนี้การส่งออกไปยังตลาดหลักหดตัว1.2 % โดยการส่งออกไปญี่ปุ่นหดตัว 4.4%  และการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปหดตัว 8.6 % ขณะที่การส่งออกไปยังสหรัฐฯ ขยายตัวที่7.8%  ส่วนตลาดศักยภาพสูงหดตัว7%  เป็นผลมาจากการส่งออกไปอาเซียน(5) หดตัว 14.3% CLMV หดตัว 4.7 % และจีนหดตัว 7.2% ขณะที่การส่งออกไปอินเดียขยายตัว 4.4% และเกาหลีใต้ขยายตัว 4.7%

ส่วนตลาดศักยภาพระดับรองหดตัวที่ 7.2%  เนื่องจากการส่งออกไปทวีปออสเตรเลียหดตัว 17%  ตะวันออกกลางหดตัว 6.1%  และลาตินอเมริกา หดตัว1.8 % ส่วนการส่งออกไปกลุ่มประเทศ CIS กลับเริ่มมาขยายตัวที่ 6.6% และแคนาดา ขยายตัวที่11%

ด้านนางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์  อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยถึงมาตรการผลักดันการส่งออกช่วงครึ่งหลังของปีปี 2562 จะเน้นกระจายความเสี่ยง ปูพรมให้สินค้าไทยเข้าไปในทุก ๆ ตลาด ไม่เน้นบุกตลาดใดตลาดหนึ่ง ส่วนปัจจัยค่าเงินมองว่าเป็นผลกระทบระยะสั้น เมื่อมีรัฐบาลใหม่ก็เชื่อว่าจะเข้ามาดูแลในส่วนนี้ โดยค่าเงินมีผลกระทบต่อการส่งออกในเดือนพฤษภาคมนี้ค่อนข้างมากเพราะเป็นการแข็งค่ามากที่สุด(ในรอบ 6 ปี) หลังจากนี้เชื่อว่าจะเริ่มอ่อนค่าลงทำให้แนวโน้มการส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้นในเดือนมิถุนายนและจะค่อย ๆ ดีขึ้นจนถึงปลายปี

ส่งออกไทยยังไม่โงหัว พฤษภาคมติดลบอีก 5.8%

                         บรรจงจิตต์  อังศุสิงห์

 ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์มีแผนผลักดันการส่งออกปี 2562 โดยใช้นโยบายการค้าควบคู่กับการลงทุนและการบริการ เช่น กลยุทธ์รายพื้นที่ขยายโอกาสการส่งออกในกลุ่มตลาดที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ อินเดีย และ CLMV  และเปิดตลาดใหม่ที่เริ่มเห็นสัญญาณการขยายตัวต่อเนื่อง เช่น รัสเซีย และแคนาดา นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับสินค้าที่ขยายตัวสูง และมีศักยภาพในการส่งออกทดแทน อย่าง สินค้าเกษตร ประมงและอาหาร (สดและแปรรูป) ไก่ รวมถึงการผลักดันสินค้าดาวรุ่งใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ ด้วยภาพลักษณ์ของสินค้าไทยที่มีคุณภาพดี มาตรฐานระดับสากล ช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค เพื่อชดเชยการชะลอตัวของสินค้าหลักกลุ่มเดิม อาทิ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ นาฬิกาและส่วนประกอบ เครื่องดื่ม เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้น ในช่วงที่อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวน ผู้ส่งออกควรเร่งทำประกันความเสี่ยง และจูงใจให้ผู้นำเข้าทำสัญญาระยะยาวเพื่อเป็นหลักประกันการซื้อขายและลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนของข้อพิพาททางการค้า