353 รพ.เอกชนหนาว พาณิชย์ขู่คุมกำไร -ตั้งเพดานขายสูงสุด

18 มิ.ย. 2562 | 09:12 น.

พาณิชย์เรียกรพ.เอกชน 353 แห่ง แจงวิธีปฎิบัติ คุมราคายา-ค่าบริการ เหมาะสม ขู่รพ.ใดเมิน เพิ่มมาตรการคุมกำไร-ตั้งเพดานขายสูงสุด ฝ่าฝืนเจอคุก รพ.ธงฟ้าปรับเป็นจัดเกรดเหมือนโรงแรม สัปดาห์หน้าเล็งหารือคปภ. ปรับโครงสร้างเบี้ยประกัน

 นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังประชุมชี้แจงและทำความเข้าใจหลังออกประกาศตามมติคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) เห็นชอบให้นำยารักษาโรค เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล เข้าอยู่ในบัญชีควบคุม โดยผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ซึ่งมีโรงพยาบาลเอกชนกว่า 300 แห่งจากที่ได้ทำหนังสือเชิญ 353 แห่ง เข้าฟังที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า เป็นการชี้แจงครั้งแรกหลังออกประกาศฯ ให้โรงพยาบาลเอกชนได้รับรู้ว่าต้องทำอะไร สร้างความเข้าใจและเป็นธรรมระหว่างกัน ซึ่งเน้นย้ำในประเด็นทุกโรงพยาบาลต้องแจ้งรายละเอียด ราคาซื้อและจำหน่ายยาในกลุ่มบัญชีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตและรายการยาที่มีการจำหน่ายสูงสุด รวม 3,992 รายการมายังกรมฯภายใน 45 วันนับจากออกประกาศ หรือไม่เกินวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ ส่วนราคาเวชภัณฑ์ 868 รายการ และค่าบริการอีก 5,286 รายการ ให้แจ้งภายใน 22 กรกฎาคม โดยกรมฯจะนำมาประมวลกับข้อมูลรอบด้านกับบัญชียาของกรมบัญชีกลาง เป็นต้น และตรวจสอบว่าราคายาที่แต่ละโรงพยาบาลคิดกับคนป่วยนั้นเหมาะสมและไม่ค้ากำไรเกินควร จากนั้นจะส่งราคาจำหน่ายถึงผู้ป่วยที่เหมาะสมในยาแต่ละชนิดว่าไม่ควรจะเกินเท่าไหร่ จากนั้นจะนำข้อมูลขึ้นเว็บไซต์กรมฯและให้ทุกโรงพยาบาลทำคิวอาร์โค้ดให้ผู้ป่วยได้รับทราบว่าการเข้ารักษาในโรงพยาบาลต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องยา ค่าบริการ เท่าไหร่ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน โดยจะสามารถเช็คได้ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม

 ทั้งนี้กรมได้ย้ำให้ทุกโรงพยาบาลออกใบสั่งยาที่ระบุว่าเป็นโรคอะไร รายละเอียดของยาและราคายาที่ผู้ป่วยที่เข้ารักษาต้องจ่ายเป็นเท่าไหร่ เพื่อให้ผู้ป่วยมาทางเลือกหากต้องการซื้อยานอกโรงพยาบาล  และหากมีการเปลี่ยนแปลงราคายา ราคาเวชภัณฑ์ หรือค่าบริการสำหรับรายการที่แจ้งราคาไว้กรมฯล่วงหน้าก่อนเปลี่ยนแปลงราคา 15 วัน หากไม่มีการแจ้งถือว่าผิดกฎหมายขายเกินราคามีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 “เชื่อว่าหลังวันที่ 12 กรกฎาคม การเก็บค่ายาค่ารักษาเกินพอดีจะไม่มีแล้ว ส่วนเรื่องร้องเรียนยังมีประปรายอาจเพราะต้องรอดูหลังมีผลใช้จริง ซึ่งหากมีผู้ป่วยร้องเรียนจากนี้ก็จะนำเข้าคณะกรรมการดูแลเรื่องนี้โดยตรง พิจารณาเป็นกรณีๆ หากพบพฤติกรรมผิดจริงก็จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย วันนี้ได้กำชับว่าโรงพยาบาลไม่ควรตรวจผู้ป่วยเกินจริงจนค่าใช้จ่ายบวม อย่างกรณีแค่ปวดท้องแต่เก็บหลายหมื่นบาท  “

ส่วนที่อาจมีบางโรงพยาบาลยังไม่ปรับราคาใกล้เคียงกับราคาที่กรมฯพิจารณา ก็จะเชิญมาสอบถามและขอความร่วมมือ แต่หากยังฝ่าฝืนก็จะเพิ่มมาตรการกำหนดเพดานกำไรขั้นสูงและราคาจำหน่ายสูงสุด เพื่อให้โรงพยาบาลเก็บราคาจนเกินจริง ซึ่งจะเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะใช้อยากยังคงเก็บค่ายาค่ารักษาแพงเป็นร้อยเป็นพันเปอร์เซ็นต์ที่จะมีโทษตามกำหนดทั้งจำคุกและปรับ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทุกโรงพยาบาลจะให้ความร่วมมือกับแนวทางดูแลปัญหาลดความเดือดร้อนจากเก็บค่ายาค่ารักษาแพงเกินจริง

สำหรับแนวคิดทำโครงการโรงพยาบาลธงฟ้านั้น ยังไม่ได้ข้อสรุปว่ารูปแบบจะเป็นอย่างไร ต้องรับฟังทุกฝ่ายก่อน เบื้องต้นอาจใช้การจัดเกรดเหมือนโรงแรม แล้วติดดาวแทน อย่างโรงพยาบาล 5 ดาว โรงพยาบาล 4 ดาว เป็นต้น

อย่างไรก็ตามภายในสัปดาห์นี้ กรมฯ จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ ) เพื่อให้ คปภ. หารือกับสมาคมประกันชีวิต ในการปรับปรุงโครงสร้างเบี้ยประกันชีวิตและประกันสุขภาพให้สอดคล้องกับโครงสร้างราคายา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ ซึ่งมีแนวโน้มที่เบี้ยประกันจะลดลง รวมทั้งการกำหนดรูปแบบการเคลมประกันในการเรียกค่าสินไหมทดแทนจะต้องครอบคลุมทั้งราคายา เวชภัณฑ์และบริการทางแพทย์ด้วย