ไร่วิมุตติสุขภูเรือ โหมตลาดในประเทศ ดันรายได้ 1.5 ล้าน
แบรนด์ไร่วิมุตติสุขภูเรือเผยกลยุทธ์มุ่งทำตลาดในประเทศ ลุยออกงานแสดงสินค้า พร้อมขยายเพิ่มตัวแทนจำหน่าย และต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่สครัปขัดผิวจากถ่านกะลาแมคคาเดเมีย เชื่อรายได้ปีนี้แตะ 1.5 ล้านบาท
นางสาวโสภิตา วิมุตติ-สุขดี กรรมการผู้จัดการ หจก.ไร่วิมุตติสุขภูเรือ ผู้ผลิตและจำหน่ายแมคคาเดเมียแปรรูปแบรนด์ “ไร่วิมุตติสุขภูเรือ” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลยุทธ์การทำตลาดของแบรนด์ในระยะต่อไปจะยังเน้นการทำตลาดในประเทศเป็นหลัก โดยจะดำเนินการเข้าหาลูกค้าโดยตรงผ่านงานแสดงสินค้าที่มองแล้วเห็นว่ามีศักยภาพ และมีตลาดที่เหมาะสมกับแบรนด์ รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งปีนี้แบรนด์จะเพิ่มอีก 3 รายเพื่อกระจายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ให้กับผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ แบรนด์ยังเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดเพิ่มเติมในรูปแบบของสครัปขัดผิวจากถ่านกะลาแมคคาเดเมีย เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่แบรนด์มีช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านขายของฝากในจังหวัดเลย และที่ไร่วิมุตติสุขภูเรือ ซึ่งเปิดเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้สำหรับผู้ที่สนใจการปลูกแมคคาเดเมีย และการมาศึกษาดูงานบนพื้นที่ 50 ไร่
อย่างไรก็ตาม แบรนด์ยังมีการจำหน่ายแบบออนไลน์ให้กับลูกค้าทั่วประเทศผ่านทางไลน์ เพจเฟซบุ๊กอีกด้วย เนื่องจากเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มาก จากพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมยุคดิจิทัล และมีต้นทุนที่ไม่สูงมาก โดยมีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายประกอบด้วย นํ้ามันแมคคาเดเมีย, คุ๊กกี้แมคคาเดเมีย,แมคคาเดเมียเคลือบช็อกโกแลต และสบู่ถ่านจากกะลาแมคคาเดเมีย
“ความต้องการจากตลาดต่างประเทศมีติดต่อเข้ามาต่อเนื่องจากทั้งที่ประเทศจีน เวียดนาม และเบลเยียม แต่แบรนด์เลือกที่จะทำตลาดในประเทศก่อน เนื่องจากความต้องการของตลาดยังมีอีกมาก อีกทั้งผลผลิตแมคคาเดเมียของปีที่ผ่านมาเองก็มีปริมาณที่ไม่มาก เพราะผลกระทบจากอากาศร้อน ทำให้ไม่เพียงพอต่อการผลิตเพื่อส่งออก”
นางสาวโสภิตา กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าวเชื่อว่าจะสามารถทำให้แบรนด์มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1.3-1.5 ล้านบาทในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งแบรนด์มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านบาท โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบรนด์ ไร่วิมุตติสุขภูเรือ อยู่ที่การเน้นคุณภาพจากผลผลิตแมคคาเดเมียที่จะนำมาแปรรูป พร้อมทั้งการวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภค และมีมาตรฐานการรับรองต่างๆจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นต้น
“ผลผลิตแมคคาเดเมียของแบรนด์จะต้องคัดสรรมาเป็นอย่างดีก่อนที่จะถูกนำมาแปรรูป จากไร่ของเราเอง และผลผลิตจากไร่อื่นที่แบรนด์ตกลงทำสัญญาไว้ โดยเป็นไร่ที่แบรนด์เลือกแล้วว่ามีผลผลิตที่ได้ตามคุณภาพที่ต้องการ ซึ่งแบรนด์จะมีการจดบันทึกไว้หมด เพื่อเป็นข้อมูล โดยจากความเข้มงวดดังกล่าวอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ได้ผลผลิตในปริมาณที่ไม่มาก” 
นางสาวโสภิตา กล่าวต่อไปอีกว่า แบรนด์กำลังดำเนินการขอสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ โดยเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะขยายตลาดออกต่างประเทศในระยะต่อไป ซึ่งเชื่อว่าเมื่อมีทุนพร้อม และผลผลิตเพียงพอก็จะสามารถรับออร์เดอร์ที่ติดต่อเข้ามาจากต่างประเทศได้
หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3480 วันที่ 20-22 มิถุนายน 2562
