'สิงห์ เอสเตท' ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ มอบของขวัญจากทะเล

18 มิ.ย. 2562 | 03:40 น.

ย้อนเวลากลับไปเมื่อต้นปี 2559 ที่ “พีพี โมเดล” ของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เสนอกรมอุทยานแห่งชาติให้ปิดเกาะยูง หมู่เกาะพีพี เนื่องจากปัญหาปะการังฟอกขาว และสภาพความเสียหายใต้ท้องทะเล ที่แนวปะการังด้านในเหลือแต่เศษซากจากการทิ้งสมอ และท่องเที่ยวโดยขาดความรู้ของนักท่องเที่ยว ได้ทำลายปะการังจนเหลือน้อยกว่า 5% 

'สิงห์ เอสเตท' ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ มอบของขวัญจากทะเล

ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล กับจิตสำนึกของผู้ประกอบการ อย่าง สิงห์ เอสเตท ที่มีทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ทะเลทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมกับความตระหนักรู้ว่า ทรัพยากรเหล่านี้ หากสูญเสียหรือถูกทำลายไปจนหมด ไม่เพียงแต่การทำให้ธรรมชาติเสียหาย แต่ยังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการทำธุรกิจอย่างแน่นอน สิงห์ เอสเตท ที่มีแนวทางการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างคุณประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกกลุ่ม จึงเลือกให้ความสำคัญกับการรักษาและฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) เป้าหมายที่ 14 Life Below Water การรรักษาระบบนิเวศน์ทางทะเล

"นริศ เชยกลิ่น" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เล่าว่า จากปัญหาปะการังฟอกขาวบริเวณเกาะพีพีและอ่าวมาหยา ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2558 สิงห์ เอสเตท จึงร่วมมือกับกองอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และกลุ่มนักวิชาการ จัดทำโครงการโรงแรมอยู่บนกาะพีพี จึงจัดทำโครงการ “พีพี กำลังจะเปลี่ยนไป” เมื่อปี 2559 ตามแนวคิด “พีพีโมเดล” โดยมีการให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ในการท่องเที่ยวทางทะเลแก่นักท่องเที่ยว และยังสนับสนุนทุ่นจอดเรือ พร้อมเรือตรวจการ เพื่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานใช้ในการทำงาน 

ปี 2560 - 2561  สิงห์ เอสเตท ยังเดินทำโครงการเกี่ยวกับทะเล ชื่อ โครงการ โตไวไว ต่อเนื่อง โดยสนับสนุนการติดตามและฟื้นฟูปะการังในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาพีพี โดยปลูกปะการังด้วยวิธี Coral Propagation บริเวณอ่าวหมาหยา และยังเปิดศูนย์เรียนรู้ทางทะเล บริเวณโรงแรมพีพี ไอแลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท เพื่อให้ความรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ทรัยากรธรรมชาติทางทะเลของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว 

'สิงห์ เอสเตท' ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ มอบของขวัญจากทะเล

ขณะเดียวกันได้เริ่มจัดทำแคมเปญ #SeaYouTomorrow เพื่อรณรงค์ให้คนเมือง ลดการใช้ขยะพลาสติก และปลูกจิตสำนึกการแยกขยะที่ถูกต้องในช่วงวันทะเลโลก ซึ่งปีนี้ สิงห์เอสเตท ได้เดินหน้าแคมเปญ #SeaYouTomorrow ทะเลวันพรุ่งนี้อยู่ในมือคุณ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อปลูกจิตสำนึกในการรักษา หวงแหน และสร้างสมดุลให้ธรรมชาติ และยังสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐฯ และองค์กรต่างๆ เพื่อต่อยอดงานต่างๆ ที่ทำมาแล้วให้เดินหน้าต่อ โดยมีพันธมิตรนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย ร่วมจัดประกวดภาพถ่ายแห่งท้องทะเล ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. – 25 ก.ค. นี้ ทุกภาพมีสิทธิ์ร่วมลุ้นทริป “Explore the Maldives” โดยดูรายละเอียดกิจกรรมได้ที่ www.seayoutomorrow.org

'สิงห์ เอสเตท' ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ มอบของขวัญจากทะเล

ผลของการดำเนินโครงการต่อเนื่องของสิงห์เอสเตท และ พีพี โมเดล ของดร.ธรณ์ เริ่มเห็นผล และเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดย “ดร.ธรณ์” เล่าว่า 3 ปีที่ช่วยกันฟื้นฟู โดยการปิดเกาะยูง ขณะนี้ปะการังเกิดแล้วเป็นแนวยาวหลายพันตารางเมตร นี่แสดงให้เห็นได้ว่า เมื่อให้โอกาสทะเลหรือธรรมชาติฟื้นฟูตัวเอง ธรรมชาติสามารถฟื้นคืนได้ เพราะฉะนั้นพื้นที่ที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ ที่อ่าวมาหยา และเกาะตาชัย โดยขณะนี้ ที่อ่าวมาหยา ที่ปิดไปแล้ว 6 เดือน สิ่งที่ได้เห็นคือ การกลับมาของปลาฉลามที่นับได้กว่า 60 ตัว

'สิงห์ เอสเตท' ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ มอบของขวัญจากทะเล

อีกหนึ่งพื้นที่ที่สิงห์ เอสเตท กำลังเดินหน้าฟื้นฟู คือ พื้นที่บริเวณมัลดีฟส์ ที่สิงห์ เอสเตท กำลังสร้างโครงการ “ครอสโร้ดส์” โดยโครงการฟื้นฟูและรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่มัลดีฟส์ ได้ดำเนินโครงการไปแล้ว โดยการร่วมมือกับภาครัฐและครในท้องถิ่น พร้อมทั้งการจัดสร้างศูนย์เรียนรู้ทางทะเล ที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เกาะพีพีประมาณ 2 เท่า ซึ่งจะเสร็จพร้อมกับการเปิดตัวโครงการปลายปี 2562 นี้

'สิงห์ เอสเตท' ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ มอบของขวัญจากทะเล