500 ผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซ ร่วมปักหมุด “วันช้อปออนไลน์แห่งชาติ 8.8”
500 ผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซ ร่วมปักหมุด “วันช้อปออนไลน์แห่งชาติ 8.8” อัดแคมเปญลดแหลกสูงสุด 80% กระตุ้นยอดขาย คาดเงินสะพัดพันล้าน คนแห่ช็อปมากกว่าแสนราย
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ตลาด ดอท คอม กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภายหลังจากการหารือร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สมาคมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซไทย เพื่อยกระดับงานไทยแลนด์ ออนไลน์เมกะ เซล ไปสู่งานมหกรรมอี-คอมเมิร์ซระดับชาติ ภายใต้ชื่อ ช้อปออนไลน์แห่งชาติ Thailand E-Commerce Day ในวันที่ 8.8 (8 สิงหาคม 2562) นั้นทุกฝ่ายเห็นว่างานดังกล่าวเอกชนจะเป็นผู้นำ และฝ่ายรัฐ เป็นผู้ให้การสนับสนุน ล่าสุดได้เริ่มตั้งคณะทำงานขึ้นมา 10 คณะ อาทิ ด้านมาร์เก็ตเพลส ด้านอี-เพย์เมนต์ ด้านโลจิสติกส์ เพื่อผลักดันงานแต่ละด้านแล้ว
“ยอดขายส่วนใหญ่ของผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซ เกิดขึ้นในช่วงการทำแคมเปญลดราคา ซึ่งหลายๆ ประเทศมีวันช้อปออนไลน์แห่งชาติ ที่ผู้ให้บริการอี-มาร์เก็ตเพลสและพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ต่างมาลดราคาพร้อมกันเพื่อกระตุ้นยอดขาย อย่างประเทศจีนมีวันคนโสด 11.11 หรือทางอเมริกามี Cyber Monday ส่วนในไทยผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสก็จัดแคมเปญ 11.11 หรือ 12.12 ล้อไปกับแคมเปญของบริษัทแม่ ซึ่งไม่ช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมโดยภาพรวม ผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซ จึงต้องการรวบรวมผู้ประกอบการรายใหญ่ รายย่อยเข้ามา ผลักดันแคมเปญระดับชาติขึ้นมา และเป็นการปักหมุดวันช้อปออนไลน์แห่งชาติของไทยเอาไว้”
นายภาวุธ กล่าวต่อไปว่า เดิมกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับเอ็ตด้า จัดงานไทยแลนด์ออนไลน์ เมกะ เซล มาหลายปี แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จมียอดขายตลอด 1 สัปดาห์ของการจัดงานมียอดซื้อขายประมาณ 500 ล้านบาท มีผู้ประกอบการที่ได้รับประโยชน์เพียงไม่กี่ราย แต่ในงานครั้งนี้จะระดมผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซ ทั้ง ลาซาด้า ช้อปปี้ เจดีดอทคอม ผู้ให้บริการอี-เพย์เมนต์ ผู้ให้บริการขนส่งออนดีมานด์ ทั้งแกร็บ , เก็ท และไลน์แมน รวมถึงผู้ประกอบการโซเชียลคอมเมิร์ซเข้ามาร่วมจัดโปรโมชันไม่ตํ่ากว่า 500 ราย และยังมีกิจกรรมไลฟ์สดขายสินค้า ซึ่งน่าจะผลักดันให้เป็นแคมเปญระดับชาติได้ และก่อให้เกิดผลกระทบกับอุตสาหกรรมอี-คอมเมิร์ซไทยมากกว่า
ส่วนกิจกรรมลดราคาสินค้าของแต่ละร้านค้าภายใต้แคมเปญดังกล่าวนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน อย่างไรก็ตามคาดว่าน่าจะลดตั้งแต่ 20-30% ถึงสูงสุด 80% และคาดว่าแคมเปญดังกล่าวนั้นจะมียอดมูลค่าการซื้อขายสินค้ามากกว่า 1,000 ล้านบาท และมียอดผู้เข้ามาซื้อสินค้าในช่วงระยะเวลาดังกล่าวไม่ตํ่ากว่า 1 แสนคน
อนึ่งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) คาดการณ์ว่าในปี 2562 มูลค่าตลาดอี-คอมเมิร์ซของไทยโดยรวมจะมีมูลค่ามากกว่า 3.05 ล้านล้านบาท ส่วนในปี 2561ที่ผ่านมามีมูลค่าประมาณ 2.81 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นประเภท B2B ประมาณ 1.67 ล้านล้าน บาทประเภท B2C มากกว่า 8.12 แสนล้านบาท และ ประเภท B2G ประมาณ 3.24 แสนล้านบาท
หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,479 วันที่ 16 - 19 มิถุนายน พ.ศ. 2562
