ในที่สุด “เกม” ตั้ง “รัฐมนตรี” รัฐบาลใหม่ ที่มี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ รอบ 2 ก็เรียบร้อยโรงเรียน คสช.
ไม่ต่างกับโหวตเลือกนายกฯ คนที่ 30 ในสภา เมื่อตอนต้นเดือน ที่ได้ “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกฯ รอบ 2 ประเทศไทยเลยหยุดลำดับนายกฯ ไว้ที่คนที่ 29 เหมือนเดิม...
หลายคนคงเห็นบรรยากาศชุลมุนชุลเกกันฝุ่นตลบก่อนหน้านั้นแล้วว่าเป็นอย่างไร? แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรในกอไผ่เช่นเดียวกับ “เกม” การตั้ง “รัฐมนตรี” ของรัฐบาลใหม่
ที่ข่าวบอกว่า พรรคร่วมรัฐบาลฟัดกันน่วมเพื่อแย่งโควตารัฐมนตรี กระทรวงเกรด A เกรด B ล่าสุดก็แบ่งโควตากันลงตัวและคงนำพา “รัฐนาวา” ประเทศไทยให้เดินหน้าไปได้เสียที...
ไม่ติดกึก-ติดกักเหมือนหลายๆ เดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับที่มีนักวิเคราะห์ ว่ารัฐบาลใหม่จะมีอายุแค่ 3 หรือ 4 เดือน แต่พลิกย้อนไปดู “อัตลักษณ์” การเมืองไทย ผมก็ว่ารัฐบาลเสียงปริ่มนํ้าจะประคับประคองกันไปได้ระยะเวลาหนึ่ง
ส่วนจะได้นานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยในอนาคต ดูได้ง่ายๆ จากการโหวตเลือกนายกฯ ตอนแรกใครๆ ก็ลุ้นว่าเสียงขั้ว-ฝ่าย “พลังประชารัฐ” จะแตก แต่พออีกขั้ว-ฝ่ายดันหัวหน้าพรรคสีส้มออกมาแข่งเท่านั้น...เสียงของขั้ว-ฝ่าย “พลังประชารัฐ” ก็แน่นปึ้กขึ้นมาทันที
ส่วนที่มีคนตื่นเต้น ว่าให้จับตาศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ หรือรัฐบาล เมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ แล้ว แม้เสียงรัฐบาลจะกํ้ากึ่ง แต่ฝ่ายค้านชุดนี้ยังมือไม่ถึงขั้นล้มรัฐบาลได้
เนื่องจากดาวสภาที่ปากดีทั้งหลาย ซึ่งอยู่อีกขั้ว-ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล ถูกตัดสิทธิไม่ได้ลงรับสมัครเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม และอีกส่วนลงส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์พรรคเพื่อไทยเลยชวดเข้าสภา
ครั้นจะออกไปเคลื่อนไหวนอกสภาก็ทำได้ยาก เพราะกติกาของกฎหมายใหม่ กำหนดโทษไว้รุนแรง จึงได้แต่นั่งดูตาปริบๆ อยู่ข้างนอก (สภา) เท่านั้น
ลองย้อนไปดู “โผ” รายชื่อคณะรัฐมนตรีล่าสุด แม้จะไม่ใช่ประเภท “ดรีมทีม” แต่ก็ไม่ถึงกับขี้เหล่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นวัวเคยขาม้าเคยขี่ เคยเป็นรัฐมนตรีมาแล้ว ถ้าร่วมมือร่วมใจกันก็น่าจะนำพาประเทศไปได้ไม่ยาก
โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน ซึ่ง ยํ่าแย่ในระดับล่างมานานแล้ว เมื่อรัฐมนตรีแต่ละคนต่างก็มีประสบการณ์ตรง ก็หวังว่าปัญหาที่สะสมมาหลายปีจะถูกแก้ไขได้ในที่สุด
อย่าลืมว่า พี่น้องคนไทยให้โอกาส “รัฐบาลและคสช.” มาเกือบ 5 ปีแล้ว เมื่อได้รับโอกาสให้กลับมาทำงานต่ออีก ถ้าหากยังทำเหมือนเดิม ไม่แก้ปัญหาต่างๆ ที่หมักหมม รวมทั้งยังไม่มีผลงานเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ก็คงตัวใครตัวมันแล้วล่ะครับ
อยู่กับปัจจุบัน โดย พงษ์ศักดิ์ ศรีสด
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3479 วันที่ 16-19 มิถุนายน 2562