คมนาคมเร่งเปิดจุดเส้นทางเชื่อมต่อรถไฟสายสีแดง จับมือรฟท.-กทพ.และทช. บูรณาการความร่วมมือมอบ ทช.ดูแลบำรุงรักษาถนนเลียบทางรถไฟ(ตั้งแต่ถนนประชาชื่นถึงถนนกาญจนาภิเษก)ระยะทางไป-กลับ30 กม. เร่งแก้จุดน้ำท่วมแสงสว่างไม่เพียงพอโดยทช.พร้อมตั้งงบปี63 วงเงิน20 ล้านบาทดำเนินการ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการดูแลบำรุงรักษาและปรับปรุงพื้นที่ถนนเลียบทางรถไฟ(ตั้งแต่ถนนประชาชื่นถึงถนนกาญจนาภิเษก) ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) กับกรมทางหลวงชนบท(ทช.)ว่าได้บูรณาการร่วมให้มีผู้รับผิดชอบบำรุงรักษาดูแลเส้นทางถนนเลียบทางรถไฟตั้งแต่ถนนประชาชื่นถึงถนนกาญจนาภิเษก)ระยะทางไป-กลับ30 กม. ที่ปัจจุบันพบว่าบางจุดมีน้ำท่วมแสงสว่างไม่เพียงพอทำให้เดินทางไม่สะดวกปลอดภัยและเข้าถึงการใช้บริการรถไฟสายสีแดงได้ยากเนื่องจากเป็นเส้นทางเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญหลายเส้นทางอาทิถนนราชพฤกษ์ถนนกาญจนาภิเษกเป็นต้นจึงบูรณาการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาโดยมอบหมายให้ทช.รับไปดูแลบำรุงรักษาถนนสายดังกล่าว
สำหรับแนวเส้นทางสายนี้มีสถานีบางบำหรุของรถไฟสายสีแดงตั้งอยู่โดยกทพ.ขอใช้พื้นที่ทางรถไฟก่อสร้างทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตกส่งผลให้ประชาชนใน2 ฝั่งของทางรถไฟและทางด่วนไม่ได้รับความสะดวกด้านการเดินทางจากเดิมที่เคยเดินข้ามไป-มาระดับดินแต่เนื่องจากรฟท.ต้องติดตั้งรั้วตลอดแนวเส้นทางจึงเกิดความไม่สะดวกต่อประชาชนโดยรถไฟสายสีแดงมีแผนเปิดให้บริการปี2564
“ขณะนี้ได้ก่อสร้างทางข้ามให้ประชาชนเดินทางได้รับความสะดวกไว้เรียบร้อยแล้วทั้งสะพานยูเทิรน์สะพานข้ามของรถขนาดเล็กอย่างจักรยานและจักรยานยนต์และสะพานลอยคนข้ามของการเดินเท้า ต่อจากนี้ไปทช.จะเข้าไปบริหารจัดการทั้งการติดตั้งเครื่องสูบน้ำติดตั้งแสงสว่างให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางอย่างสะดวกปลอดภัยเข้าถึงบริการรถไฟสายสีแดงอย่างสะดวกรวดเร็วขึ้น”
ด้านนายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ รองผู้ว่าการฝ่ายกฎหมายและกรรมสิทธิ์ที่ดินทำการแทนผู้ว่าการกทพ. กล่าวว่าโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครได้ออกแบบมาพร้อมกับโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง(สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันและถนนเลียบทางรถไฟ(Local Road)
โดยรฟท.ได้ดำเนินการโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองดังกล่าวก่อนการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตกซึ่งได้มีการก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟไว้บางส่วนระยะทางประมาณ12.5 กิโลเมตร กทพ. ได้เข้าดำเนินการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนฯบนพื้นที่ของรฟท. ต่อมาได้มีการก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟส่วนที่เหลือจบครบถ้วนประกอบด้วยพื้นที่ตั้งแต่สะพานข้ามคลองบางกอกน้อยฝั่งตะวันออก ระยะทางประมาณ2.1 กิโลเมตรซึ่งกทพ. ได้ส่งมอบให้เทศบาลเมืองบางกรวยและพื้นที่ถนนเลียบทางรถไฟด้านทิศเหนือตั้งแต่สะพานข้ามคลองบางกอกน้อยฝั่งตะวันตกถึงถนนกาญจนาภิเษกและพื้นที่ถนนเลียบทางรถไฟด้านทิศใต้ตั้งแต่ถนนกาญจนาภิเษกถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ รวมทั้งถนนเลียบทางรถไฟฝั่งพระนครตั้งแต่ถนนประชาชื่นจนถึงด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษพระราม7 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของรฟท. ระยะทางประมาณ13 กิโลเมตรและอยู่ในพื้นที่ที่กทพ. เวนคืนเพิ่มเติมระยะทางประมาณ4.8 กิโลเมตร
“ตามแนวทางปฏิบัติเมื่อดำเนินการก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟแล้วเสร็จจะต้องส่งมอบให้หน่วยงานท้องถิ่นเช่นกรุงเทพมหานครและเทศบาลเมืองบางกรวยรับมอบเพื่อดูแลบำรุงรักษาและประกาศเป็นถนนสาธารณะก่อนจะขอบรรจบไฟฟ้าสาธารณะต่อไป”
ทั้งนี้รฟท. ได้ส่งมอบถนนเลียบทางรถไฟที่ดำเนินการก่อสร้างในโครงการระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันให้กรุงเทพมหานครเมื่อปี2555 และกทพ. ส่งมอบถนนเลียบทางรถไฟที่ก่อสร้างในโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนฯให้กรุงเทพมหานครเมื่อปี2559 ซึ่งปัจจุบันเทศบาลเมืองบางกรวยได้รับมอบถนนเลียบทางรถไฟแบบต่อบรรจบไฟฟ้าสาธารณะเรียบร้อยแล้วแต่กรุงเทพมหานครยังไม่รับมอบถนนดังกล่าว
“กทพ. จึงได้ประสานรฟท. และทราบว่ารฟท.มีแนวคิดที่จะส่งมอบถนนเลียบทางรถไฟให้ท.ช. ดูแลบำรุงรักษากทพ. จึงขอความอนุเคราะห์กระทรวงคมนาคมพิจารณาแนวทางการดำเนินการโดยการมอบถนนเลียบทางรถไฟให้ทช.เป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาและรับมอบเป็นถนนสาธารณะต่อมากระทรวงคมนาคมจึงได้มอบหมายให้ทช.พิจารณาความเป็นไปได้ในการรับมอบพื้นที่ดังกล่าวโดยให้เข้าไปสำรวจพื้นที่ร่วมกับกทพ. และรฟท.”
นายสุทธิศักดิ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้ประชุมหาข้อสรุปและทำบันทึกข้อตกลงกำหนดเงื่อนไขร่วมกันในการรับรอบถนนเลียบทางรถไฟสายใต้ให้กรมทางหลวงชนบทเพื่อประกอบการดูแลบำรุงรักษาเมื่อวันที่28 พฤษภาคม2562 โดยสรุปได้ว่ากรมทางหลวงชนบทไม่ขัดข้องในการรับมอบถนนเลียบทางรถไฟเพื่อดูแลบำรุงรักษาโดยทั้ง3 หน่วยงานได้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทยการทางพิเศษแห่งประเทศไทยและกรมทางหลวงชนบทจึงได้ร่วมกันพิจารณาจัดทำบันทึกความร่วมมือฯแล้วเสร็จและเป็นที่มาของพิธีลงนามในวันนี้” นายสุทธิศักดิ์ฯกล่าว
ด้านนายกฤชเทพ สิมลี อธิบดีกรมทางหลวงชนบทกล่าวว่าอยู่ระหว่างการเร่งหารือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพื่อติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างให้เพียงพอนอกจากนั้นยังเตรียมตั้งงบกลางปี2563 วงเงินประมาณ20 ล้านบาทไปดำเนินการปรับปรุงจุดต่างๆที่ประชาชนร้องเรียนให้เกิดความปลอดภัยและเกิดประโยชน์ต่อประชาชน