แบรนด์ กิ่งหยกเดินหน้าขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิตรองรับมาตรฐาน อย. ลุยขยายตลาดทั่วประเทศ พร้อมสร้างโรงงานเป็นศูนย์บริการครบวงจรส่งเสริมการขาย เชื่อสามารถสร้างกำไรได้ 2 แสนบาทต่อเดือน
นางสาวธาริณี พรรณภักดี ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลกิ่งหยกผู้ผลิตและจำหน่ายชาสมุนไพแบรนด์ “กิ่งหยก” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการลงทุนก่อสร้างโรงงานเพื่อขยายกำลังการผลิต และให้ได้มาตรฐานตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุ เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ได้รับการรับรองจาก อย. ซึ่งจะสอดคล้องกับกลยุทธ์ในการขยายตลาด เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าไปทั่วประเทศ โดยการรับรองจากอย.ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
ทั้งนี้ หลังจากที่โรงงานก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะประมาณเดือนตุลาคมของปีนี้ แบรนด์จะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายไปสู่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น (7-11eleven), ห้างสรรพสินค้า, บิ๊กซี และโลตัส โดยปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษารายละเอียดทางการร่วมทำธุรกิจอยู่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ ในส่วนของโรงงานแบรนด์ยังมีแผนที่จะทำให้เป็นศูนย์ให้บริการแบบครบวงจร โดยที่ผู้บริโภค หรือผู้ประกอบการสามารถเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมวิธีการผลิต พร้อมกับมีคาเฟ่เกี่ยวกับชาประเภทต่างๆที่นำผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ไปประยุกต์ พร้อมร้านอาหารไว้คอยให้บริการ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี โดยแบรนด์มองว่าที่ตั้งของโรงงานที่อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เป็นทางผ่านของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังพระธาตุนาดูน ซึ่งถือเป็นโอกาสของแบรนด์ที่จะสร้างตลาดดังกล่าว
“เดิมทีผลิตภัณฑ์ของแบรนด์จะมุ่งเน้นการออกงานแสดงสินค้าโอท็อป รวมถึงมีวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและร้านค้าทั่วไปในจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นขอนแก่น,ร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์ และนครพนม เป็นต้น อีกทั้งยังมีจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ผ่านช้อปปี้ (Shopee) และลาซาด้า (Lazada) และเพจของแบรนด์ที่ชื่อ สมุนไพรกิ่งหยก”
นางสาวธาริณี กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากแบรนด์จะจำหน่ายชาสมุนไพรแล้ว ยังมีการจำหน่ายสมุนไพรอบแห้งประเภทต่างๆ เพิ่มเติมด้วย โดยกลยุทธ์ในการทำตลาดหลังจากที่โรงงานก่อสร้างแล้วเสร็จคาดว่าจะทำให้แบรนด์มีกำไรจากการจำหน่ายประมาณ 2 แสนบาทต่อเดือน หรือยอดขายประมาณ 4 แสนบาทต่อเดือน ด้านจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ชาสมุนไพรจะอยู่ที่เรื่องของสรรพคุณซึ่งจะไม่ได้ช่วยแค่ทางด้านผ่อนคลาย แต่ยังสามารถช่วยบำบัดอาการของไมเกรน ลดอาการปวดหัว รวมถึงความดัน และลดนํ้าตาลในกระแสเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีรสชาติที่หอมอร่อยกลมกล่อม
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,478 วันที่ 13 - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2562