“ธนาธร” อย่าทำให้ประเทศชาติวุ่นวาย

09 มิ.ย. 2562 | 11:34 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3477 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 9-12 มิ.ย.2562 โดย... ว.เชิงดอย

 

“ธนาธร” อย่าทำให้ประเทศชาติวุ่นวาย

 

                เรียบร้อยโรงเรียน “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไปแล้ว เมื่อที่ประชุม “รัฐสภา” ที่ประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ลงมติเลือกให้ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นสมัยที่ 2 ด้วย 500 คะแนน (ส.ส.251+ส.ว.249) เสียง ขณะที่คู่แข่งอย่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากขั้ว 7 พรรค โดยมี “เพื่อไทย” เป็นหัวเรือใหญ่ ได้ 244 คะแนน งดออกเสียง 3 เสียง จากจำนวนสมาชิกที่เข้าประชุม 748 คน เสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ เกินกึ่งหนึ่ง คือ 374 เสียง จึงถือว่าได้เป็นนายกฯ ตามกฎหมาย

                สำหรับคนที่งดออกเสียง 3 เสียง ก็ได้แก่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนฯ นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ที่น่าแปลกใจคือ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” ก็งดออกเสียงด้วย ทำให้การก้าวขึ้นสู่นายกฯ สมัย 2 ของ“บิ๊กตู่” ดูไม่สมบูรณ์แบบ 100% เพราะมี “แกะดำ” ในพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ 1 เสียง ที่ “แหก” มติพรรค ถือเป็นปัญหาภายในของ “ภูมิใจไทย” ที่ต้องไปสะสางกันต่อไป

                อ้าว...ไหงพูดอะไรลอยๆ แบบไม่มีเหตุผลรองรับ จะใครล่ะ ก็ “พ่อเอก-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ “ขั้ว 7 พรรค” ส่งเข้าประกวดชิงเก้าอี้นายกฯ พอพ่ายแพ้การโหวตในสภา กลับออกมาบอกว่า “ขอโทษประชาชนที่ทำภารกิจไม่สำเร็จและหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช.ไม่ได้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่วันนี้เราไม่ได้พ่ายแพ้ แต่ชัยชนะของเราถูกปล้นไป”... ก็อยากบอก “ธนาธร” ว่า ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาไปมุดหัวอยู่ที่ไหน สังคมไทยเกิดกลียุค นักการเมืองดื้อด้าน ประเทศเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า มีแต่การประท้วงบนถนน ผู้คนเดินทางไปไหนมาไหนไม่ได้ บ้านเมืองเกิดความแตกแยก จนเกิดรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 “ธนาธร” เคยออกมาพูดอะไรมั้ย ไม่มีเลย พอ “บิ๊กตู่” ยึดอำนาจเข้ามา ทำให้ประเทศชาติสงบ ประชาชนใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข เศรษฐกิจของประเทศเดินไปได้ ยังจะมาทำให้ประเทศชาติวุ่นวายอีกหรือ?

                ในเมื่อ “บิ๊กตู่” ก็มาตามกระบวนการ เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ถูกต้อง เช่นเดียวกับ “ธนาธร” และประชาชนส่วนใหญ่เขาก็เลือกพรรคพลังประชารัฐ และเลือก “บิ๊กตู่” เพราะอยากได้มาเป็นนายกฯ นำพาประเทศชาติไปสู่ “ความสงบ” อีก ขณะเดียวกันคนที่เลือกส.ส.พรรคอนาคตใหม่ คงไม่ใช่เพราะความนิยมส่วนตัวของส.ส. แต่เป็นเพราะเขาเลือก “ธนาธร”... ที่มาของ “ธนาธร” และ “พล.อ.ประยุทธ์” จึงเหมือนกัน อันเกิดจากการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา

                เอาล่ะมาถึงตอนนี้ “ธนาธร” หรือ “ขั้ว 7 พรรค” คงต้องทำใจและเตรียมตัวเป็น “ฝ่ายค้าน” เพราะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาบอกถึงไทม์ไลน์ภายหลังที่ประชุมรัฐสภาโหวตเลือกให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกสมัยว่า จากนี้ทางสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้นำรายชื่อนายกฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ซึ่งเร็วที่สุดน่าจะเป็นภายในวันที่ 6 มิถุนายน จากนั้นก็สุดแล้วแต่จะมีโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อไหร่ และเมื่อโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว ก็เป็นเรื่องที่นายกฯ จะดำเนินการเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งไม่มีกำหนดเวลาว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ คงต้องมีการหารือกับพรรคการเมืองต่างๆ หลังจากนั้นจะส่งรายชื่อครม.ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำรายชื่อทั้งหมดไปตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง

                ส่วนจะได้รัฐบาลชุดใหม่ภายในเดือนนี้หรือไม่ นายวิษณุ บอกว่า โดยทั่วไปก็ไม่ควรจะยาวนาน นับจากวันที่ 6 มิถุนายน ก็เหลืออีก 24 วัน ก็น่าจะสามารถทำได้ แต่สิ่งที่ควรจะต้องทำไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลคงทราบแล้ว ก็คือในระหว่างที่จะจัดตั้งครม. สิ่งที่ควรทำไปพร้อมๆ กันคือการ “ยกร่างนโยบาย” เพราะเมื่อไปถึงวันถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว หลังจากนั้นจะต้องมีการแถลงนโยบายภายใน 15 วัน ดังนั้นควรใช้เวลาช่วงนี้ ซึ่งยังไม่ได้นับหนึ่งมายกร่างนโยบายไว้ก่อน พอจัดตั้งครม.เสร็จ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว ก็นำนโยบายที่จัดทำเสร็จแล้วมาปรับปรุงอีกไม่มากนัก แล้วเสนอ จากนั้นก็สามารถเดินหน้าเรื่อง 15 วันได้เลย... สรุปง่ายๆ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ได้เห็นโฉมหน้า “รัฐบาล-ครม.ใหม่” แน่นอน ส่วน “รัฐนาวา” ลำนี้ ซึ่งอยู่ในสภาวะที่เรียกว่า “เสียงปริ่มนํ้า” จะแล่นไปได้ไกลและนานแค่ไหน ต้องคอยติดตาม...

                ปิดท้ายที่... สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ สุริยน ศรีอรทัยกุล ประธานคลัสเตอร์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์จัดงาน “Longest Runway” (ลองเกสต์ รันเวย์) แฟชั่นรันเวย์ยาวที่สุดภายใต้ธีม “คันทรี อิมเมจ”  ตอกยํ้าความเป็นศูนย์กลางของฐานการผลิตสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ในภูมิภาคอาเซียน ในวันพุธที่ 12 มิถุนายนนี้ เวลา 13.00 น. ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม