คุณูปการ “ป๋าเปรม” วางรากฐานบูมท่องเที่ยวไทย

06 มิ.ย. 2562 | 11:47 น.

ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3476 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 6-8 มิ.ย.2562 โดย... พริกกะเหรี่ยง

 

คุณูปการ “ป๋าเปรม” วางรากฐานบูมท่องเที่ยวไทย

 

                .....หากจะพูดถึงคุณงามความดีของ “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” ที่ได้ทดแทนคุณแผ่นดินนี้ไว้ คงกล่าวขานกันไม่จบ ผลงานที่โดดเด่นด้านเศรษฐกิจมีมากมาย เพราะตลอด 8 ปี ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทำให้ประเทศไทยเป็นยุค “โชติช่วงชัชวาล” แม้จะเจอวิกฤตินํ้ามันแพงก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการค้นพบแหล่งพลังงานในอ่าวไทย หรือโครงการขนาดใหญ่ที่เป็นการวางรากฐานพัฒนาประเทศภายใต้โครงการ อีสเทิร์นซีบอร์ด สร้างท่าเรือขนาดใหญ่ มาบตาพุด แหลมฉบัง  ก็เกิดขึ้นในสมัยนั้น และยังถือเป็นต้นแบบปฐมบทที่ส่งผลมาถึงรัฐบาลนี้กำลังผลักดันโครงการ “อีอีซี” ของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”

                .....แต่ที่คนทั่วไปคงนึกไม่ถึงว่า “ป๋าเปรม” ยังมีบทบาทสำคัญและเป็นคุณูปการ แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ที่คนในวงการท่องเที่ยวยังจำได้ดี เพราะกลายเป็นจุดหักเหที่ทำให้การท่องเที่ยวไทยกลายเป็นธุรกิจที่นำรายได้หลักเข้าประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยจนทุกวันนี้ ซึ่งล้วนแต่เป็นการริเริ่มของ “ป๋าเปรม” นายกรัฐมนตรี ที่เริ่มต้นประกาศให้ปี 2530 เป็นปี “วิสิตไทยแลนด์เยียร์ 1987” ซึ่งขณะนั้นมี “ธรรมนูญ ประจวบเหมาะ” เป็นผู้ว่าการ ททท. ก็เด้งรับทันทีมีการสั่งการให้ สำนักงานททท.ในประเทศและโดยเฉพาะททท.ในต่างประเทศทั้ง 12 แห่ง รับลูกโหมโรงตีปี๊บกันยกใหญ่ เชื้อเชิญสื่อมวลชน เอเยนต์ทัวร์ จากทั่วโลกเข้ามาวิสิตประเทศไทย สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทย เพื่อนำเรื่องราวดีๆ กลับไปเสนอขายและถ่ายทอดแก่นักท่องเที่ยว

                .....จุดไฮไลต์ที่ถูกนำมาทำพีอาร์ในขณะนั้น คือการเฉลิมฉลอง 200 ปี กรุงเทพมหานคร และพระราชพิธีโบราณ เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งมีการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ตลอดทั้งปี รวมถึงพระราชพิธีโบราณที่หาชมได้ยาก ถวายผ้าพระกฐิน พยุหยาตราทางชลมารค ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลมาเที่ยวเมืองไทย พุ่งขึ้นทันตาเห็น โดยสถิติปี 2529 มีนักท่องเที่ยว 2.8 ล้านคน ปี 2530 พุ่งขึ้น 23% เป็น 3.48 ล้านคน ปี 2531 เพิ่มเป็น 4.2 ล้านคน และปี 2533 ทะลุ 5.2 ล้านคน จากผลของแคมเปญดังกล่าว            

                .....จนเกิดปัญหาห้องพักโรงแรม ขาดแคลนอย่างหนักตามมา และถึงขั้นเปิดศึกทะเลาะกันระหว่างสมาคมโรงแรมไทยกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวหรือ (แอตต้า) จากปัญหาห้องพักมีเท่าไรไม่พอขาย และโรงแรมก็เล่นตัวฉวยโอกาสโก่งราคาค่าห้อง บริษัททัวร์อยากได้ห้องแต่โรงแรมไม่มีให้ หรือถ้ามีก็ต้องจ่ายแพง เป็นต้น จนผู้เกี่ยวข้องอย่าง “ททท.” ต้องออก “หย่าศึก” หลายยก ขณะนั้น บางครั้งบริษัทนำเที่ยวถึงขนาดต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า พานักท่องเที่ยวไปพักตาม อพาร์ตเมนต์ โรงพยาบาล ผลที่ตามมานักลงทุนแห่สร้างโรงแรมกันยกใหญ่เพื่อเปิดให้ทันรับนักท่องเที่ยวที่กำลังเฟื่องฟูจัด

                .....ความสำเร็จของ “ปีวิสิตไทยแลนด์เยียร์” เกิดขึ้นอย่างมีแบบแผนและขั้นตอนปฏิบัติ ที่มีการเตรียมการล่วงหน้า 1 ปี โดยมีการแต่งตั้ง “จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา” เป็นประธานทำงาน รัฐบาลโดย “พล.อ.เปรม” นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศเป็น“วาระแห่งชาติ” แบ่งสันปันส่วนงาน ตามความถนัด เน้นการพีอาร์ในต่างประเทศ ส่วนในประเทศ ก็รณรงค์ให้คนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดี ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากกระทรวง ทบวง กรม สถานทูต ที่ต้องเป็นหน้าด่าน ในการเชิญแขกมาเที่ยว หอการค้าต่างประเทศ ภาคเอกชน สายการบินต่างๆ ให้การร่วมมือเป็นอย่างดีเพื่อให้รายได้จากการท่องเที่ยวกระจายสู่ท้องถิ่น

                .....ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย และปีวิสิตไทยแลนด์เยียร์ กลายเป็น “โมเดล” ของความสำเร็จทางด้านการท่องเที่ยวไทย ที่ทำให้หลายประเทศแอบอิจฉา และ “ยึด” เป็นแบบอย่าง เกาหลีถึงขั้นส่งเจ้าหน้าที่เข้ามา ขอพบผู้ว่าการททท. เพื่อขอคำแนะนำ และศึกษารูปแบบของผลสำเร็จดังกล่าว ซึ่งลึกๆ แล้วไม่ใช่ว่าความสำเร็จจะอยู่ที่เม็ดเงินโฆษณา เป็นหลัก แต่แท้จริงแล้วอยู่ที่ว่าประเทศไทยอุดมไปด้วย วัฒนธรรม ประเพณีมีสตอรีมากมายที่เป็นรากเหง้าของการสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีอันดีของไทย ที่มีมาแต่โบราณได้อวดชาวต่างชาติ ซึ่งประเทศอื่นไม่มีและมีเงินก็สร้างขึ้นมาไม่ได้ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของการท่องเที่ยวไทยที่คู่แข่งไม่มี

                .....ขณะที่ประเทศมาเลเซีย ไม่พูดพรํ่าทำเพลง ประกาศ “ปีการท่องเที่ยวมาเลเซีย” ในปีถัดมา หรือแม้กระทั่งประเทศต่างๆ ในหมู่สมาชิกอาเซียนก็เห็นพ้องต้องกัน ใช้ “โมเดล” ผลสำเร็จของไทย ประกาศเป็นปี “วิสิต อาเซียน เยียร์” เชิญชวนนักท่องเที่ยวโลกมาเยือนประเทศในภูมิภาคอาเซียน ในปี 2532 เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับวงการท่องเที่ยวไทย ที่คนยุคนี้อาจไม่รู้มาก่อนหรือหลงลืมไปบ้างจึงขอรื้อฟื้นความทรงจำอีกครั้ง ถึงคุณูปการของรัฐบุรุษของไทย “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” ที่ได้มีส่วนในการวางรากฐานทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยบูมสุดขีดจนถึงทุกวันนี้

                .....ไหนๆ ก็พูดถึงการท่องเที่ยวไทยแล้ว ย่างเข้าฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ  “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ ททท.เลยจัดหนักอัดฉีดแคมเปญ กระตุ้นนักท่องเที่ยวถี่ยิบ ผ่านหลายช่องทางและหลากหลายรูปแบบ ทั้งกิน ทั้งเที่ยว สนุกสนาน ตั้งแต่ดนตรี อาหาร เทกระจาดลดค่าห้องพัก ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า จนถึงรางวัลใหญ่ชิงโชคแจกรถยนต์ “ฟอร์จูนเนอร์” ราคาเกือบ 2 ล้านบาท

                เริ่มตั้งแต่สิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จัดมหกรรมดนตรีเมืองพัทยา ต่อด้วยวันที่ 7-8 มิถุนายน เทศกาลแจ๊ซชายหาดหัวหิน และช่วงเดียวกันวันที่ 7-8 มิถุนายน จัดงานมหกรรมอาหาร Amazing thai test ซึ่งจะโชว์ทีเด็ด รวมอาหารอร่อยทั่วไทย 120 ร้านตั้งแต่สตรีตฟู้ด อาหารเหลา จนถึงมิชลินสตาร์ มาเสิร์ฟเมนูเด็ด ณ “สยามสแควร์” ให้คนกรุงและนักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองกันเต็มอิ่ม เรียกว่า กระตุ้นทุกทางแต่ละงาน จัดหนัก จัดเต็มตามที่ “รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ให้การบ้านไว้เด๊ะ นอกจากนี้ยังสามารถนำเงินค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีเรียกว่าเที่ยวหน้าฝนได้หลายเด้งคุ้มสุดคุ้มนะจะบอกให้