“วรวิทย์”ลั่น ก.ล.ต.พร้อมทำงานเชิงรุก รับมือการลงทุนรูปแบบใหม่

29 พ.ค. 2562 | 07:21 น.

วันที่ 29 พ.ค.2562  “ฐานเศรษฐกิจ” จัดงานสัมมนา "ตลาดหุ้นไทย ภายใต้รัฐบาลใหม่ : ลงทุนอย่างไรให้ปัง" ซึ่งเป็นการชี้อนาคตหุ้นไทยภายหลังการเลือกตั้ง ทิศทางจะเป็นอย่างไร  ที่ห้องรอยัลมณียา บอลรูม ชั้น M โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ 

วรวิทย์ จำปีรัตน์

นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ประธานกรรมการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “บทบาท ก.ล.ต. ภายใต้กฎหมายใหม่และบริบทโลกที่เปลี่ยนไป” กล่าวว่า พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2562  เป็นการปรับเปลี่ยนกฎหมายให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องต้องเท่าทันกับการเปลี่ยน ต้องทำงานเขิงรุก ต้องเตรียมการพื้นฐานข้อมูลที่เป็นระบบ ต้องมีการใช้ระบบที่ทันสมัยเข้ามาช่วย 

 

“จะใช้ประสบการณ์หรือความจำอย่างเดียวคงไม่ทันการณ์ หลายอย่างจะต้องใช้ความรวดเร็ว การทำเชิงรุกต้องมีข้อมูลเป็นระบบ ถ้ามีระบบทันสมัยจะช่วยให้การพยากรณ์ที่คาดการณ์ล่วงหน้าในอนาคตเพื่อนำมาศึกษาและรับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงที  ก.ล.ต. เองก็รับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกเช่นกัน มีการพัฒนากฎหมายมีการผลักดันที่ทันสมัย อาทิ พระราชกําหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ทันต่อเทคโนโลยีการลงทุนที่เปลี่ยนไป ด้านการคุ้มครองผู้ลงทุนจะต้องไม่หย่อนยาน มีความร่วมมือจากหลายภาคส่วน” นายวรวิทย์ กล่าว

“วรวิทย์”ลั่น ก.ล.ต.พร้อมทำงานเชิงรุก รับมือการลงทุนรูปแบบใหม่
 

ประธานบอร์ดก.ล.ต. กล่าวอธิบายเพิ่มเติมว่า พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฉบับใหม่ มีการแก้ไข 6 เรื่องสำคัญ 1.ปรับปรุงการกับกำกับให้รองรับธุรกิจรูปแบบใหม่ ยืดหยุ่น รองรับการบริการที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม  2.คุ้มครองผู้ลงทุน เพื่อความคล่องตัวในการจัดการกองทุนรวม ยกระดับวิชาชีพหลักทรัพย์ที่จัดการกองทุนรวม หรือ บลจ. กำหนดให้ชัดเจนมากขึ้น บลจ.ต้องปฏิบัติหน้าที่จัดการกองทุนรวมด้วยความซื้อสัตย์สุจริต รักษาประโยชน์ของผู้ถือหุ้น

3.ยกระดับการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ให้เป็นมาตรฐานกล กำหนดการดำเนินกิจการของตลาดหลักทรัพย์ให้มั่นคง ตรวจสอบได้ การคัดเลือกกรรมการให้มีความโปร่งใส  4. เพิ่มศักยภาพการแข่งชันของตลาดทุน  5.มีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน ให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาตลาดทุน กำหนดนโยบายการพัฒนาตลาดทุนให้ไปทิศทางเดียวกัน  และ 6. เป็นเรื่องของก.ล.ต.ที่ต้องมีการปรับตัวในการดำเนินการ ต้องบูรณาการกับภาคส่วนต่าง แผนงานของก.ล.ต.ต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

“วรวิทย์”ลั่น ก.ล.ต.พร้อมทำงานเชิงรุก รับมือการลงทุนรูปแบบใหม่

เชื่อว่ามีความท้าทายที่จะต้องเผชิญในโลกที่เปลี่ยนไปอย่างเร็ว ก.ล.ต.และทุกภาคส่วนต้องทำงานเชิงรุกเพื่อเตรียมความพร้อมในการประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิด และเรื่องสำคัญนักลงทุนต้องระมัดระวังในการลงทุน เพราะภาวะนี้ของตลาดโลกทั้งยุโรปและอเมริกามีผลกระทบพอสมควร ก็ขอให้ทุกท่านประสบความโชคดี”ประธาน ก.ล.ต. กล่าว