กรมศุลกากร เปิดใช้ อิเล็กทรอนิกส์การค้าชายฝั่ง รองรับการพัฒนาเขตอีอีซี เพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางเรือเพิ่มขึ้น
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดี กรมศุลกากร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการระบบพิธีการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการค้าชายฝั่ง หรือ E-Coastal Trading System หวังอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการทางเรือ จากเดิมต้องยื่นเอกสารตรวจปล่อยสินค้ากับเจ้าหน้าที่ศุลกากร ทำให้เกิดต้นทุนทางเอกสารเป็นจำนวนมาก 5-6 แสนฉบับ ได้ปรับลดงเหลือ 400 ฉบับ หรือลดลง 90% โดยไม่ต้องพบกับเจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการสามารถส่งข้อมูลรายงานปริมาณสินค้าเข้า-ออก และปฏิบัติพิธีการศุลกากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ทราบข้อมูลล่วงหน้า ทั้งน้ำหนัก จำนวนตู้สินค้าที่บรรทุกมากับเรือค้าชายฝั่ง นอกจากนี้เอกชนยังชำระค่าประภาคารค่าธรรมเนียมปล่อยเรือ ผ่านระบบ E- payment รวมทั้งชำระผ่าน internet banking, Mobile Application, ตู้ atm รวมไปถึงชำระผ่านตัวแทนรับชำระเงินที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ได้ทุกพื้นที่
กรมศุลกากรยังเตรียมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบ e - export เพื่อตัดบัญชีใบกำกับตู้สินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการขนส่งของผู้ประกอบการ, เรือค้าชายฝั่ง, ท่าเทียบเรือและผู้ส่งออกแบบไร้เอกสาร คาดว่าจะทำให้ผลการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจด้านการค้าระหว่างประเทศ จากธนาคารโลก ทำให้ไทยมีอันดับดีขึ้น และผลักดันให้การค้าชายฝั่งของไทยเท่าเทียมกับมาตรฐานทั่วโลก ประกอบกับรองรับ การขยายตัวของการขนส่งสินค้าชายฝั่ง และลดปริมาณการขนส่งทางบก รองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก การพัฒนาท่าเรือ
ส่วนการปรับปรุงท่าเรือส่วน D ครั้งนี้ ฮัทชิตสันผู้รับสัมปทาน ได้ลงทุนปั้นจั่นอัตโนมัติ 6 ตัว เงินลงทุนตัวละ 300 ล้านบาท รองรับการขนส่งสินค้าได้ 3.5 ล้าน BTU ต่อปี เมื่อร่วมทั้งท่าเรือน้ำลึกส่วน A และ B จะทำให้ครอบคลุมปริมาณขนส่งสินค้ามากกว่า 50% ของการขนส่งสินค้าทั้งหมดภายในท่าเรือแหลมฉบัง
สำหรับสัดส่วนการขนส่งสินค้าผ่านเข้ามา ยังเป็น ทางเรือประมาณ 5% สัดส่วนการขนส่งทางบกยังสูงถึง 93% ส่วนสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรถไฟ 3% เมื่อระบบพิธีการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการค้าชายฝั่ง จะอำนวยความสะดวกมากขึ้น