สอย 'ธนาธร' สะเทือนอาณาจักรแสนล้านไทยซัมมิต

คอลัมน์อยู่บนภู วันที่ 25 พ.ค.2562 ฐานเศรษฐกิจ โดย...กระบี่เดียวดาย

สอย 'ธนาธร' สะเทือน
อาณาจักรแสนล้านไทยซัมมิต

          มีคำกล่าวที่เป็นวลีอมตะมาช้านานในวงการเมืองที่ว่า ”ถ้าอยากรู้จักประวัติ กำพืดตัวเองให้มากขึ้น ให้เข้ามาลงเล่นการเมือง” ด้วยเหตุว่าจะมีผู้คนช่วยในการขุดค้น ตรวจสอบประวัติของนักการเมืองอย่างชนิดเข้มข้น โดยเฉพาะหากคนๆนั้นเป็นนักการเมืองดังหรือมีบทบาท นัยยะที่สามารถส่งผลกระเทือนทางการเมือง นัยหนึ่งของวลีนี้เพื่อความโปร่งใสของตัวนักการเมือง ที่ต้องถึงขั้นแทบเปลือยเปล่าต่อสาธารณะ นัยหนึ่งอาจเป็นหาจุดอ่อนข้อบกพร่องย้อนไปในอดีต เปรียบเทียบกับการกระทำหรือคำพูดของนักการเมืองผู้นั้นในปัจจุบันที่โดยส่วนใหญ่พฤติกรรมของบุคคลธรรมดาเปลี่ยนไปเมื่อเข้ามาเป็นนักการเมือง หรือนัยหนึ่งเพื่อกีดกัน เตะตัดขา สกัดกั้นคู่แข่งในทางการเมือง 

          แน่นอน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ่อของฟ้าในโลกโซเชียลอันเกรียวกราว คงจะเริ่มลึกซึ้งถึงวลีอมตะดั่งว่า เมื่อเหยียบบาทก้าวเข้าสู่การเมือง ไม่นับรวมช่วงการเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงเป็นนักศึกษา ธนาธร ถูกคดีอยู่ในชั้นต่างๆขณะนี้รวมแล้ว 6-7 คดี มีคดีเกี่ยวกับเลือกตั้ง 3 คดี คุณสมบัติต้องห้ามถือหุ้นสื่อก่อนลง ส.ส. คดีให้กู้พรรค คดี Blind Trust และคดีอาญา

          ทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยคุณสมบัติถือหุ้นสื่อก่อนเป็น ส.ส.และยุติการปฏิบัติหน้าที่ ธนาธรออกมาแถลงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อไม่ให้เข้าสภาฯก็จะไปอยู่กับประชาชน พร้อมปลุกใจมวลสมาชิกสู้ ไม่แน่ใจว่าสู้ด้วยความหวั่นไหว หรือสู้ด้วยใจที่แข็งแกร่ง เดินหน้าเต็มกำลังหรือสู้พลางถอยพลาง ธนาธรอาจจะสู้เพื่อสานฝันอุดมการณ์ แต่ต้องยอมรับว่าการเลือกลงมาคลุกแวดวงการเมืองของธนาธรมีผลสะเทือนไปยังอาณาจักธุรกิจแสนล้านของสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เป็นมารดา ที่แสดงความไม่ปรารถนาแต่ต้นให้ธนาธรลงมาการเมือง ที่บอกว่าสะเทือนอย่างกรณีโอนหุ้นสื่อ อาจมีคดีต่อเนื่องไปถึงผู้โอน กรณีสอบสวนทวนความพบในเรื่องเอกสารที่เป็นคดีอาญาต่อเนื่องตามมา  

          ย้อนกลับไปดู ประวัติ “สมพร  จึงรุ่งรืองกิจ” ประธานบริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด หรือ ไทยซัมมิท กรุ๊ปส์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย     เมื่อปี 2561 “ สมพร” ติดทำเนียบเศรษฐีในอันดับที่  28  ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน ปี 2560 ที่มีกว่า 40,000 ล้านบาท ด้วยทรัพย์สินรายได้ที่เติบโตจากธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ ที่รับช่วงต่อจากสามี  “พัฒนา  จึงรุ่งเรืองกิจ” (ถึงแก่กรรมปี 2545) ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทไทยซัมมิทฯ จนชื่อเสียงสมพร เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทยและบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชีย  

          มีบริษัทในเครือมากกว่า 40 บริษัท รวมอาณาจักรการลงทุนทั้งหมดของสมพรทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยมูลค่านับแสนล้านบาท ทั้งอสังหาริมทรัยพ์ สนามกอล์ฟ ธุรกิจอสังหาฯในย่านถนนบางนา-ตราด  ธุรกิจปล่อยเช่าอาคารในต่างประเทศขยายฐานออกไปลงทุนด้านชิ้นส่วนรถยนต์ในต่างประเทศจนมีฐานการผลิตนอกบ้านแล้วใน7ประเทศ แม้จะผ่องถ่ายให้ลูกๆแต่ละคนดูแลแต่สมพร ยังกุมอำนาจใหญ่ในไทยซัมมิต

          ว่ากันว่าสมพร เป็นคนกระเหม็ดกระแหม่ เป็นคนใช้เงินเป็น และมีความละเอียดในการบริหารเงิน ทุกบาททุกสตางค์มีความหมาย การก้าวขึ้นคุมธุรกิจแสนล้านแทนสามีของสมพรและขยายอาณาจักรขึ้นสู่ระดับแสนล้าน ชี้ให้เห็นว่าสมพร ไม่ธรรมดา มิฉนั้นคงไม่ก้าวมาถึงขั้นนี้ เป็นหญิงเหล็กที่ผ่านการฟาดฟันต่อสู้มาทุกรูปแบบ แต่เมื่อลูกชายเลือกเดินบนถนนการเมือง ก็มิอาจแยกจากครอบครัวโดยสิ้นเชิง

          เมื่อลูกชายโดนกระหน่ำรอบทิศ สมพร จึงต้องหาหนทาง แต่จะเป็นหนทางสู้หรือหนทางถอย !!

          แว่วว่า งานนี้สมพรจะสู้ยิบตา จะแพ้หรือชนะ อีกไม่นานรู้กัน